ครั้งหนึ่งฉันเคยมาที่ "เขาดิน"
ไม่นานมานี้แอบได้ยินคุณลุงขายก๋วยเตี๋ยวหน้าปากซอยโม้ใหญ่ว่า สมัยยังเป็นหนุ่มไฟแรง จีบสาวสยามใจกลางเมือง มีสถานที่หนึ่งที่ต้องพาหญิงสาวไปเดทแรกที่นี่ เท่านั้นยังไม่พอ เวลามีครอบครัวแล้วก็ต้องพาลูก ๆ ไปเที่ยวอีกเช่นกัน สถานที่แห่งนั้นคือ “เขาดิน”
เชื่อนะว่าใครอ่านอยู่คงแอบอมยิ้มไม่น้อย หลายคนคงเคยไปเดินดูน้องสัตว์นานาชนิดพร้อมกับคนรู้ใจที่เขาดินมาแล้ว ไม่รู้ว่าความสุขจากการเดินจับมือกันไป พูดคุยเรื่องสัตว์น่ารัก ๆ กันไป จะอบอุ่นแค่ไหน แต่อย่างที่ใคร ๆ ก็รู้ ภาพแห่งความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอ
สวนสัตว์ดุสิต หรือ เขาดิน กำลังจะยุติการให้บริการในพื้นที่เดิมสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ โดยจะย้ายไปสถานที่ใหม่ บริเวณคลอง 6 ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ปิดตำนานกว่า 80 ปีที่ทำหน้าที่เป็นสวนสัตว์ใจกลางกรุง ให้ชาวเมืองมาพักผ่อนหย่อนใจ คลายทุกข์ รับความสุขจากบรรดาสัตว์น่ารักทั้งหลาย อีกไม่นานภาพเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นที่นี่อีกแล้ว
วันนี้เราขอนำเพื่อน ๆ ไปเก็บภาพประทับใจในเขาดิน ลองหวนคิดถึงความหลัง ชมความผูกพันและความน่ารักของบรรดานักท่องเที่ยวและน้อง ๆ ในสวนสัตว์ เก็บความประทับใจไว้เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนลาจากกันด้วยความสุข
เขาดิน หรือชื่อทางการว่า สวนสัตว์ดุสิต เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจแห่งแรก ๆ ในเมืองกรุง โดยก่อตั้งมาตั้งแต่ พ.ศ. 2438 ในสมัยรัชกาลที่ 5 หลังทรงทอดพระเนตรกิจการสวนพฤกษชาติของต่างประเทศ จึงมีพระราชดำริให้สร้างสวนขึ้นบริเวณถนนพระรามที่ 5 เขตดุสิต ในชื่อ “เขาดินวนา” ช่วงแรกเป็นสวนพรรณไม้ต่างๆ ก่อนที่จะปรับปรุงเป็นสวนสัตว์ในช่วงหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง โดยเปิดเป็น “สวนสัตว์ดุสิต” เมื่อ พ.ศ. 2481 นับเป็นสวนสัตว์แห่งแรกของประเทศไทย มีเนื้อที่ 118 ไร่ บรรยากาศร่มรื่นเย็นสบาย
หลังจากซื้อตั๋วแล้ว เราก็เดินเข้ามาเที่ยวสถานที่แห่งความหลังกันอีกครั้ง วันนี้ราคาบัตรสำหรับผู้ใหญ่อยู่ที่ 100 บาท เด็กๆ และเยาวชนที่ยังเรียนไม่ถึงระดับ ปวส. หรือมหาวิทยาลัย คนละ 20 บาท ส่วนผู้สูงอายุ เข้าชมฟรี
ประเดิมกันด้วยแม่มะลิ ฮิปโปโปเตมัส ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของที่นี่ ใครมาก็ต้องแวะดู แม่มะลิสวมมงกุฎดาวของเขาดินมาต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 52 แล้ว (อายุมากกว่าเราอีก!) เป็นฮิปโปฯ ที่อายุมากที่สุดในประเทศไทย ตอนฉันไปเยี่ยมชม ภาพแรกที่เห็นช่างเหมาะสมกับตำแหน่งดาวจริง ๆ เพราะแม่มอบความสุขให้ทุกคน พื้นที่มีอยู่กว้างขวางแต่แม่มะลิจะชอบนอนนิ่งๆ อยู่บริเวณหน้ากระจก ให้บรรดาหนู ๆ และนักท่องเที่ยวเข้ามาถ่ายรูปเก็บภาพสวย ๆ กลับไป
นอกจากแม่มะลิแล้ว ก็ยังมีบรรดาสัตว์นานาชนิดที่น่ารัก เช่น พี่หมีควาย ที่ชอบส่ายหัวขยับตัวโชว์ดุ๊กดิ๊ก น้องหมีโคอาล่าที่เกาะต้นไม้หลับทั้งวัน เจ้าตัวเมียร์แคทที่ชอบยืนสองขาเหมือนชะเง้อมองหาอะไรสักอย่าง รวมถึงนกฟลาแมงโก และเพนกวิ้นจากขั้วโลกที่ยังได้รับความนิยมจากเด็กๆ ทุกยุคทุกสมัย
ทั้งหมีควาย ผู้มีขนหน้าอกรูปตัว V สีขาว และสายตาอ้อนวอนขอกินกล้วย หมีโคอาลา ตัวแทนจากทวีปออสเตรเลีย และเมียร์แคท
นกฟลาแมงโก เพนกวิ้นแสนน่ารัก และอีกไฮไลต์คือเจ้ายีราฟ 2 ตัว ที่ยื่นคอยาวเด่นเป็นสง่าออกมาเล่นกับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นกันเอง นักท่องเที่ยวที่อยากชมน้องยีราฟใกล้ ๆ สามารถเดินขึ้นไปยังทางเดินลอยฟ้าเพื่อไปชมความน่ารักได้ในระยะสัมผัสตัวกันถึงเลยทีเดียว
มาเขาดินต้องไม่พลาดชมการแสดง ไฮไลต์การแสดงของที่นี่ เปิดด้วยโชว์ของน้องแมวน้ำสุดน่ารักที่กระโดดโชว์ลีลาลอดห่วงและท่าทางการตบมือ ไม่ใช่สิ ตบครีบ ได้อย่างน่าเอ็นดู
ต่อด้วยโชว์กายกรรมลีลาส่งตรงจากประเทศเคนยา แดนดินถิ่นฮาคูนามาทาท่า ทวีปแอฟริกา เรียกความน่าตื่นเต้นให้กับผู้ชมได้ไม่น้อย
ส่วนใครอยากย้อนความคิดถึงไปสมัยวัยรุ่นยุคเก๋าเขาจีบกัน ก็ต้องไปนั่งเรือถีบชมวิวกลางสระน้ำ มองไปด้านหนึ่งก็เห็นธรรมชาติ ส่วนอีกด้านก็เห็นวิวพระที่นั่งอนันตสมาคม รับรองได้หวนบรรยากาศฟีลลิงรักหวาน ๆ กลับมาอีกสักครา
พอมาเดินอีกครั้งยิ่งรู้สึกว่าเขาดินคือพื้นที่แห่งความสุขของทุกคนในครอบครัว โดยเฉพาะเด็กๆ เพราะมีทั้งสวนน้ำให้มาผ่อนคลายความร้อน มีสนามเด็กเล่นเป็นพื้นที่สร้างสรรค์จินตนาการ มีกิจกรรมให้อาหารสัตว์กันเพลินๆ
กลัวจะเดินไกลก็มีบริการรถไฟลายเสือโคร่ง ม้าลาย หรือมุมถ่ายรูปน่ารักๆ เต็มไปหมด
หากใครอยากนึกถึงบรรยากาศผ่อนคลายปนความน่ารักสดใส ที่นี้ยังเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวเข้าชมจนถึงเดือนสิงหาคมเป็นเดือนสุดท้าย มาเก็บภาพความผูกพันเหล่านี้ไว้ในเมมโมรี่ความทรงจำกัน ว่าครั้งหนึ่งฉันเคยมาที่ ‘เขาดิน’