ปักหมุดเที่ยว "ภูกระดึง" ชม Unseen ต้อนรับฤดูหนาว

ปักหมุดเที่ยว "ภูกระดึง" ชม Unseen ต้อนรับฤดูหนาว

ปักหมุดเที่ยว "ภูกระดึง" ชม Unseen ต้อนรับฤดูหนาว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ภูกระดึง ตั้งอยู่ที่ตำบลศรีฐาน มีพื้นที่ ๒๑๗,๕๗๖ ไร่ ประกาศเป็นอุทยานฯ เมื่อวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๐๕ เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและสถานที่เที่ยวหน้าหนาวที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่งของเมืองไทยเพราะมีสภาพธรรมชาติสมบูรณ์ประกอบด้วยระบบนิเวศและภูมิประเทศหลากหลายทั้งทุ่งหญ้า ป่าสนเขา ป่าดิบ ป่าต้นเมเปิ้ล พันธุ์ไม้ดอกที่สวยงาม กุหลาบป่า เอื้องคำหิน น้ำตกและหน้าผาชมทิวทัศน์ ลักษณะเด่นของอุทยานฯ แห่งนี้คือเป็นภูเขาหินทรายยอดตัด และที่ราบขนาดใหญ่คล้ายใบบอนหรือรูปหัวใจ มีความสูง ๔๐๐-๑,๒๐๐ เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ก่อนเดินทางมาท่องเที่ยวป่าเขาที่ภูกระดึง นักท่องเที่ยวควรสำรวจสุขภาพความพร้อมของร่างกายก่อนเดินทางเพราะต้องใช้เวลาเดินและปีนป่ายเขาที่มีระยะทางร่วม ๙ กิโลเมตร (ขึ้นเขา ๕ กิโลเมตร ทางราบอีกประมาณ ๓-๔ กิโลเมตร) อุทยานฯ เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นภูกระดึง ตั้งแต่เวลา ๐๗.๐๐ – ๑๔.๐๐ น. และอุทยานฯ จะปิดเพื่อฟื้นฟูสภาพป่า ระหว่างเดือนมิถุนายน-กันยายน ของทุกปี

 

ในช่วงฤดูหนาว ภูกระดึงจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศเดินทางสัมผัสธรรมชาติเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีสภาพอากาศที่หนาวเย็น ทะเลหมอก ใบเมเปิ้ล และดอกไม้ป่าที่มีความสวยงาม

สถานที่น่าสนใจในเขตอุทยานฯ ได้แก่ 


เส้นทางขึ้นภูกระดึง
ทางขึ้นค่อนข้างชันแต่จะมีจุดแวะพักที่ “ซำ” หมายถึง บริเวณที่มีแหล่งน้ำใต้ดินผุดขึ้นมาแต่ละจุดมีเครื่องดื่มและอาหารบริการ 

ผานกแอ่นอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ๒ กิโลเมตร เป็นลานหินเล็ก ๆ มีสนขึ้นโดดเด่นริมหน้าผา เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น และทะเลหมอกที่งดงามมากแห่งหนึ่ง สามารถมองเห็นทิวทัศน์เบื้องล่างซึ่งเป็นท้องทุ่งและเทือกเขา ริมทางเดินใกล้ผานกแอ่นมีดอกกุหลาบป่าสีแดง สีขาวขึ้นเป็นดงใหญ่ ซึ่งบานสะพรั่งในเดือนมีนาคม-เมษายน

ผาหล่มสักห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ๘ กิโลเมตร เป็นลานหินกว้าง และมีสนต้นใหญ่อยู่ใกล้กับชะง่อนหินที่ยื่นออกไปจากหน้าผา เป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกได้ชัดเจนที่สุด จึงทำให้นักท่องเที่ยว ช่างภาพนิยมไปถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ผาแห่งนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของภูกระดึง 

น้ำตกตาดฮ้องเป็นน้ำตกที่อยู่ในเขตของอุทยานฯ(ด้านล่างของอุทยานฯ) ซึ่งอุทยานฯ เปิดให้เป็นเส้นทางท่องเที่ยวผจญภัย “ตามรอยเสรีไทย ท่องไพรตาดฮ้อง” เนื่องจากเส้นทางนี้เคยเป็นเส้นทางของขบวนการเสรีไทยที่สร้างจากจังหวัดเลยไปยังจังหวัดเพชรบูรณ์ในสมัยสงครามโลก ครั้งที่ ๒ เพื่อใช้เป็นเส้นทางหลบหลีกนำ จอมพล   ป. ไปหลบภัยจากทหารญี่ปุ่น ตัวน้ำตกมีความสูง ๔๐ เมตร เมื่อน้ำตกไหลลงมาจากหน้าผาสู่แอ่งน้ำจะมีเสียงดังกึกก้อง จึงได้ชื่อว่า “น้ำตกตาดฮ้อง”   นอกจากนี้ในเส้นทางยังมีสถานที่ท่องเที่ยว ได้แก่ ตาดห้วยวัว หาดทรายขาว แก่งหินตั้ง ภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ และจุดชมวิวภูลาดม่วง เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวทิวทัศน์ได้  

นอกจากนี้ยังมี ผาหมากดูก ผาแดง ผาเหยียบเมฆ น้ำตกวังกวาง  น้ำตกเพ็ญพบใหม่ น้ำตกโผนพบ    น้ำตกเพ็ญพบ  น้ำตกถ้ำใหญ่ น้ำตกธารสวรรค์ น้ำตกถ้ำสอเหนือ น้ำตกถ้ำสอใต้ สระอโนดาต เป็นต้น 

อุทยานฯ เก็บค่าธรรมเนียมนักท่องเที่ยว ชาวไทย ผู้ใหญ่ ๔๐ บาท เด็ก ๒๐ บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ ๔๐๐ บาท เด็ก ๒๐๐ บาท และค่าบริการลูกหาบสัมภาระ กิโลกรัมละ ๑๕ บาท นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเต็นท์และบ้านพักได้ที่ที่ทำการอุทยานฯ โทร. ๐ ๔๒๘๗ ๑๓๓๓, ๐ ๔๒๘๗ ๑๔๕๘ หรือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรุงเทพฯ โทร.  ๐ ๒๕๖๒ ๐๗๖๐ หรือwww.dnp.go.th

การเดินทาง จากตัวเมืองเลยใช้เส้นทางหมายเลข ๒๐๑ เส้นเลย - ภูกระดึง ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองเลยประมาณ ๗๕ กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข ๒๐๑๙ อีก ๘ กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานฯ

รถโดยสารประจำทาง นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางโดยรถโดยสารประจำทางสายกรุงเทพฯ-เลย แล้วลงที่ผานกเค้า ซึ่งเป็นเขตรอยต่อระหว่างชุมแพ-ภูกระดึง จากจุดนี้จะมีรถสองแถวไปอุทยานแห่งชาติภูกระดึงหรือหากนักท่องเที่ยวใช้รถประจำทางเส้นทางกรุงเทพฯ-ชุมแพแล้วลงที่ตลาดชุมแพแล้วต่อรถสายชุมแพ-ผานกเค้า ไปลงที่ผานกเค้า  ซึ่งจะมีรถสองแถวไปอุทยานฯ 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook