5 เรื่องต้องรู้หลัง "พี่เสือ" สังเวย 2 แข้งก่อนพลิกพ่าย "ชุดขาว" คาบ้าน
จบเกมที่ อลิอันซ์ อารีนา แบบน่าเสียดายสุด ๆ สำหรับแข้ง บาเยิร์น มิวนิค หลังจากที่พวกเขาเป็นฝ่ายทำเกมได้ดีกว่าทั้งใน 2 ช่วงเวลา แต่กลับไม่สามารถฝ่าแนวรับของ เรอัล มาดริด ได้
และต้องมาเสียอเวย์โกล 2 ลูกแบบหมดทางป้องกันสุด ๆ พร้อมกับสังเวยแข้งเจ็บอีก 2 ราย
ไปดูกันว่าในเกมนี้มีประเด็นอะไรน่าสนใจบ้าง โดยเฉพาะการเจ็บของแข้งคนสำคัญของเจ้าบ้าน การดร็อปแข้งชื่อดังของ มาดริด และโอกาสเข้าชิงของ เรอัล มาดริด ในแมตช์นี้
5. เบนเซมา โดนดร็อปออกจากทีมอีกราย
ในเกมคลาสสิคอีกเกมหนึ่งของ ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก ใคร ๆ ก็ต้องคิดว่า เรอัล มาดริดจะส่งชุดที่ดีที่สุดลงสนาม โดยเฉพาะการเน้นพวกตัวประสบการณ์สูงในแดนนห้าเพื่อเล่นงานกองหลังอีกฝ่ายให้ได้มากที่สุด แต่ ซีดาน กลับเลือกใช้บริการของ คริสเตียโน โรนัลโด้ เพียงรายเดียวเท่านั้นในเกมนี้ ส่วนอีกคนไม่ใช่ เบล หรือ เบนเซมา แต่เป็น บาสเกซ
นับตั้งแต่ ซีดาน หันมาใช้ระบบหน้าคู่ แกเร็ธ เบล คือผู้ร้ายที่ถูกตัดออกจากตัวจริงเป็นคนแรก พร้อมกับการดึง อิสโก้ เข้ามาเป็นกระสุนแทนในตำแหน่งกลางรุกซึ่งได้ผลดีมาตลอด แต่การปืนฝืดและยิงว่าวหลาย ๆ ครั้งของ เบนเซมา ทำให้กุนซือหัวใสตัดสินใจส่ง บาสเกซ ลงมาเป็นตัวจริงบ้างในเกมนี้
แม้ผลงานของ บาสเกซ จะไม่ค่อยโดเด่นเท่าไหร่ แต่เมื่อ อเซนซิโอ ลงมาแล้วปรับระบบไปเป็น 4-3-3 ฤทธิ์ของ บาสเกซ ก็เริ่มกลับมาทำงานอีกครั้ง โดยเฉพาะการใช้ความไวของเขาในการกดดันทางด้านข้าง แล้วให้พื้นที่อิสระแก่ โรนัลโด้ ตรงกลางมากขึ้น
ไม่แน่ว่าในฤดูกาลหน้าเราอาจได้เห็น 3 ประสานชุดใหม่ขึ้นมารวมทีมกับ โรนัลโด้ ก็ได้ และนั่นหมายความว่า เบนเซมา อาจต้องหาบ้านใหม่ในหน้าหนาวหน้า หากเขายังไม่สามารถคืนฟอร์มการทำประตูเสียเดี๋ยวนี้
4. ราฟินญา ทำเรื่องอีกแล้ว
การขาดแบ็คซ้ายตัวหลักอย่าง ดาวิด อลาบา ทำให้ตัวเลือกตกมาอยู่ที่ ราฟินญา ไม่ก็ ฆวน แบร์นาท รายแรกมีดีที่ประสบการณ์ ส่วนรายหลังนั้นปราดเปรียวกว่า และยังหนุ่นมแน่นกว่า แน่นอนว่า จุ๊ปป ไฮน์เกส เลือกแบบแรก
ผลคือการเลือก ราฟิรญา ลงเกมนี้ดูไม่ใช่การเลือกที่ดีเท่าไหร่ เขาดูลนลานในการปะทะกับเกมรุกทางด้านขวาของ มาดริด ตลอดเวลา โดยเฉพาะเมื่อ บาสเกซ เริ่มได้อิสระในการออกข้างมากขึ้น
และในที่สุดเขาก็พลาดอย่างไม่น่าเชื่อในการจิ้มบอลส่งให้ อเซนซิโอ หลุดไปกับ บาสเกซ 2 คนหน้าตาเฉย ก่อนจะกลายเป็นประตูที่อาจทำให้พวกเขาต้องตกรอบในปีนี้
3. ก้าวที่สำคัญของ อเซนซิโอ
หาก คริสเตียโน โรนัลโด้ คือราชันที่ เบอร์นาเบว มาร์โก้ อเซนซิโอ ก็คงเป็นเจ้าชายน้อยที่รอวันเป็นราชันคนต่อไป
เด็กหนุ่มวัย 22 ปีโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ตั้งแต่เมื่อช่วงฤดูกาลเริ่ม โดยเฉพาะเมื่อ คริสเตียโน โรนัลโด้ ยังไม่สามารถกลับมาลงเล่นได้ตอนเริ่มฤดูกาล อย่างไรก็ตาม โอกาสของเขาก็ค่อย ๆ หายไปเรื่อย ๆ เมื่อเหล่าตัวหลักกลับมากันครบ
แต่วันนี้เขาทำให้เห็นอีกครั้งว่าเขามีศักยภาพมากเพียงใดที่จะเป็นอนาคตให้กับ ซานติอาโก เบอร์นาเบว ความไวและนิ่งของเขาทำให้การผิดพลาดของ ราฟินญา นั้นไม่เสียของ และนำไปสู่การทำประตูในเกมสำคัญที่สุดเกมนึงของเขาเลยทีเดียว
2. เจ็บอีกแล้ว
ก่อนเกมจะเริ่มขึ้น เสือใต้ ขาดแข้งหลักถึง 2 ราย มานูเอล นอยเออร์ โกลมือ 1 ของทีมที่เจ็ทั้งฤดูกาล กับ อาร์ตูโร วิดัล ที่จะไม่ได้ลงจนจบฤดูกาลนี้ แถมยังมี คิงส์ลีย์ โกม็อง ดาวรุ่งฝรั่งเศส ที่ก็ต้องพักยาวอีกรายเช่นกัน
เกมเมื่อคืนที่ผ่านมาก็ยิ่งตอกย้ำทีมของ จุ๊ปป์ ไฮน์เกส เข้าไปอีก เมื่อ อาร์เยน ร็อบเบน ร่วงลงไปตั้งแต่เกมยังไม่ถึง 5 นาทีแรก ก่อนต้องยอมเดินออกจากสนามตั้งแต่ยังไม่ถึง 10 นาทีด้วยซ้ำ แถมยังต้องมาเสีย เยอโรม บัวเต็ง ในช่วงไม่ถึง 40 นาทีอีกเป็นรายที่ 2 อีก
ยังไม่จบแค่นั้น โธมัส มุลเลอร์ เองก็เป็นอีกคนที่ดูเล่นไม่เต็มร้อย หลังมีอาการกะเผลกให้เห็นบางจังหวะ ถ้าต้องขาดแข้งเหล่านี้เพิ่มขึ้นมาจริงๆ บอกเลยว่าเตรียมล่านัดชิงที่เคียฟได้เลย
1. ไม่ว่าใครจะเข้ารอบ ลิเวอร์พูล ก็มีโอกาสฝันได้ทั้งนั้น
บาเยิร์น มิวนิค คือแชมป์ บุนเดสลีกา 6 สมัย ผู้ไร้เทียมทาน แต่กับเกม แชมเปี้ยนส์ลีก แล้ว พวกเขาไม่ได้เป็นอย่างนั้น แนวรับของพวกเขายังมีจังหวะผิดพลาดบ่อย ๆ ให้เห็นตั้งแต่เกมกับ ปารีสฯ ในรอบแบ่งกลุ่มแล้ว และในวันใดที่แนวรุกของพวกเขาทำเกมไม่ได้ เช่นเกมคืนที่ผ่านมาเป็นต้น พวกเขาก็มีโอกาสสูงทีเดียวที่จะกลายเป็นฝ่ายแพ้เมื่อจบการแข่งขัน
ส่วน เรอัล มาดริด คือทีมแชมป์ 2 สมัยซ้อน และแม้ คริสเตียโน โรนัลโด้ จะระเบิดฟอร์มเปรี้ยงได้เท่าใด แต่ผลงานของ เรอัล มาดริด ในฤดูกาลนี้ยังห่างไกลจากสิ่งที่พวกเขาเคยทำไว้ในฤดูกาลที่แล้วมากนัก โดยเฉพาะเกมรับที่มักมีรูโหว่อยู่บ่อย ๆ
เกมเมือคืนถือเป็โอกาสดีที่ชาวเดอะค็อปจะได้มีหวังการบ้างเสียที แนวรับของทั้ง บาเยิร์น และ เรอัล ต่างสุ่มเสี่ยงที่จะโดน ซาลาห์-ซาเน-ฟีร์มิโน เจาะทะลวงเสียเหลือเกิน ในขณะที่เกมรุก หากสามารถกัน โรนัลโด้ หรือ เลวานดอหสกี้ ออกไปได้ก็แทบจะเพียงพอแล้ว และนั่นก็เหลืออีกเพียงอย่างเดียวเท่นั้นที่เหล่า หงส์แดง ต้องทำก็คือผ่าน โรมา ไปให้ได้ในเกมที่ โอลิมปิโก นั่นเอง