เก็บตกหลังเกม ! 5 ประเด็นห้ามพลาด หมีขาว ล่อเป้าตะปบ กระทิง กลับบ้าน
ฟุตบอลโลก 2018 รอบ 16 ทีมสุดท้าย
สเปน 1-1 รัสเซีย
รัสเซีย เอาชนะลูกจุดโทษ 4-3
คืนวันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม 2561
สนาม ลุชนิกี้ สเตเดี้ยม
5. การเซ็ตเกมของ สเปน ทัพกระทิงดุ เป็นฝ่ายครองเกมได้ทั้งตลอด 120 นาทีแต่แทบจะไม่สามารถทำอะไรแนวรับของ รัสเซีย ได้เลยจากเกมรุกที่เชื่องช้า
บอลของ สเปน ได้แต่ผ่านไปขวางสนามไปมาอย่างน่าหงุดหงิด ก่อนที่จะพยายามใช้ความสามารถเฉพาะตัวของ อิสโก้, ซิลบา หรือ อิเนียสต้า ที่พยายามจะสร้างจังหวะปาฎิหาริย์ให้กับทีมแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ
4. การผ่านบอล 1144-290 ครั้ง น่าเหลือเชื่อว่าเป็นเกมที่ สเปน (สีแดง) ผ่านบอลมากกว่า รัสเซีย (สีน้ำเงิน) ถึงเกือบ 4 เท่าตัว ทว่าครึ่งในนั้นเป็นการผ่านบอลไปด้านหลังและด้านข้าง
เมื่อรวมกับการเซ็ตเกมที่วนเวียนกันไปมาจนคู่ต่อสู้ลงมาตั้งโซนรับกันแน่นหนาหน้ากรอบเขตโทษไปหมดก็ทำให้เกมรุกของพวกเขาด้อยประสิทธิภาพสุดๆ ในเกมนี้ดังที่จะเห็นได้ว่าบอลของเขาจะไปหนาแน่นที่บริเวณเลยครึ่งสนามมาเล็กน้อยเท่านั้น
3. ฟุตบอลของ ดีเอโก้ คอสต้า เราไม่รู้ว่า เอียร์โร คิดอะไรอยู่จึงใช้งาน คอสต้า กับระบบการเล่นที่ผ่านไปมาที่กลางสนาม ไม่ใช้ประโยชน์จากความแข็งแกร่งและความถึกของดาวเตะ แอตเลติโก มาดริด รายนี้ให้เป็นประโยชน์โดยเฉพาะในครึ่งแรก
ครึ่งหลังดูนายใหญ่ กระทิง จะปรับให้ลูกทีมโยนบอลเข้าใส่มากขึ้นเมื่อสถิติการครอสเกือบทั้งหมด 27 ครั้งของพวกเขาเกิดขึ้นในครึ่งหลัง-ช่วงต่อเวลาพิเศษ
ทว่าสุดท้าย คอสต้า ก็ไม่สามารถเอาชนะแผงหลัง รัสเซีย ได้จนถูกเปลี่ยนตัวออกช่วงท้ายในที่สุด
2. ความแข็งแกร่งของ ชูบา กลายเป็นนักเตะที่เอาชนะในการดวลลูกกลางอากาศมากที่สุดในสนามที่ 11 ครั้ง! เรายังสงสัยว่าเพราะเหตุใดนายใหญ่ของ รัสเซีย จึงเลือกที่จะเปลี่ยนตัวเขาออก แต่สุดท้ายก็ยังไงโชคดีที่ทีมสามารถเอาชนะด้วยการดวลลูกจุดโทษสำเร็จ
บอลสวนกลับของ รัสเซีย หลังจากที่ ชูบา ออกจากสนามช็อตไปเสียดื้อๆ พวกเขาไร้ตัวเก็บบอลในแดนหน้าและเป็นการเปิดโอกาสให่ สเปน ได้โขยกเข้าทำอยู่ฝ่ายเดียว
1. แมนออฟเดอะแมตช์ ไร้ที่ติ! ยอดเยี่ยมสุดๆ ทั้งในเวลาปกติ, ต่อเวลาพิเศษ และการเซฟลูกจุดโทษหลังจบ 120 นาที
นายทวารวัย 32 ปีโดดเด่นสุดๆ ในเกมนี้เมื่อเขางัดเซฟสำคัญหลายๆ ครั้งให้ทีมทะลุเข้ารอบ 8 ทีมไปแบบสุดเซอร์ไพรส์