ดื่มด่ำกับรสชาติความสุข รสของความเรียบง่าย ...แค่เดินช้าลง

Be grateful and slow down Here is a Taste of the good life, enjoy it!

ถ้าไม่ได้เดินช้าลง ถ้าไม่ได้หยิบจักรยานคันโปรดออกมาปั่นสัมผัสชีวิตรอบเมือง 
ถ้าไม่ได้ออกมาเห็นด้วยตัวเอง คงละเลยสิ่งดีๆ ที่อยู่รอบตัวไปเยอะเลย  
ใช้ชีวิตง่ายๆ สนุกไปกับการถ่ายทอดเรื่องราวอาหารดีๆ สี่สไตล์ในแบบของพวกเรา

Life is simple. Taste it, feel it

มาอุดรต้องมากินนะ! เป็นคำพูดที่มักจะเอาไปอวดกับแขกผู้มาเยือนเวลาจะทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดี เรื่องกินนี้ขอยืดตัวตรงภูมิใจนำเสนอนิดนึงบ้านเราไม่ได้มีดีแค่อาหารอีสาน ส้มตำ ข้าวเหนียว ไก่ย่างหรอกนะ จริงๆ แล้วบ้านเรามีผู้คนหลากหลายเชื้อชาติมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ อาหารที่เราพบเห็น หาทานได้ และภูมิใจนำมาเสนอ ไม่ว่าจะเป็นอาหารเวียดนาม อาหารอิสลาม อาหารอีสาน ไปจนถึงอาหารจีน เราสรรหาอาหารเหล่านี้และนำมาเล่าสู่กันฟังด้วยการปั่นจักรยานไปรอบๆ เมืองอุดร ขอสารภาพไว้ตรงนี้เลยว่าการปั่นจักรยานครั้งนี้ทำให้เราได้มองเห็น ได้รู้สึกและสัมผัสถึงวิถีการใช้ชีวิตของผู้คนได้ไม่น้อยอย่างที่ไม่เคยเป็นมาเลยทีเดียวอาหารต่างๆ ที่เราเคยรู้แค่เพียงว่ามีอยู่จริง แต่ไม่เคยได้ลิ้มชิมรสอย่างละเมียดละไมเท่าครั้งนี้มาก่อน ไม่เพียงแต่รสชาติอาหาร แต่เรารับรู้ถึงความรู้สึกของผู้คนและบรรยากาศในขณะนั้นได้เป็นอย่างดีลองมาลดจังหวะการดำเนินชีวิตให้ช้าลง เราจึงได้รู้ว่าสิ่งดีๆ ที่อยากจะเอามาบอกเล่าต่อมีอยู่อย่างมากมาย 

Viet Nam Breakfast

เริ่มชวนกันปั่นไปทานมื้อเช้าสไตล์อาหารญวน ย่านถนนสี่ศรัทธา ใกล้สี่แยกเมธาธรรม เป็นที่ตั้งของร้านอาหารเช้าอันเลื่องชื่อของเมืองอุดร ขนมปังทรงเครื่อง ไข่ลวก ไข่กระทะ ปากหม้อญวน สตูหมู/ไก่ พิซซ่าเวียดนาม ฯลฯ ราคาต่อคนต่อมื้ออยู่ที่ประมาณ 60-120 บาท

มาอุดรถ้าไม่ได้กินสักอย่างในนี้ถือว่าพลาดมาก ขอหยิบพระเอกในรายการออกมาอวดนิดนึง มองไปโต๊ะไหนก็ต้องมีออเดอร์ไข่กระทะอย่างน้อย 1 กระทะบรรยากาศในร้านอาหารยามเช้าผู้คนมักเริ่มต้นวันด้วยความสดใสและรอยยิ้มบนใบหน้า ส่วนใหญ่แล้วจะมากันเป็นครอบครัว อาหารที่สั่งก็คุ้นเคย ไม่ต้องอ่านเมนูเลยก็ยังได้

ถัดมาอีกสักหน่อยที่ถนนตำรวจ (ซอยกสิกร) เป็นที่โปรดปรานของผู้คนไม่น้อยไปกว่าสถานที่ข้างต้นเลย เมนูเด่นของที่นี่คือข้าวต้มเห็ดชาจีน ที่ใครเคยมากินแล้วจะต้องคะยั้นคะยอให้คนที่เพิ่งมีโอกาสมาทานครั้งแรกได้รับรสความอร่อยนั้นบ้าง ส่วนรายการอื่นๆ ก็มีหลากหลายเมนู จนเลือกทานกันไม่ไหว เพราะแลดูน่าสนใจไปเสียหมด ราคาก็เริ่มต้นเบาๆ จานละ 25 ไปจนถึง 250 บาท เราว่าจุดเด่นและความแตกต่างของมื้อเช้ากับมื้ออื่นๆ คงจะเป็นในเรื่องของบรรยากาศทั้งจากตัวร้านเองและจากคุณลูกค้าที่สรรสร้างความน่าสนใจและเสน่ห์เล็กๆ ในมื้อแรกของวันได้อย่างสดใส

(ย่านถนนสี่ศรัทธาและถนนตำรวจ (ซอยข้างธนาคารกสิกรไทย ถนนโพศรี) มีร้านอาหารญวณหลายร้าน
เปิดกันตั้งแต่เช้าตรู่ถึงบ่าย)

Halal Lunch

ถัดมาที่อยากแนะนำคืออาหารไทยมุสลิม จัดไว้ให้อยู่ในลิสต์ของมื้อกลางวันได้นะ ร้านอยู่ใกล้กับมัสยิดกุวะติลอิสลาม ย่านหลังเรือนจำกลางอุดรธานี

จานที่แนะนำคือข้าวหมกไก่, แกงกะหรี่, แกงมัสมั่น และขาดไม่ได้เลยกับโรตีเนื้อแป้งหอมนุ่มทานกับแกงกะหรี่หรือมัสมั่น ทุกจานต้องขอบอกเลยว่ารสชาติติดลิ้น ชนิดกินแล้วฟิน ถึงจะกินอย่างอื่นมาก่อนก็เถอะ ได้ลิ้มรสอาหารมุสลิมสักอย่างในนี้ อาจถึงกับลืมรสชาติอาหารอื่นที่เพิ่งจะได้กินมา ราคาอยู่ระหว่าง 35-70 บาท ต่อจาน คุ้มค่ากับความอร่อยและเอกลักษณ์ที่ลืมไม่ลงจนต้องหาโอกาสกลับมาอีกแน่นอน 

ที่ตั้ง : ย่านมัสยิดกลางจังหวัดอุดรธานี ถนนศรีชมชื่น ละแวกหลังเรือนจำ เปิดกันตั้งแต่เช้ายันเย็น

Esan Taste

ในซอยวัดป่าบ้านจิกมีร้านข้าวคั่วหัวหอม ที่ตั้งอยู่อย่างเงียบๆ แต่ไม่เหงา ลูกค้าประจำจะคุ้นเคยและวางตัวได้อย่างเป็นกันเองกับเฮียเจ้าของร้าน

เมนูแนะนำคือต้มพวงไข่, เสือร้องไห้, เป็ดทอด ฯลฯ ราคาทานเป็นมื้อเย็นให้อิ่ม 2-3 คนราวๆ 500 บาท เฮียออกตัวว่าร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ ทำพออยู่ได้ คนที่มาก็มากันแบบปากต่อปาก ได้นั่งคุยกับเฮียถึงได้รู้ว่าอีกคนที่รักการออกเดินทาง ปลายทางที่ไปมานั้นล้วน แต่ไม่ธรรมดาเลย เห็นทีต้องหาโอกาสมาพูดคุยกับเฮียด้วยบ่อยๆ เสียแล้ว

ที่ตั้ง : อาหารใน 2 หน้ากระดาษนี้หาทานได้ที่ถนนนเรศวร ย่านวัดป่าบ้านจิกเปิดร้านช่วงสายๆไปจนถึงแลงๆ

Chinese Between-meal Edible

ปิดท้ายทริปปั่นจักรยานเลาะเมืองของเราด้วยของว่างอย่าง ซาลาเปา ติ่มซำหลากหลายชนิดสำหรับทานเล่น เด่นซาลาเปาอยู่แถวสี่แยกวัดป่าบ้านจิกทางไปหมู่บ้านสินชัยธานี

ที่นี่ไม่มีโต๊ะให้นั่งทาน ลักษณะจะเป็นการจอดรถเพื่อแวะซื้อแล้วหิ้วกลับบ้าน ซาลาเปาไส้แน่น แป้งนุ่ม ราคา 10-20 บาท ภาพที่เราเห็นคือลูกค้ามักจะรู้แล้วว่าจะกินอะไร แค่พุ่งตัวเข้าไปซื้อ โดยเฉพาะเด็กๆ หลังเลิกเรียน ผู้ปกครองมักจะพาแวะซื้อก่อนกลับบ้าน เห็นแววตาความสุขเล็กๆ ของเด็กน้อยในวันนั้นแล้วก็ทำให้ยิ้มได้นะ

จริงๆ แล้วสิ่งแวดล้อมมันก็คงสวยงามของมันอยู่อย่างนั้นมานานแล้วแหละ เพียงแต่เราไม่เคยสังเกตเห็นและมองข้ามไปเพราะเราอาจเผลอใช้ชีวิตกันอย่างรีบเร่งจนเกินไป การได้ออกมาปั่นจักรยานครั้งนี้นอกจากจะอิ่มท้องแล้วยังอิ่มใจด้วยนะ

Dessert

ไอศกรีมกะทิสด ย่านบ้านจิก ไม่เพียงรสชาติที่อร่อยหวานมัน เสน่ห์ของเค้าคือคุณยายที่อายุราวๆ 70-80 ปี ออกมาตักไอติมขายด้วยตัวเอง คนกินก็นั่งกินบนเก้าอี้พลาสติกตัวกลม หรือไม่ก็ยืนกินมันตรงนั้นแหละ (ก็มันอร่อยนี่) เป็นเวลา 36 ปีแล้วที่คุณยายยังคงพอใจใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายไม่เปลี่ยนแปลง