ปลากุเลาเค็มตากใบกิโลละ 1,600 บาท ของฝากสุดพรีเมี่ยมจากนราธิวาส

มาเที่ยวนราธิวาสหากจะหาของฝากที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆ ของจังหวัดหลายๆ คนคงจะคิดถึงปลากุเลาเค็ม สินค้าขึ้นชื่อของอำเภอตากใบ

ปลากุเลาเค็มของที่นี่มีความพิเศษกว่าที่อื่นอย่างไร ทำไมถึงกลายเป็นของฝากสุดพรีเมี่ยมที่มีราคาขายสูงถึง 1,600 บาทต่อกิโล Sanook! Travel จะพาคุณไปดูกันครับ

โดยเราจะไปกันที่ร้านป้าเอ็ง ร้านขายปลากุเลาเค็มเก่าแก่ในอำเภอตากใบ อำเภอที่มีชื่อเสียงที่สุดในการทำปลากุเลาเค็มของจังหวัดนราธิวาส เราจะไปดูกรรมวิธีการทำปลากุเลาเค็มกันว่าอาหารรสเลิศนี้ทำยากเพียงใด

โดยเริ่มแรกนั้นจะนำปลากุเลาตัวใหญ่มาทำความสะอาดขอดเกล็ดปลาควักไส้และเครื่องในออกมา และล้างน้ำเปล่าจนสะอาด หลังจากนั้นก็ถึงขั้นตอนการพอกเกลือให้ทั่วตัวปลาแล้วหมักไว้ 2 คืน

หลังจากนั้นจึงนำมาล้างเกลือออกให้หมดแล้วนำไปตากแดดให้แห้ง โดยใช้เวลาประมาณ 2-3 อาทิตย์เลยทีเดียว แล้วหลังจากที่ตากจนแห้งแล้วจึงนำตัวปลามาบดนวดให้มีเนื้อเรียบและรีดน้ำออกจากตัวปลาจนแห้งสนิทอีกครั้ง

โดยทุกขั้นตอนในการทำปลากุเลานั้นจะต้องมีการรักษาความสะอาดอย่างมาก ห้ามไม่ให้มีแมลงวันมาตอมปลาเด็ดขาด ซึ่งร้านป้าเอ็งเองก็ได้สร้างพื้นที่ปลอดแมลงเพื่อการทำปลากุเลาและตากปลากุเลาโดยเฉพาะ

ดูแล้วสะอาดและถูกสุขอนามัยมากๆ น่าทานสุดๆ หลังจากที่ได้เห็นวิธีการทำปลากุเลาเค็มทุกขั้นตอนแล้วต่อไปก็ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอยนั่นก็คือการทอดปลากุเลานั่นเอง

ปลากุเลาเค็มที่ผ่านกรรมวิธีมาพร้อมที่จะทอดทานแล้วหั่นเป็นชิ้นโตๆ นำมาลงกระทะน้ำมันร้อนๆ เท่านั้นแหละกลิ่นหอมของปลากุเลาลอยฟุ้งเต็มร้านปลาเอ็งไปหมด ปลากุเลาเนื้อสีขาวค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง 

เมื่อทอดจนสุกได้ที่จึงนำขึ้นมาพักและซับน้ำมันออก จากนั้นนำมาปรุงยำกับพริก น้ำปลา มะนาว เป็นยำปลาเค็มที่พร้อมทานแล้ว 

และก็ถึงเวลาพิสูจน์ความอร่อยล้ำของปลากุเลาตากใบ เมื่อได้ลองชิมจึงได้เข้าใจว่าเหตุใดปลากุเลาเค็มที่นี่ถึงมีราคาแพง เพราะว่ากรรมวิธีที่ผ่านมานั้นช่วยทำให้ปลาเค็มที่นี่มีเนื้อเนียนละเอียด มีกลิ่นหอมมากๆ 

และที่สำคัญมีรสชาติที่นุ่มนวลไม่เค็มจนเกินไป แนะนำเลยครับหากใครมาเที่ยวนราธิวาสแล้วอยากจะหาของฝากอร่อยๆ แบบนี้ไปฝากที่บ้าน ปลากุเลาเค็มถือเป็นของฝากชั้นเลิศที่หาซื้อได้ง่ายในอำเภอตากใบ และอร่อยมากจริงๆ ครับ ไม่ผิดหวังแน่นอน