รฟท. ประกาศงดเดินขบวนรถท่องเที่ยว และขบวนรถเชิงพาณิชย์ ขอคืนเงินค่าตั๋วได้เต็มราคา

รฟท. ประกาศงดเดินขบวนรถท่องเที่ยว และขบวนรถเชิงพาณิชย์ ขอคืนเงินค่าตั๋วได้เต็มราคา

รฟท. ประกาศงดเดินขบวนรถท่องเที่ยว และขบวนรถเชิงพาณิชย์ ขอคืนเงินค่าตั๋วได้เต็มราคา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากที่มีประกาศจากทางการรถไฟไทยออกมาว่าจะงดเดินขบวนรถท่องเที่ยว และขบวนรถเชิงพาณิชย์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ซึ่งหลายๆ คนอาจจะกำลังใจหากจองตั๋วรถไฟล่วงหน้าไว้แล้วจะทำอย่างไรดี คำตอบคือสามารถขอคืนค่าตั๋วได้แบบเต็มราคาเลยครับ

โดยทางเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้แจ้งว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย ประกาศงดเดินขบวนรถท่องเที่ยว จำนวน 12 ขบวน ตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม 2564 และขบวนรถเชิงพาณิชย์ จำนวน 30 ขบวน ตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้โดยสารสามารถนำตั๋วโดยสารมาติดต่อขอรับเงินคืนได้เต็มราคาเป็นกรณีพิเศษทุกสถานีทั่วประเทศ ทั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของ ศบค. เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19)

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามนโยบายของ ศบค. ที่ต้องการให้หลีกเลี่ยงการเดินทางเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) การรถไฟฯ จึงได้ประกาศงดเดินขบวนรถท่องเที่ยวที่ให้บริการเป็นประจำทุกวันเสาร์-อาทิตย์ จำนวน 12 ขบวน ตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม 2564 และขบวนรถ เชิงพาณิชย์ จำนวน 30 ขบวน ตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2564

ประกอบด้วยขบวนรถท่องเที่ยวที่งดเดิน (จำนวน 12 ขบวน)

  • ขบวนรถพิเศษนำเที่ยวที่ 997/998 กรุงเทพ – พลูตาหลวง – กรุงเทพ
  • ขบวนรถพิเศษนำเที่ยวที่ 909/910 กรุงเทพ – น้ำตก – กรุงเทพ
  • ขบวนรถพิเศษนำเที่ยวที่ 911/912 กรุงเทพ – สวนสนประดิพัทธ์ – กรุงเทพ
  • ขบวนรถพิเศษนำเที่ยวที่ 915/916 กาญจนบุรี – น้ำตก – กาญจนบุรี
  • ขบวนรถพิเศษนำเที่ยวที่ 921/926 กรุงเทพ – โคกสลุง - เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ – กรุงเทพ
  • ขบวนรถพิเศษนำเที่ยวที่ 923/928 กรุงเทพ – โคกสลุง - เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ – กรุงเทพ (เที่ยว 2)

ขบวนรถเชิงพาณิชย์ที่งดเดินในเส้นทางสายเหนือ สายอีสาน และสายใต้ (รวมทั้งสิ้น 30 ขบวน) ได้แก่

สายเหนือ (8 ขบวน)

  • ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 9/10 (อุตราวิถี) กรุงเทพ – เชียงใหม่ – กรุงเทพ
  • ขบวนรถด่วนที่ 51/52 กรุงเทพ – เชียงใหม่ – กรุงเทพ
  • ขบวนรถเร็วที่ 107/108 กรุงเทพ – เด่นชัย – กรุงเทพ
  • ขบวนรถเร็วที่ 109/102 กรุงเทพ – เชียงใหม่ – กรุงเทพ

สายอีสาน (12 ขบวน)

  • ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 23/24 (อีสานวัตนา) กรุงเทพ – อุบลราชธานี – กรุงเทพ
  • ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 25/26 (อีสานมรรคา) กรุงเทพ – หนองคาย – กรุงเทพ
  • ขบวนรถด่วนที่ 71/72 กรุงเทพ – อุบลราชธานี – กรุงเทพ
  • ขบวนรถด่วนที่ 75/76 กรุงเทพ – หนองคาย – กรุงเทพ
  • ขบวนรถเร็วที่ 139/140 กรุงเทพ – อุบลราชธานี – กรุงเทพ
  • ขบวนรถเร็วที่ 145/146 กรุงเทพ – อุบลราชธานี – กรุงเทพ

สายใต้ (10 ขบวน)

  • ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 31/32 (ทักษิณารัถย์) กรุงเทพ – ชุมทางหาดใหญ่ – กรุงเทพ
  • ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางที่ 39/40 กรุงเทพ – สุราษฎร์ธานี – กรุงเทพ
  • ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางที่ 43/44 กรุงเทพ – สุราษฎร์ธานี – กรุงเทพ
  • ขบวนรถด่วนที่ 83/84 กรุงเทพ – ตรัง –กรุงเทพ
  • ขบวนรถเร็วที่ 175/176 ชุมทางหาดใหญ่ – สุไหงโกลก – ชุมทางหาดใหญ่

โดยผู้โดยสารสามารถนำตั๋วโดยสารมาติดต่อขอรับเงินคืนได้เต็มราคาเป็นกรณีพิเศษทุกสถานีทั่วประเทศ

นอกจากนี้ การรถไฟฯ มีการดำเนินการตามมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ขั้นสูงสุด เพื่อป้องกันและดูแลความปลอดภัย พร้อมอำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ผู้โดยสาร ทั้งในขบวนรถโดยสาร สถานีรถไฟทั่วประเทศ ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม และกรมการขนส่งทางราง ดังนี้

1.ประกาศใช้มาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) สูงสุดทั่วประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยแก่ผู้โดยสาร โดยมีการตั้งจุดคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิ บริการเจลแอลกอฮอล์แก่ผู้โดยสาร

2.ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการป้องกันตนเองผ่านช่องทางต่างๆ โดยเน้นย้ำให้มีการทำความสะอาดสถานีรถไฟ ขบวนรถโดยสาร สถานที่จำหน่ายตั๋วโดยสาร ที่พักผู้โดยสาร สถานที่ให้บริการ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ หรือแอลกอฮอล์สม่ำเสมออย่างน้อยทุกๆ 2 ชั่วโมง และฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อขบวนรถโดยสารทั้งสถานีต้นทางและปลายทางทุกครั้ง

3.เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดมากขึ้นในช่วงเวลาที่มีผู้โดยสารใช้บริการหนาแน่น โดยทำความสะอาดรอบใหญ่ หรือ Big Cleaning ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อบริเวณอาคารสถานี ชานชาลา ที่พักผู้โดยสาร ห้องสุขาทุก 3 วัน รวมถึงการทำความสะอาดอุปกรณ์ที่มีผู้โดยสารใช้ร่วมกันทุก 1 ชั่วโมง

4.ขอความร่วมมือผู้โดยสารทุกคนให้ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ด้วยการสวมหน้ากากอนามัยตลอดการเดินทาง และลงทะเบียนหรือสแกนคิวอาร์โค้ด เช็กอิน/เช็กเอาต์ที่แอพพลิเคชั่นไทยชนะทุกครั้งที่ใช้บริการเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) และหากพบเห็นผู้โดยสารที่มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ ทั้งบริเวณสถานีรถไฟ หรือบนขบวนรถ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ประจำสถานี/ขบวนรถ หรือ ศูนย์ปลอดภัยของการรถไฟฯ โทรศัพท์ 02-5379198 ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ โทรศัพท์สายด่วน 1690 ได้ทันทีตลอด 24 ชั่วโมง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook