คิง เพาเวอร์ เปิดตลาด "พลังคนไทย พลังชุมชนไทย" รวมสินค้าและคราฟต์พื้นบ้านอย่างมีสไตล์
ครั้งแรก! ของงานแฟร์สุดยิ่งใหญ่ใจกลางเมือง ที่รวบรวมสินค้าภูมิปัญญาไทยระดับพรีเมี่ยมจากผู้ผลิตสู่ผู้บริโภคมาไว้ภายในงาน ‘พลังคนไทย พลังชุมชนไทย’ จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างภาคเอกชน และหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย โดยกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อแสดงพลัง และศักยภาพของชุมชนไทย ผู้ผลิตไทย และนักออกแบบไทย ผ่านงานแสดงสินค้าชุมชนที่เป็นเอกลักษณ์พื้นถิ่น ภายใต้แนวคิด ‘เชื่อในพลังคนไทย’ และเป็นเวทีเพื่อสนับสนุน ส่งเสริม และประชาสัมพันธ์สินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายยิ่งขึ้นทั้งในและต่างประเทศ เพิ่มช่องทางในการจำหน่ายสินค้าให้ผู้ประกอบการ และนำไปสู่การกระจายรายได้คืนกลับสู่ชุมชนอย่างยั่งยืน ซึ่งงานจะจัดขึ้นระหว่างวันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม - วันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายนนี้ เวลา 10.30 - 20.30 น. ณ มหานคร สแควร์ คิง เพาเวอร์ มหานคร
ภายในงานจะได้พบกับสินค้าโอทอปขึ้นชื่อระดับ 5 ดาว งานหัตถกรรมฝีมือประณีต และสินค้าไลฟ์สไตล์ จากหลากหลายชุมชนทั่วประเทศกว่า 30 ร้าน! อิ่มอร่อยกับเมนูเด็ดร้านดังมากมายที่มารวมตัวกันให้ชม ชิม และช้อป พร้อมดารารับเชิญสุดพิเศษ! อั้ม - พัชราภา ไชยเชื้อ และป้อง - ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ มาร่วมกิจกรรมในวันที่ 23 พฤษภาคม 2562 อีกด้วย
นายนิพนธ์ รักศรีอักษร รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานการตลาด กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า “คิง เพาเวอร์ มุ่งมั่นดำเนินโครงการเพื่อสังคมมาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด KING POWER THAI POWER พลังคนไทย ผ่านโครงการต่างๆ มากมาย เพื่อสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้กับสังคม ปีนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่เราได้ต่อยอดโครงการด้านชุมชนหรือ COMMUNITY POWER ผ่านการจัดงาน ‘พลังคนไทย พลังชุมชนไทย’ ในรูปแบบงานแฟร์เป็นครั้งแรก เพื่อยกระดับสินค้าไทยให้ก้าวไกลสู่ระดับสากล ซึ่งสินค้าที่มาออกร้านภายในงานกว่า 30 ร้านค้านั้น ทั้งหมดได้ผ่านการสนับสนุนจากคิง เพาเวอร์ เข้าไปช่วยดูแลเรื่องการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ จนถึงปลายน้ำ รวมไปถึงการดีไซน์แพคเกจจิ้ง ให้ทันสมัยตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า จนสามารถมาวางขายในโซนจำหน่ายสินค้าไทยใน คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี ได้ ซึ่งเป็นช่องทางจำหน่ายสินค้าจากภูมิปัญญาของคนไทยให้แก่นักท่องเที่ยวทุกมุมโลกที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย ช่วยสร้างอาชีพ และมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ชุมชนต่างๆ ให้เติบโตอย่างเข้มแข็ง โดยตลอด 29 ปีผ่านมา คิงเพาเวอร์ได้เข้าไปช่วยพัฒนาสินค้าชุมชนทั่วทุกภูมิภาค และอีกหนึ่งวัตถุประสงค์หลักของการจัดงานแฟร์ครั้งนี้ ก็เพื่อให้ชาวบ้านได้มีช่องทางการตลาดเพิ่มขึ้น และเป็นที่รู้จักในวงกว้าง จนนำไปสู่การกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป”
นาวาตรี วรวิทย์ เตชะสุภากูร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า “สินค้าชุมชนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวในแต่ละท้องถิ่น เป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักของการท่องเที่ยว ที่จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวนั้นๆ ทำให้เกิดการใช้จ่าย โดยเฉพาะ การซื้อของฝาก ของที่ระลึก ซึ่งถือเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนโดยตรง ประกอบกับเทรด์การท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยมท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ทำให้ในปีที่ผ่านมาตัวเลขของไทยเที่ยวไทยกินของไทยมีจำนวนมากขึ้น ส่งผลให้การซื้อของฝากพื้นเมืองก็เพิ่มขึ้นตามลำดับ ดังนั้น การที่มีภาคเอกชน อย่างคิง เพาเวอร์ เข้ามาสนับสนุนชาวบ้านในเรื่องของการผลิตสินค้าภูมิปัญญาไทยให้ได้คุณภาพดี พร้อมช่วยติดอาวุธการตลาด ถือเป็นการยกระดับสินค้าโอทอปไทย ตลอดจนนำไปสู่การปรับปรุงและพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์โอทอปให้ดียิ่งขึ้น”
งาน ‘พลังคนไทย พลังชุมชนไทย’ แบ่งเป็น 2 โซนหลัก ได้แก่
1.โซนสินค้าชุมชน
รวมรวมสินค้าของดีของเด็ดจากผู้ผลิตส่งตรงจากชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศไทย กว่า 30 ร้านค้า โดดเด่นเรื่องดีไซน์ และเต็มเปี่ยมด้วยไอเดียใหม่ๆ ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋าบาติก-คราม ผ้าไหมมัดหมี่ งานจักสานไม้ไผ่ งานเซรามิก งานปั้นจิ๋ว อาหารแปรรูป และอีกมากมาย แต่ไฮไลท์ที่ห้ามพลาด อาทิ เครื่องทองรัตนโกสินทร์ สินค้าโอทอป ระดับ 5 ดาว ประจำจังหวัดกาญจนบุรี, ผ้าทอมือโบราณลายตีนจก จากร้านสุนทรีผ้าไทย สินค้าเด่นจากภูมิปัญญาของชาวสุโขทัย ที่นำมาแปรรูปให้มีความหลากหลายทั้งเสื้อผ้า ผ้าปูโต๊ะ ผ้ารองจาน และผ้าม่าน นอกจากนี้ยังเปิดบูธพิเศษให้แก่คนพิการได้มีพื้นที่จำหน่ายพืชผัก และผลไม้ที่ปลูกเอง โดยทางคิง เพาเวอร์ ได้เข้าไปส่งเสริมอาชีพ ให้น้องๆ จากโรงเรียนปรียาโชติ จังหวัดนครสวรรค์ ที่เป็นโรคดาวน์ซินโดรม ได้ปลูกผักเป็น และนำผลผลิตมาขาย เพื่อให้น้องๆ สามารถช่วยเหลือและเลี้ยงดูตัวเองได้
โซนสินค้าชุมชนมีทั้ง 31 ร้านด้วยกัน อาทิเช่น
แสงผึ้ง น้ำผึ้งกลิ่นดอกลำไยปลอดสารพิษ โดยการเก็บเกี่ยวน้ำผึ้งจะทำในช่วงมีนาคม-เมษายนเท่านั้น เพราะเป็นช่วงที่ลำไยออกดอกที่มีกลิ่นหอมเป็นพิเศษ โดยเลี้ยงผึ้งในสวนลำไยออร์แกนิก 100% จากลำพูน
เชียงใหม่ศิลาดล เซรามิกที่สร้างสรรค์จากหัตถกรรมภูมิปัญญาล้านนา มีทั้งเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร ของตกแต่งบ้าน ของที่ระลึก จังหวัดเชียงใหม่
JETSADA STUDIO ผ้าฝ้ายผ้าย้อมคราม ย้อมสีธรรมชาติ ที่มีลวดลายเอกลักษณ์ของตนเอง จังหวัดสกลนคร
เป็นต้น
2.โซนอาหาร
รวมเจ้าเด็ดเจ้าดังกว่า 17 ร้าน อาทิ โหวเส็ก ราชาบะหมี่ฮ่องกง ต้นตำรับจากเกาะฮ่องกง, ละมัยหอยทอดเยาวราช, เจ็กเม้งข้าวมันไก่สองสี รองเมือง, การิม โรตีมะตะบะ ถนนพระอาทิตย์ และขนมปังเจ้าอร่อยเด็ดเยาวราช แต่ที่อร่อยเด็ดจนต้องยอมต่อคิวยาว ยกให้ร้านกั้งบ้านเพ ก๋วยเตี๋ยวกั้งในตำนานของจังหวัดระยอง ขึ้นชื่อในเรื่องน้ำซุปสูตรเด็ด พระเอกของร้าน คือ กั้งตั๊กแตน ตัวโตเนื้อแน่นๆ เมนูเด็ดห้ามพลาด คือ ก๋วยเตี๋ยวกั้งทะเลต้มยำน้ำข้นมันกุ้ง,สาวกหมูทอดรับรองติดใจ ร้านติดลมหมูทอดปลาร้าเจ้าดังย่านเกษตรนวมินทร์ ซึ่งเป็นหมูทอดสูตรชาววังเก่าแก่กว่า 30 ปี เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มปลาร้าบองรสเด็ด และร้านข้าวขาหมูจุฬา สามย่าน ที่ได้รับเชลล์ชวนชิมเป็นร้านแรก มีข้าวขาหมูสูตรต้นตำรับที่สืบต่อกันมารุ่นต่อรุ่น ความพิเศษอยู่ที่การเลือกใช้ขาหมูที่นุ่ม อร่อย หนังบาง และน้ำพะโล้สูตรเฉพาะของทางร้านที่มีความเข้มข้น ทานคู่กับผักกาดดองและน้ำส้มเพิ่มความอร่อยอย่างลงตัว
นอกจากผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมี่ยมและอาหารสตรีทฟู้ดเลิศรสแล้ว อีกหนึ่งความพิเศษของงานนี้คือ เวทีการสาธิตการผลิตสินค้าชุมชนที่น่าสนใจจากชาวบ้านท้องถิ่น อาทิ การทำกระเป๋าสานแฮนด์เมด จากแบรนด์ VT Thai ที่สืบทอดงานหัตถกรรมท้องถิ่น เรียงร้อยงานสานทีละเส้น สู่กระเป๋าสุดเก๋สัญชาติไทย และการทำเทียนหอมจากดอกไม้สด จากแบรนด์ THANIYA ที่ชูไอเดียสร้างสรรค์จับเทียนหอมมาใส่ในเครื่องเบญจรงค์ เน้นสร้างความต่างด้วยการเขียนลวดลายด้วยมือทุกชิ้น
เพลิดเพลินไปกับการแสดงพิเศษสุดอลังการจากทีม เพชรจรัสแสง ผ่านดนตรีที่ผสมผสานศิลปวัฒนธรรมไทยแบบจัดเต็ม อาทิ กลองสะบัดชัย ระบำเกี่ยวข้าว หมอลำ และโนรา พร้อมร่วมสืบทอดศิลปวัฒนธรรมทรงคุณค่า ผ่านการเชิดหุ่นละครเล็กสไตล์ร่วมสมัย จากอักษราหุ่นละครเล็ก เน้นท่วงท่าร่ายรำอันอ่อนช้อยละเมียดละไม มาสร้างสรรค์โชว์ที่ตรึงตราตรึงใจให้แก่ผู้ชม เช่น รำกลองยาวหรรษา ฟ้อนร่ม และเซิ้งโปงลางบันเทิง โดยจะแสดงโชว์เฉพาะวันศุกร์-อาทิตย์ วันละ 2 รอบ วันศุกร์ เวลา17.30 น. และ 18.00 น. ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา16.00 น. และ 18.00 น. ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.kingpowerthaipower.com หรือเฟซบุ๊ก King Power Thai Power พลังคนไทย
อัลบั้มภาพ 31 ภาพ