10 ร้านอร่อยที่ลอนดอนเนอร์ยังยอมรอคิว : Presented by Thai Airways A380
“ลอนดอน” เปรียบเหมือนต้มยำชามใหญ่ที่มีเครื่องปรุงหลายอย่างผสมปนเปกัน เหมือนดังเชื้อชาติต่างๆ ที่เข้ามาสร้างสีสันในลอนดอน เสริมเมืองใหญ่แห่งนี้ให้กลายเป็นหัวใจของร้านอาหารโลก เพราะมีครัวหลากเชื้อชาติให้เลือกกินกันได้ไม่อั้น
10 ร้านอาหารดังในลอนดอนที่คัดเลือกมานี้จึงมีทั้งครัวอินเดีย ครัวจีน ครัวญี่ปุ่น Afternoon Tea เก๋ๆ ไปจนถึงร้านไอศกรีมดัง และร้านอาหารมิชลินที่พลาดไม่ได้ ทุกร้านการรันตีด้วยรางวัลมากมายและจำนวนของลอนดอนเนอร์ที่ยังต้องยอมรอคิว
ใครวางแผนจะไปลอนดอน อย่าลืมพกลิสต์ยัมมี่นี้ติดตัวไปด้วยนะคะ ทุกร้านคุ้มค่าแก่การรอคอยทั้งสิ้น และอย่าลืมว่า!!! การบินไทยของเราเปิดเส้นทางบินด้วย A380 เครื่องบินลำใหญ่ที่บินได้อย่างนุ่มนวล และนั่งสบายบินตรงสู่ลอนดอนกันแล้ว!!!
Beast
Credit : Restaurant To Watch.com
แค่ชื่อร้าน “Beast” ก็ทำให้เราหูผึ่งได้แล้ว ยิ่งรู้คอนเซ็ปต์ว่าขายแต่ “สเต็กเนื้อและปูยักษ์” ก็ทำให้ หลายคนต้องยื่นหน้าเข้ามาฟังใกล้ขึ้นอีกนิด
Beast เป็นเจ้าของเดียวกับร้านอาหารดังที่คนไทยรู้จักกันดี Goodman และ Burger & Lobster ค่ะ รสชาติอาหารจึงอร่อยและไม่ต้องพรรณนาอะไรมาก ลูกค้าประจำของร้านเป็นเซเล็บชื่อดังทั้งสิ้น รวมทั้งเดวิด เบ็กแฮมด้วยนะคะ ทุกคนยอมรอคิวเพื่อเข้าไปชิม Norwegian King Crab และ Nebrashan Steak ที่เรียกว่าเด็ดที่สุดของเมือง สาวๆ รู้แล้วก็รีบจองเลยนะคะ จะได้ไม่พลาดกินอาหารอร่อยเคล้าใบหน้าหล่อๆ ของดาราชื่อดัง
ที่ตั้ง 3 Chapel Place, London
โทรศัพท์ 0207 495 1816
ราคาเฉลี่ย คนละ 80-120 ปอนด์
เว็บไซต์ www.beastrestaurant.co.uk
Dinner BY Heston Blumanthal
Credit : Crumpeats.wordpress.com
ไม่ว่าจะกี่ปีผ่านไป ร้านนี้ก็ยังเป็นที่โปรดปรานของฉันเช่นเดิม Heston Blumanthal เป็นเชฟอัจฉริยะ ผู้ไม่เคยเรียนทำอาหาร แต่กลับได้ดาวมิชลินมาครอง ร้านนี้เปิดอยู่ที่โรงแรมแมนดารินโอเรียนเต็ล ตั้งหันหน้าเข้าหาสวนไฮด์ปาร์ค เมนูเด็ดที่ไปกี่ครั้งก็ต้องสั่งคือ Meat Fruit หรือส้มแมนดารินสอดไส้ตับไก่ผลนี้ และ Tipsy Cake สปันจ์เค้กเคลือบด้วยเหล้าเชอร์รี่และบรั่นดี ที่หวานและหอมอย่าบอกใครเลยค่ะ ใครอยากไปกินที่นี่แนะนำให้จองก่อนล่วงหน้าสัก 1-2 อาทิตย์นะคะ
ที่ตั้ง 66 Knightsbridge, London
โทรศัพท์ 020 7201 3833
ราคาเฉลี่ย คนละ 80-150 ปอนด์
เว็บไซต์ www.dinnerbyheston.com
ROKA
ROKA เป็นร้านอาหารญี่ปุ่น ผลิตผลของเชฟ Rainer Becker ผู้สร้างชื่อเสียงให้กับ Zuma London ค่ะ หลังจากที่เขาจับทางได้ว่า อาหารญี่ปุ่นสไตล์ Robatayaki หรืออาหารญี่ปุ่นที่ใช้ไฟปิ้งย่างนั้นเป็นที่ถูกอกถูกใจ ลอนดอนเนอร์ เขาจึงเปิด ROKA ที่ราคาย่อมเยาว์ เพื่อดึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้มากินมากขึ้น
ฉันไปกินอาหารที่ ROKA สาขาอ๊อกฟอร์ดสตรีท ร้านตั้งอยู่ไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้า Selfridges นัก ฉันไม่ได้ จองโต๊ะล่วงหน้า จึงต้องรอที่นั่งประมาณครึ่งชั่วโมงค่ะ เมนูอร่อยเป็นซี่โครงหมูย่าง และที่ห้ามพลาดคือ Rice Hot Pot with King Crab and Wasabi Tobiko ที่เสิร์ฟมาในครกหินร้อนๆ ข้าวนุ่มเหมือนข้าวต้ม แต่กลมกล่อมและกรุบๆ ด้วยไข่กุ้งรสวาซาบิ พูดแล้วน้ำลายสอ อยากบินกลับไปกินอีกเดี๋ยวนี้เลยค่ะ
ที่ตั้ง 37 charlotte street, London
โทรศัพท์ 020 7580 6464
ราคาเฉลี่ย คนละ 50-80 ปอนด์
เว็บไซต์ www.rokarestaurant.com
PIZZAEAST
นอกจากความอร่อยล้ำของพิซซ่า ร้านนี้ยังตกแต่งได้เท่ทุกอณู เป็นจุดรวมพลคนกิ๊บเก๋แห่งย่านชอร์ดิชท์ (Shoreditch) ย่านที่เคยแนะนำในหนังสือ “เซียนลอนดอน” ว่าเป็นดินแดนที่คออาร์ตต้องมนต์ ไม่ว่าจะเป็น กราฟิตี้ตามกำแพง คาเฟ่เก๋ และร้านอาหารที่เท่ได้ถึงใจ
PIZZAEAST เปิดอยู่ในโรงเก็บใบชาเก่า ร้านมีขนาดใหญ่ ตกแต่งด้วยไม้ดิบๆ อารมณ์ติสต์แต่สนุกสนานน่าดู เดินเข้าไปจะได้ยินเสียงเพลงครึกครื้น มีกลิ่นอายของความวุ่นวายที่ทำให้รู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันใด และนอกจากเมนูพิซซ่าชื่อดัง ขนมปังกระเทียมชิ้นโตแล้ว ลาซานญ่าหอมมันก็เป็นอีกจานที่อร่อยจนลืมไม่ลงเลย ร้านนี้ควรจองก่อนล่วงหน้าเช่นกันค่ะ
ที่ตั้ง 56 Shoreditch High Street, London
โทรศัพท์ 020 7729 1888
ราคาเฉลี่ย คนละ 30-60 ปอนด์
เว็บไซต์ www.pizzaeast.com/shoreditch
La Petite Maison
ร้านอาหารฝรั่งเศสขนาดเล็กเหมือนชื่อของร้านแห่งนี้ตั้งอยู่บนซอยตัน ที่เป็นซอยถนนหินที่ลับตาที่สุดแห่งหนึ่งของลอนดอน ถ้าไม่ชำนาญทเส้นทางจริงๆ คุณอาจหลงได้ง่ายๆ แต่ด้วยชื่อเสียงความโอชาของร้าน La Petite Maison จึงดึงดูดผู้คนเข้ามามากมาย ทำให้ร้านอาหารเล็กๆ นี้กลายเป็นดาวเด่น เป็นจุดหมายของลอนดอนเนอร์และผู้มาเยือนอย่างฉันอย่างปฏิเสธไม่ได้
ฉันได้กินอาหารฝรั่งเศสของร้านนี้เมื่อหลายปีก่อน และในปีนี้ที่ A380 ของการบินไทยพาบินไปลอนดอน ฉันจึงได้กลับไปอีกครั้ง คราวนี้ฉันมุ่งมั่นกินขนมหวาน ซึ่งเมนูอร่อยยังคงเป็นช็อกโกแลตมูสกับมอลต์ไอศกรีม และขนมปังชุปไข่ทอดสไตล์ฝรั่งเศสกับไอศกรีมเครื่องเทศ ที่ขนมปังชุ่มฉ่ำทั้งนมและเนย กินแล้วละลายในปาก ฟินจนเกินบรรยายเลยค่ะ
ที่ตั้ง 53-54 Brook’s Mews, London
โทรศัพท์ 020 7495 4774
ราคาเฉลี่ย คนละ 80-120 ปอนด์
เว็บไซต์ www.lpmlondon.co.uk
DISHOOM
ฉันรอกินอาหารของร้านนี้อยู่เกือบครึ่งชั่วโมงค่ะ Dishoom เป็นร้านอาหารอินเดียของคนรุ่นใหม่ที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของลอนดอน ภายในร้านตกแต่งทันสมัย แต่ยังแฝงกลิ่นอายของอินเดียไว้ ด้วยกรอบรูปติดภาพชาวอินเดียบนผนังของร้าน
อาหารที่ Dishoom รสชาติจัดจ้านถึงใจ ชามดูเล็กแต่เครื่องเทศอัดแน่นทุกอณู ฉันแอบมองเข้าไปในครัวจึงรู้ว่าเชฟทั้งหมดน่าจะส่งตรงมาจากบอมเบย์ทั้งสิ้น จานอร่อยเป็น Garlic Naan, Dishoom Chicken Tikka, Chicken Ruby และ Kacchi Lamb ใครวางแผนไปกินที่นี่ในชั่วโมงเร่งด่วน ทำใจไว้เลยว่ารอไม่ต่ำกว่าหนึ่ง ชั่วโมงค่ะ
ที่ตั้ง 12 Upper St. Martin’s Lane, London
โทรศัพท์ 020 7420 9320
ราคาเฉลี่ย คนละ 30-50 ปอนด์
เว็บไซต์ www.dishoom.com
sketch
ร้านนี้สร้างขึ้นด้วยหัวใจที่รักศิลปะ ผลลัพธ์จึงได้ความแตกต่างแบบสุดขั้ว…sketch มีห้องอาหาร ห้องดื่มชา และบาร์ ให้เราเลือกกันถึง 5 ห้อง ทุกห้องล้วนประดิดประดอยงดงาม ตระการตาเป็นที่สุด อาหารของทุกห้องถูกคิดค้นและปรุงรสจากมือของพ่อครัวใหญ่ Pierre Gagnaire ชายผู้ได้ดาวมิชลินมาล้นมือ
ในวันนั้น ฉันได้ไปจิบน้ำชายามบ่ายในห้อง The Gallery โถงใหญ่ทาสีชมพูหวานและอบอุ่น ชุดน้ำชารวมทั้งเซ็ตอาหารของ sketch ขอเติมได้ไม่อั้น ทุกชิ้นอร่อยและผสมความคิดสร้างสรรค์เข้าไปด้วย นั่นจึงทำให้ Afternoon Tea ของที่นี่มีคิวยาวเป็นหางว่าว โดยเฉพาะในวันหยุด (Afternoon Tea มีทุกวัน ตั้งแต่ 12.30 – 16.30 น. วันธรรมดาคิวน้อยกว่าวันหยุดค่ะ)
ที่ตั้ง 9 conduit street, London
โทรศัพท์ 020 7659 4500
ราคาเฉลี่ย คนละ 50 ปอนด์
เว็บไซต์ www.sketch.london/index.php
Royal China
นอกจากเป็ดย่างที่ขึ้นชื่อ ลอนดอนยังมีอาหารจีนรสโอชาอีกหลายร้านดัง เช่นติมซำของ Royal China ที่เซียนฮ่องกงอย่างฉันยังยอมคารวะค่ะ
Royal China เปิดอยู่หลายสาขาในลอนดอน ฉันแวะไปกินที่สาขาหลักในยามบ่ายของวันหนึ่ง ร้านนี้อาจไม่มีฝรั่งมายืนรอคิว แต่จะเห็นชาวเอเชียผมดำๆ อย่างเราที่คอยจับจองโต๊ะกันเพื่อกินติมซำในดวงใจของพวกเขา จานโปรดของฉันนอกจากจะเป็นเข่งเบสิกจำพวกขนมจีบ ซาลาเปา และฮะเก๋าแล้ว ยังมีจานนี้ค่ะ Honey Roast Pork Puff ที่แป้งพายบางกรอบ ไส้หมูแดงหวานฉ่ำด้วยน้ำผึ้ง กัดแล้วทั้งกรอบ ทั้งนุ่ม อร่อยเกินบรรยายจริงๆ ค่ะ
ที่ตั้ง 24-26 Baker Street, London
โทรศัพท์ 0207 487 4688
ราคาเฉลี่ย คนละ 30-50 ปอนด์
เว็บไซต์ www.rcguk.co.uk
Gold Mine
ชื่อเสียงของ Gold Mine โด่งดังขึ้นเป็นเงาตามตัวของร้าน Four Seasons … นั่นเพราะหลายคนเปรียบให้สองร้านนี้เป็นแฝดสยามที่มีจาน “เป็ดย่าง” อันเลื่องชื่อเหมือนกัน ดังนั้นเมื่อชื่อเสียงของ Four Seasons ดังขึ้น Gold Mine ก็โด่งดังตามมาติดๆ
หลังจากที่ได้ไปกินแล้วทั้งสองร้าน ฉันฟันธงเลยว่า ความอร่อยขึ้นอยู่ที่ความชอบส่วนบุคคลค่ะ เป็ดของ Gold Mine เนื้อเยอะ หนังกรอบ น้ำซอสไม่หวาน กินแล้วได้รสธรรมชาติ ทำให้กินได้เรื่อยๆ แต่อีกจุดเด่นที่ต้องพูดถึง คือ Gold Mine ไม่ได้มีแค่เมนูเป็ดที่อร่อย ร้านนี้ยังมีอีกหลายจานที่เด็ด เช่น เปรี้ยวหวานหมู ถั่วฝักทอด และเต้าหู้ทอด ดังนั้นถ้าใครมองหาร้านอาหารจีนที่อร่อยทุกเมนู ฉันขอแนะนำร้านนี้สุดใจเลยค่ะ
ที่ตั้ง 102 Queensway, London
โทรศัพท์ 020 7792 8331
ราคาเฉลี่ย คนละ 30-50 ปอนด์
Gelateria 3BIS
ไอศกรีมของร้านนี้สะดุดตาฉันเพราะคิวที่ยาวล้นออกมานอกร้าน Gelateria 3BIS มีอยู่เพียงสาขาเดียว ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับ Borough Market ตลาดอาหารที่ขึ้นชื่อที่สุดของลอนดอน
ร้านตกแต่งน่ารัก ไอศกรีมหลากสี และท็อปปิ้งสดใสละลานตา ฉันยอมต่อคิวซื้อมากินถึงสองถ้วย และรสชาติที่อร่อยจนติดใจถึงทุกวันนี้เป็น Soft Serve หรือไอศกรีมเนื้อนิ่มสีขาวรสดั้งเดิม เติมด้วยบลูเบอร์รี่สดๆ และราดซอสหวาน… ชิมคำแรกถึงกับพริ้มเลยค่ะ ด้วยรสชาติหวานและมันลงตัวจริงๆ ซึ้งแล้วว่าทำไมลอนดอนเนอร์ถึงยอมรอคิวกัน
ที่ตั้ง 4 Park St, London
ราคาเฉลี่ย คนละ 5-8 ปอนด์
เว็บไซต์ www.gelateria3bis.co.uk
ก่อนจะจบลิสต์ความอร่อยในลอนดอน ฉันขอขอบคุณการบินไทยและคุณวิชญ์ กิจจาทร ผู้จัดการใหญ่ของการบินไทยประจำประเทศอังกฤษและไอร์แลนด์ คุณวิทย์บอกกับฉันว่า
“ธุรกิจสายการบินก็เหมือนธุรกิจ ร้านอาหาร การแข่งขันสูงแต่เราอยู่ได้ เพราะลูกค้าเลือกเราจากรสชาติ การบริการ และบรรยากาศเป็นสำคัญ และยิ่ง A380 เปิดเส้นทางบินตรงสู่ลอนดอนแล้ว ศักยภาพของเครื่องบวกความสบายที่เหนือชั้น เราจึงมั่นใจว่านักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจะยิ่งสุขใจกับเที่ยวบินนี้อย่างแน่นอน”
ดังนั้นใครคิดจะไปลอนดอนทริปหน้า คิดถึงการบินไทยและ A380 นะคะ ตารางบินมีทุกวัน และเวลาก็ดีสุดยอด TG910 ออกจากกรุงเทพ 1.10 น. ถึงลอนดอน 7.15 น. เช้าตรู่ของวันถัดไป และขากลับ TG911 ออกจากลอนดอน 12.30 น. ถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ 5.45 น. ของวันถัดไป
ท้ายสุดแอบกระซิบอีกนิดว่า เก้าอี้นั่งชั่นประหยัดของเครื่อง A380 ของการบินไทย มีลำตัวกว้างถึง 18 นิ้ว เป็นเก้าอี้ชั้นประหยัดที่ใหญ่ที่สุด ไม่แพ้สายการบินใดเลยค่ะ ดังนั้นตลอด 12 ชั่วโมงที่นั่ง เราจะมีแต่ความสบาย ไม่เมื่อยและไม่เหนื่อย เมื่อถึงจุดหมายทั้งขาไป “ลอนดอน” และขากลับมาถึงบ้านเรา
ขอบคุณ
คุณวิชญ์ กิจจาทร ผู้จัดการใหญ่ของการบินไทยประจำอังกฤษและไอร์แลนด์
คุณปริยา จุลกะรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและบริหารลูกค้าดิจิทัล
คุณปรียนันท์ มงคลศรี ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและบริหารลูกค้าดิจิทัล
คุณศุภรัตน์ ชัยรัตน์ประเสิรฐ (TAPG)
คุณไชยพร มีคำ (TAPG)
และคณะผู้ร่วมเดินทางทุกท่าน