หากจะพูดถึงจังหวัดท่องเที่ยวในภาคอีสาน ชื่อของจังหวัดมุกดาหารคงจะไม่เป็นที่คุ้นหูนักในหมู่นักท่องเที่ยว ด้วยความที่จังหวัดแห่งนี้มักจะถูกใช้เป็นทางผ่านไปสู่จังหวัดท่องเที่ยวใหญ่ๆ จังหวัดอื่น แถมยังไม่มีสนามบินให้สามารถบินตรงมาได้ด้วย ด้วยเหตุนี้มุกดาหารจึงไม่เป็นที่นิยมเท่าที่ควร ทั้งที่จริงๆ แล้วมุกดาหารนี้ถือได้ว่าเป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวครบครันมากๆ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ หรือจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ซึ่งหากใครก็กังวลเรื่องการเดินทางก็สามารถนั่งเครื่องมาลงที่นครพนมเพื่อต่อรถมาได้ไม่ไกล ซึ่ง Sanook Travel เราได้มีโอกาสเดินทางไปร่วมทริปท่องเที่ยวมุกดาหาร ภายใต้โครงการ “ม่วนซื่นริมแม่น้ำโขง” ของทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เราจะพาทุกคนไปพิสูจน์กันว่ามุกดาหาร เมืองริมโขงแห่งนี้มีดีอย่างไร
เริ่มต้นการเดินทางกันที่หมู่บ้านท่องเที่ยวชุมชนบ้านภู หรือบ้านหลุมภู สถานที่ที่จะทำให้คุณได้รับความอบอุ่นจากการต้อนรับจากชาวบ้านเสมือนกับได้กลับมาเยี่ยมเยือนญาติในบ้านเกิดเลย
ชุมชนแห่งนี้รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ มีประเพณี วัฒนธรรมที่หาชมยากมาแสดงให้กับนักท่องเที่ยวอย่างเราได้รับชม ไม่ว่าจะเป็นการทำบายศรีแบบโบราณ การฟ้อนรำ และงานหัตถกรรมต่างๆ ของชาวบ้าน ล้วนสร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือน อีกทั้งเรายังได้มีโอกาสทานอาหารฝีมือชุมชนกับเมนูพื้นบ้านรสชาติที่คุ้นเคยอีกด้วย
ก่อนกลับออกจากชุมชนเราได้เดินถ่ายภาพบรรยากาศภายในหมู่บ้าน ได้เห็นความวิจิตรงดงามของสถาปัตยกรรมภายในวัด ทั้งอุโบสถ และสิ่งก่อสร้างต่างๆ ล้วนแต่เป็นงานศิลปะที่งดงามมากจริงๆ เป็นการเปิดหัวท่องเที่ยวมุกดาหารได้อย่างประทับใจ
พิกัดชุมชนท่องเที่ยวบ้านภู : https://goo.gl/maps/88Z59Ziy9gEbjG6z6
ถัดจากท่องเที่ยวชุมชนบ้านภู เราเดินทางกันไปต่อที่ วัดภูมโนรมย์ หรือวัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ แลนด์มาร์คอันโด่งดังของมุกดาหารเลยที่ตั้งอยู่บนยอดเขา โดยเราไม่พลาดที่จะไปถ่ายรูปเช็กอินบริเวณลานองค์พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช สถาปัตยกรรมพญานาคขนาดใหญ่ที่หันหน้าออกสู่แม่น้ำโขง รวมไปถึงขึ้นไปชมวิวบริเวณฐานพระใหญ่ที่สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำโขงได้แบบพาโนรามาด้วย
พิกัดวัดภูมโนรมย์ : https://goo.gl/maps/QrU6PfZQfLPGhZk59
ก่อนจะหมดวัน เราเดินทางไปชิลกันต่อที่สะหวันสำราญ ที่พักและคาเฟ่สุดชิคริมแม่น้ำโขง ท่ามกลางบรรยากาศสุดคลาสสิคของอาคารทรงโบราณ และของตกแต่งสไตล์วินเทจ ที่ถูกจัดวางเอาไว้ได้อย่างสวยงาม
นอกจากนี้อีกหนึ่งโซนที่เป็นไฮไลท์ของสะหวันสำราญนั่นก็คือบริเวณริมน้ำ ที่นั่งในโซนนี้จัดขึ้นในสวนริมน้ำดูสบายตาน่ามานั่งชิล อากาศเริ่มที่จะมีลมพัดเย็นๆ พัดมาให้สบายตัว สั่งอาหารและเครื่องดื่มของทางร้านมานั่งทาน พักผ่อนจากความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง เติมพลังจนเต็มเปี่ยมก่อนจะจากไปพร้อมความทรงจำ
พิกัดสะหวันสำราญ : https://g.page/Savan-Sumran?share
ปิดท้ายวันนี้ด้วยกิจกรรมยอดฮิตของชาวมุกดาหารนั่นก็คือ หมูกระทะริมโขง ที่บริเวณสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 2 ซึ่งตรงจุดนี้จะถูกสร้างให้เป็นถนนคนเดินเลียบน้ำโขง มีร้านค้าร้านขายมากมาย บรรยากาศคึกคัก และชิลมากๆ เมื่อหาที่ทางลงได้แล้วก็ได้เวลาหมูกระทะไทม์ ทานหมูย่างฟินๆ ไปพร้อมกับวิวแม่น้ำโขงในช่วงที่ฟ้าเริ่มจะเปลี่ยนสี เป็นความสุขที่เรียบง่ายแต่แฝงเอาไว้ด้วยความประทับใจอย่างมากที่สุด
พิกัดสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 2 : https://goo.gl/maps/sBPFNpBCngF6mNyH6
เริ่มต้นเช้าวันใหม่ วันที่ 2 ของการเที่ยวมุกดาหาร เราเดินทางไปกันที่วัดสองคอน วัดคริสต์ในเขตบ้านสองคอน อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร วัดคริสต์แห่งนี้เป็นวัดคริสต์ของนิกายโรมันคาทอลิกที่มีความสวยงามแปลกตาไม่เหมือนที่ไหนๆ มีกำแพงโค้งขนาดใหญ่ล้อมรอบวัดเอาไว้ สวยงามในขนาดที่ว่าเคยได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่น จากทางสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์มาแล้วเมื่อปี 2539 สำหรับคนที่ชื่นชอบด้านการถ่ายรูปนั้น วัดสองคอนแห่งนี้ถือเป็นโลเคชันที่คุณไม่ควรพลาด
ภายในโบสถ์เป็นที่ประดิษฐานอัฐิในโลงแก้วของบุญราศีทั้ง 7 ผู้ซึ่งอุทิศชีวิตของตนเองเพื่อพิสูจน์ความจงรักภักดีต่อพระเจ้า เป็นที่สักการะบูชาของคริสต์ศาสนิชนในพื้นที่ใกล้เคียง
ส่วนด้านหลังของทางวัดนั้นจะติดกับแม่น้ำโขงและเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ ประวัติของบุญราศีทั้ง 7 ให้คนรุ่นหลังได้มาศึกษาประวัติศาสตร์อีกด้วย
พิกัดวัดสองคอน : https://goo.gl/maps/e9kEp7Bq5MXNFCJaA
จากนั้นไปกันต่อที่ แก่งกะเบา อีกหนึ่งแลนด์มาร์คของจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจยอดนิยมของชาวมุกดาหารเลยก็ว่าได้ แก่งกะเบาตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง เป็นแก่งหินที่ผุดขึ้นมาจากแม่น้ำ สามารถลงไปเดินเล่นถ่ายรูปชมวิวแม่น้ำโขงแบบใกล้ชิดได้ ลักษณะแก่งนี้จะคล้ายกับสามพันโบกที่จังหวัดอุบลราชธานี
ส่วนบริเวณด้านบนฝั่งนั้นจะมีสถาปัตยกรรมองค์พญานาคขนาดใหญ่ประดิษฐานอยู่ พญานาคองค์นี้สร้างจากหินอ่อน มีลักษณะเหมือนกับผุดขึ้นมาจากพื้นดิน มีชื่อว่าองค์พญาศรีภุชงค์มุกดานาคราช ซึ่งชาวบ้านเชื่อกันว่าหากใครได้เดินลอดท้องพญานาคตามตำราอย่างถูกต้องแล้วจะทำให้ผู้นั้นมีโชคมีลาภกลับไป
ซึ่งหากใครได้มีโอกาสมาที่แก่งกะเบา แทบจะทุกคนต้องมาสักการะพญานาคคู่บ้านคู่เมืององค์นี้ นอกจากนี้ยังถือเป็นมุมถ่ายรูปสวยสำหรับคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพอีกด้วย
พิกัดแก่งกะเบา : https://goo.gl/maps/AKFc5xpTuetmswBT7
และทั้งหมดนี้ก็ความมหัศจรรย์ของมุกดาหาร เมืองที่หลายๆ คนมองข้าม แต่จะเห็นได้ว่าที่นี่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวจริงๆ แถมยังมีความหลากหลายในสไตล์การท่องเที่ยวเป็นอย่างมากอีกด้วย หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เบื่อสถานที่ท่องเที่ยวซ้ำๆ เดิมๆ หรือเบื่อสถานที่แมสๆ ที่เต็มไปด้วยความแออัด มุกดาหารยังคงรอคอยให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนเสมอ มาเก็บความทรงจำและภาพแห่งความประทับใจที่เมืองสวยริมฝั่งโขงแห่งนี้กันครับ
อัลบั้มภาพ 83 ภาพ