Infusion Eatery & Bar ร้านอาหารฟิวชั่น จากฝีมือเหล่าเชฟจาก Le Cordon Bleu

เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะมีร้านอาหารประจำที่ชื่นชอบในฝีมือการทำอาหารของเชฟกันแทบจะทุกคน ซึ่งการได้ทานอาหารอร่อยๆ ที่เราชื่นชอบนั้นถือเป็นการพักผ่อนและให้ความสุขอย่างหนึ่งแก่ตัวเอง

และสำหรับใครที่กำลังมองหาร้านอาหารสไตล์ฟิวชั่นแบบอินเตอร์กันอยู่ Sanook! Travel ขอแนะนำ Infusion Eatery & Bar ร้านอาหารสไตล์ฟิวชั่นที่อาจจะกลายเป็นร้านโปรดของคุณหากคุณได้ไปลองชิม

Infusion Eatery & Bar เป็นร้านอาหารที่เกิดขึ้นมาจากความร่วมมือกันของเหล่านักเรียนการครัวจากสถาบัน Le Cordon Bleu แค่ได้ยินชื่อของ Le Cordon Bleu ก็คงบอกได้แล้วถึงระดับคุณภาพของอาหารร้านนี้

ตัวร้านตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์นผสมลอฟต์ดูโปร่งโล่งสบายด้วยกระจกรอบตัวร้าน มีโซนบาร์สำหรับคนที่อยากจะมาแฮงค์เอ้าท์นั่งดื่มแบบชิลๆ และโซนโต๊ะที่นั่งสำหรับครอบครัว 

มาเริ่มกันที่เมนูแรกสำหรับวันนี้ กับ เมนู Cold Crab Salad with Avocado Ice-cream (ราคา 285 บาท) สลัดปูและซอสสูตรของทางร้านทามาบนอโวคาโดสไลด์บาง ออนท็อปด้วยแป้งกรอบไสตล์ฝรั่งเศสและด้านบนเป็นไอศครีมอโวคาโด เมนูนี้ถือเป็นเมนูเรียกน้ำย่อยที่ดีมากๆ กลิ่นและความมันของอโวคาโดมาเต็ม รสชาติหวานมันเปรี้ยวกำลังดี และที่สำคัญเป็นเมนูที่ทานไปแล้วทำให้รู้สึกเฟรชขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ 

อีกหนึ่งเมนูเรียกน้ำย่อยที่เราได้ลองกันวันนี้คือ Smoked Duck Salad with Homemade Yuzu Dressing (295 บาท) สลัดอกเป็ดจานโตที่ย่างเป็ดได้อย่างสวยงามเนื้อด้านในยังคงมีสีแดงอมชมพูและดูชุ่มฉ่ำสุดๆ 

ทานคู่กับผักโครงการหลวงหลากหลายชนิด ได้รสชาติเปรี้ยวจากน้ำสลัดที่ทำจากส้มยูซุ เป็นส่วนผสมที่เข้ากันเป็นอย่างมาก ผักสดกรอบ อกเป็ดนุ่มๆ เป็นอีกหนึ่งเมนูออร์เดิร์ฟที่มาแล้วต้องลอง!

หลังจากทานเมนูเรียกน้ำย่อยไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาของเมนูอาหารที่หนักขึ้นมาหน่อยกับ Seafood Fettuccini with Homemade Tomato Sauce (485 บาท) สปาเก๊ตตี้ซีฟู้ดผัดกับซอสมะเขือเทศโฮมเมด

ขอบอกเลยว่าใครที่ชอบทานซีฟู้ดนั้นเมนูนี้คือสวรรค์สำหรับคุณ เพราะทางร้านจัดเต็มทั้งกุ้ง ทั้งหอย ทั้งปลา อัดแน่นลงมาในจานนี้แบบเต็มที่ และที่สำคัญคือวัตถุดิบอาหารซีฟู้ดที่ทางร้านใส่มานั้นเป็นวัตถุดิบระดับพรีเมี่ยม

อย่างหอยเชลล์ฮอกไกโด และหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ด้วย ตัวใหญ่คับจานมากๆ เต็มปากเต็มคำสุดๆ น้ำซอสที่ผัดกับสปาเก๊ตตี้เข้มข้น จานนี้ถือว่าอร่อยไม่ธรรมดาจริงๆ ครับ

และจานสุดท้ายสำหรับอาหารคาว ซึ่งถือเป็นเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านก็คือ Infusion Burger (425บาท) นี่คือเซ็ทเบอร์เกอร์ที่เสิร์ฟมาบนถาดไม้พร้อมกับเฟรนซ์ฟรายส์ และผักสลัด

ตัวเบอร์เกอร์ของทางร้านมีความพิเศษอยู่ที่ขนมปังที่นำมาทำเบอร์เกอร์นั้นทางร้านทำขึ้นมาเอง โดยเริ่มตั้งแต่ขบวนการเพาะยีสต์ขึ้นมาเองเลยทีเดียว ในส่วนตัวเนื้อจะใช้เนื้อ Dry Aged นำมาปรุงรสและนำมาปรุงเป็นแฮมเบิร์กชิ้นโต ทาด้วยซอสสูตรของทางร้าน ประกบกับขนมปังที่ทางร้านทำขึ้นมาเอง กลายเป็นเบอร์เกอร์ในแบบฉบับ Infusion ที่ไม่เหมือนใคร

เราเริ่มต้นจากการชิมขนมปังก่อน ขนมปังมีความกรอบบริเวณเปลือกขนมปังแต่ด้านในมีความนุ่ม และมีรสชาติอยู่ในตัว เป็นรสสัมผัสที่แปลกใหม่ไม่เหมือนที่อื่นจริงๆ เมื่อทานคู่กับตัวเนื้อที่ Dry Aged มาอย่างพอดีนุ่มละมุนลิ้น

เป็นการผสมผสานที่อร่อยมากๆ ตัวเนื้อหอมสุดๆ กินอีกสัก 3 ชิ้นก็ยังไหว!!! และนอกจากตัวเบอร์เกอร์ที่ถือว่าเซอไพรซ์ความอร่อยให้แก่เราแล้วนั้น บนจานนี้ยังมี Hidden Gem ซุกซ่อนอยู่ด้วย นั่นก็คือ เฟรนซ์ฟรายส์นั่นเอง

ใครจะไปคิดว่าเฟรนซ์ฟรายส์ที่ดูธรรมดาๆ นั้นจะอร่อยขนาดนี้ โดยทางร้านบอกว่าเฟรนซ์ฟรายส์ของทางร้านเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากลูกค้า ที่มักจะขอเติมเฟรนซ์ฟรายส์หลังจากทานเบอร์เกอร์หมด 

ความพิเศษของรสชาติเฟรนซ์ฟรายส์ที่นี่คือมีความกรอบนอกนุ่มในแม้จะทิ้งเอาไว้นาน มีรสชาติออกเค็มในตัวนิดๆ โดยที่แถบจะไม่ต้องจิ้มซอสเลยก็อร่อยแล้ว อยากให้ทุกคนได้มาลองเฟรนซ์ฟรายส์ร้านนี้จริงๆ ครับอร่อยสุดๆ

ทานมาถึงตอนนี้ค่อนข้างจะอิ่มแน่นเลยทีเดียว แต่มื้ออาหารของเรายังไม่จบลงเพียงเท่านี้ เพราะเรายังมีเมนูอาหารหวานรออยู่ 

ซึ่งเมนูอาหารหวานวันนี้ได้แก่ Raspberry Coulis and Vanilla Ice-Cream (220 บาท) ไวท์ช็อคโกแลตที่เซ็ทตัวไว้ให้เป็นโดมทรงครึ่งวงกลมภายในสอดไส้ราสเบอร์รี่ เคียงคู่มากับไอศครีมวานิลลา 

ช็อคโกแลตโดมและราสเบอร์รี่มีความนุ่มละมุนรสชาติเปรี้ยวหวานลงตัว ทานคู่กับไอศครีมวานิลลารสชาติเข้มข้น จานนี้ถือว่าเป็นการปิดมื้ออาหารเย็นของเราลงได้อย่างสมบูรณ์แบบ

โดยรวมแล้ว Infusion ได้พิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่าฝีมือการทำอาหารของเชฟระดับ Le Cordon Bleu นั้นมีความพิเศษอย่างไร ความสมบูรณ์แบบและลงตัวในการผสมผสานวัตถุดิบรวมถึงสไตล์การทำอาหารในแต่ละเมนู

การตกแต่งร้าน บรรยากาศของร้าน และที่สำคัญ ราคาไม่แพงจนเกินไปด้วย เหมาะสำหรับวัยทำงานที่อยากจะหาที่แฮงค์เอ้าท์ทานอาหารอร่อยๆ หลังเลิกงาน มีโอกาสลองไปทานกันดูครับไม่ผิดหวังแน่นอน

ข้อมูลเพิ่มเติม 

ที่ตั้ง Infusion Eartery & Bar : 15/1 ถนน เย็นอากาศ แขวง ช่องนนทรี เขต ยานนาวา กรุงเทพมหานคร

เวลาเปิด - ปิด : ช่วงเช้า 11.00 - 14.30 น. /ช่วงเย็น 17.00 - 00.00 น.

ติดต่อ : 02 249 5572

 Facebook : infusion eatery & bar