คลายร้อนที่เกาะหลาลิง

ต้นเดือนเมษายนปีนี้เป็นช่วงที่อากาศในเมืองกรุงกำลังเริ่มร้อนระอุ ราวกับเป็นการส่งสัญญาณบอกว่า ฤดูร้อนปีนี้ได้เดินทางมาถึงแล้ว และจะพักอยู่ในประเทศไทยไปอีกหลายเดือน 

ในอีกมุมหนึ่งเมื่อถึงช่วงเวลาฤดูร้อนของทุกปี ผมมักจะเดินทางท่องเที่ยวไปยังจังหวัดต่างๆ ที่มีทะเลสวยๆ เพื่อไปดำน้ำชมโลกใต้ทะเลที่มีสีสันมหัศจรรย์ ดังเช่นทริปนี้ผมเลือกเดินทางไปยังจังหวัดกระบี่โดยมีเป้าหมายการเดินทางอยู่ที่ เกาะหลาลิง 

การเดินทางสู่จังหวัดกระบี่ด้วยสายการบินแบบต้นทุนต่ำ ช่วยให้สะดวกสบายและประหยัดเวลาในการเดินทางได้มาก จากที่ต้องนั่งรถข้ามคืนหลังขดหลังแข็ง เหลือการใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเศษ ก็ได้มาสูดอากาศสดชื่นของเมืองริมฝั่งอันดามัน 

เช้าวันต่อมาเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการถ่ายภาพเป็นอย่างยิ่ง บริเวณอ่าวนาง มีนักท่องเที่ยวมากมายต่างกำลังถ่ายภาพอันสวยงามของชายหาด ภาพเรือที่ลอยลำเรียงแถวเป็นระเบียบเตรียมรับ นักท่องเที่ยวไปชมทิวทัศน์ยังเกาะต่างๆ

เป้าหมายของผมวันนี้อยู่ที่ เกาะห้อง เกาะผักเบี้ย และเกาะหลาลิง ทั้งสามเกาะนี้ผมไม่เคยไปมาก่อน เกาะห้อง อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดกระบี่ มีลักษณะเป็นเกาะใหญ่ตัวเกาะเป็นเขาหินปูน

มีหน้าผาสูงตั้งฉากกับผิวน้ำที่ใสราวผิวกระจก เกาะห้อง อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติโบกขรณี จุดเด่นของเกาะอยู่ที่บริเวณที่เรียกว่า ลากูน คือมีทางเข้าแคบๆ พอที่เรือแล่นผ่านช่องเข้าไปได้

คล้ายกับเป็นประตูเข้าไปสู่ห้องขนาดใหญ่ ภายในลากูนแห่งนี้ เป็นพื้นที่ที่น้ำทะเลเข้ามาถึง ไม่มีชายหาด เรือสามารถแล่นวนชมทิวทัศน์เป็นวงกลมได้ แต่ทั้งนี้คนเรือต้องมีความชำนาญ รู้เวลาในการเดินทางเข้าไปชม

เพราะบางช่วงเวลาที่น้ำลง เรือก็ไม่สามารถแล่นผ่านเข้าไปได้

ออกจากภายในลากูนแล้ว ผมได้ไปนั่งพักผ่อนสายตาบนชายหาดของเกาะห้อง ซึ่งชายหาดนี้อยู่ทางทิศใต้ของเกาะ การนั่งดูนักท่องเที่ยวเล่นน้ำ และดูฝรั่งนอนอาบแดด ในยามบ่ายที่แดดแรงอย่างนี้

เป็นสิ่งที่ให้ความเพลิดเพลินเจริญตา เป็นการศึกษาพฤติกรรม และวัฒนธรรมไปในตัว 

จากเกาะห้อง ออกเดินทางต่อไปยัง เกาะผักเบี้ย โดยใช้เวลาไม่ถึง 20 นาทีก็มาถึง เกาะผักเบี้ยเป็นเกาะเล็กๆ น่ารัก มีหาดทรายอยู่นิดหน่อยพอให้ลงไปเดินเล่นได้สบาย

ในช่วงเวลาบ่าย น้ำจะใสเป็นพิเศษ และเมื่อมองเข้าหาฝั่ง ก็จะเห็นทิวทัศน์ชายฝั่งได้อย่างสวยงามชัดเจน คนขับเรือจอดเรือชมทิวทัศน์กันอยู่บนเกาะไม่นานก็ออกเดินทางต่อไปยัง เกาะหลาลิง ซึ่งเป็นเกาะที่ผมตั้งใจจะเดินทางมาพักผ่อนในทริปนี้

เกาะหลาลิง อยู่ไม่ไกลจากเกาะผักเบี้ยมากนัก แทบจะอยู่ติดกันเลยก็ว่าได้ บนเกาะหลาลิง มีถ้ำ ซึ่งมีนกนางแอ่นบินเข้าไปทำรังอาศัยอยู่  จึงเกิดมีการสัมปทานรังนกเกิดขึ้น

แต่นักท่องเที่ยวทั่วไปนั้นก็สามารถขึ้นไปชม หรือ ไปเดินเล่นบริเวณชายหาดได้  คนเรือบอกว่าบริเวณหน้าเกาะนี้เหมาะกับการดำน้ำชมปะการัง และดำน้ำชมปลาทะเลที่สวยงาม

แต่ผมเองไม่ได้ลงไปตามคำแนะนำ ขอแอบไปงีบบนตาข่ายที่ชาวประมงเขาขึงไว้เป็นแปลแบบง่ายๆ ใต้ต้นมะพร้าวดีกว่า ตอนแรกก็นอนเล่นๆ อยู่หรอกครับ

ดูชาวประมงเขาถักเชือกซ่อมอวน ดูเรือหัวโทงที่กำลังลอยลำเข้ามา และดูฝรั่งในชุดทูพีชเดินไปเดินมา ในที่สุดสายลมเย็นบริสุทธิ์ เสียงคลื่นกระทบหาดทรายอย่างสม่ำเสมอ ได้กล่อมให้ผมหลับใหลไปท่ามกลางระหว่างต้นมะพร้าวไร้ลูกคู่นี้

ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวจังหวัดกระบี่ทุกวันนี้ดูเงียบสงบแต่ไม่เหงา  คราบน้ำตาบนใบหน้าจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์ที่เคยเปรอะเปื้อนเมื่อหลายปีก่อนได้จางหายไปหมดสิ้น

รอยยิ้มจริงใจต้อนรับเห็นฟันขาวบนผิวคล้ำดูน่ารักเมื่อได้เจอ  ป่าไม้สวนยางสวนปาล์มยังคงเขียวชอุ่ม ถนนหนทางทอดตัวลัดเลาะบ้างผ่านสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ บ้างเป็นถนนใหญ่ไฟสว่างไสวมุ่งหน้าสู่จังหวัดใกล้เคียง 

มาถึงเวลาที่ผมจำเป็นต้องจากธรรมชาติที่สวยงามไปด้วยใจอาลัย ลาก่อนเมืองน่าอยู่  ผู้คนน่ารัก จังหวัดกระบี่