เอดูอาร์ เมนดี้ : จากคนตกงาน สู่นายทวารพันล้านแห่งทัพสิงโตน้ำเงินคราม

เอดูอาร์ เมนดี้ : จากคนตกงาน สู่นายทวารพันล้านแห่งทัพสิงโตน้ำเงินคราม

เอดูอาร์ เมนดี้ : จากคนตกงาน สู่นายทวารพันล้านแห่งทัพสิงโตน้ำเงินคราม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"Here We Go" นี่คือวลีประจำตัวของเหยี่ยวข่าวเบอร์หนึ่งแห่งตลาดซื้อขายในยุคปัจจุบันอย่าง ฟาบริซิโอ โรมาโน่ ที่แฟนบอลทั่วทุกมุมโลกเป็นอันรู้กันดีว่าถ้าเขาเอ่ยคำนี้เมื่อไร แทบรับประกันได้เลยไม่มีพลาด การย้ายตัวจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน 

เอดูอาร์ เมนดี้ นายทวารร่างใหญ่แห่งสโมสร แรนส์ ในลีกเอิง ฝรั่งเศส คือหนึ่งในชื่อที่ โรมาโน่ Here We Go ไปแล้ว โดยคาดการณ์กันว่าค่าตัวในการย้ายสู่สิงโตน้ำเงินครามเชลซีอยู่ที่ประมาณ 20-25 ล้านยูโร 

อย่างไรก็ตามหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่ากว่าที่นายทวารเลือดเซเนกัลคนนี้จะก้าวขึ้นมาเป็นแข้งระดับพันล้าน เมื่อ 6 ปีก่อนเขายังเป็นแค่คนตกงาน อนาคตมืดมดอยู่เลย ... กว่าที่จะเดินทางมาถึงวันนี้ เมนดี้ ต้องผ่านอะไร และต่อสู้มามากแค่ไหน ติดตามคำตอบได้ที่ Main Stand

นักเตะสมัครเล่นกับศูนย์ช่วยเหลือคนว่างงาน

ถึงแม้จะเกิดมาในครอบครัวผู้อพยพชาวกินี-บิสเซาเชื้อสายเซเนกัล แต่ก็ต้องชื่นชมพ่อแม่ของ เอดูอาร์ เมนดี้ ที่สามารถตั้งหลักปักฐานในประเทศฝรั่งเศสได้อย่างมั่นคง พวกเขาไม่ขาดตกบกพร่องเรื่องรายได้ในการจุนเจือปากท้อง เรียกได้ว่าเป็นครอบครัวชนชั้นกลางทั่ว ๆ ไป แต่เส้นทางในถนนสายลูกหนังกลับไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบโดยสิ้นเชิง


Photo : leparcellois.com

เมนดี้ หลงรักฟุตบอลและเริ่มเล่นมันอย่างจริงจังตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ก่อนที่หลังจากนั้นเขาจะเข้าไปฝึกฝนวิชาลูกหนังกับทีมระดับท้องถิ่นอย่าง CS Municipaux Le Havre ก่อนที่ในปี 2011 เมนดี้ ในวัย 19 ปี ได้เซ็นสัญญากับทีม AS Cherbourg ซึ่งเป็นทีมในลีกระดับ 4 ของประเทศฝรั่งเศส

อย่างที่เกริ่นไปว่าเส้นทางของ เมนดี้ เต็มไปด้วยความยากลำบาก และมันก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ เพราะถึงแม้จะเป็นทีมที่อยู่ในระดับสมัครเล่น แต่ตลอดระยะเวลา 4 ปี กับทีม AS Cherbourg เมนดี้ ก็ยังไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองได้ด้วยซ้ำ โดยเขาลงเล่นไปเพียง 25 นัดเท่านั้น ก่อนที่สัญญาจะสิ้นสุดลงในปี 2014

เมนดี้ จำเป็นต้องก้มหน้าออกจากทีม และในตอนนั้นเขาก็กลายเป็นคนว่างงาน ...

ในตอนนั้น เมนดี้ อายุ 22 ปี มันควรจะเป็นช่วงวัยที่ดีสำหรับอาชีพนักฟุตบอล เป็นช่วงวัยที่ความสามารถควรจะพัฒนาอย่างก้าวกระโดด แต่ทุกอย่างกลับต้องหยุดชะงักลง จริงอยู่ที่ในช่วงเวลาดังกล่าวมีข้อเสนอจากทีมต่าง ๆ เข้ามาหา เมนดี้ อยู่บ้าง แต่มันก็เป็นข้อเสนอจากทีมร่วมลีกสมัครเล่นทีมอื่น ๆ ถ้าเขาตอบรับ ชีวิตก็จะวนอยู่จุดเดิม ก้าวไม่พ้นการเป็นนักเตะสมัครเล่น สู่การเป็นนักเตะอาชีพได้ตามความฝันเสียที

"ผมเป็นผู้รักษาประตู ผมจำเป็นต้องมีความมั่นใจในตัวเองตลอดเวลา แต่ในเมื่อคุณตกงาน คุณก็จะมีช่วงเวลาที่จะสงสัยตัวเอง สงสัยว่าเส้นทางนี้มันเหมาะกับคุณจริง ๆ หรือเปล่า มันดูไม่มีทางออกจริง ๆ"

"ผมอาจจะต้องเดินทางไกลขึ้นในเส้นทางความฝัน แต่สิ่งเดียวที่ทำได้คือต้องศรัทธาในตัวเองต่อไป มองในแง่ดีผมก็ได้กลับมาสู่โลกแห่งความจริง ได้คิดอะไรมากขึ้น" เมนดี้ กล่าวกับ France Football

หลังจากที่กลายเป็นคนว่างงาน เขาก็ตัดสินใจเดินทางกลับสู่เลออาร์ฟ เมืองที่เขาใช้ชีวิตวัยเด็กในฐานะนักเตะเยาวชน แต่สถานที่แรกที่เขามุ่งหน้าไปกลับไม่ใช่ผืนหญ้าของสนามฟุตบอล แต่เป็นศูนย์จัดหางานเพื่อคนว่างงานภายในเมือง 

"สำหรับนักฟุตบอล การกลายเป็นคนว่างงานและต้องเดินเข้าไปขอความช่วยเหลือในศูนย์ มันเหมือนกันถูกตบหน้าอย่างแรง" เมนดี้ เผยความรู้สึกกับ So Foot magazine


Photo : www.footballclubdemarseille.fr

อย่างไรก็ตาม เมนดี้ ยังคงไม่ละทิ้งความฝันของตัวเอง ในระหว่างที่ทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ศูนย์หางานจัดมาให้ เขาก็เข้าร่วมซ้อมกับสโมสร Le Havre AC ทีมในลีกเดอซ์ ลีกระดับ 2 ของประเทศควบคู่กันไปด้วย โดยไม่ได้รับค่าจ้าง เพื่อเป็นการรักษาความฟิต และพัฒนาทักษะให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

"ผมพัฒนาตัวเองมากยิ่งขึ้นเมื่ออยู่ที่นั่น"

"Le Havre AC เป็นทีมที่สร้างผู้รักษาประตูฝีมือดีมาเยอะ ผู้คนมักจะปลอบใจผมด้วยประโยคนี้ แต่เอาเข้าจริงผมยังไม่รู้จักผู้รักษาประตูชื่อดังที่มาจากลีกระดับ 4 ของฝรั่งเศสเลยสักคน"

"สิ่งที่ยากที่สุดตอนอยู่ที่นี่คือทุกคืนวันศุกร์ ผู้จัดการทีมจะเดินมาประกาศรายชื่อของนักเตะที่จะได้ลงสนามในเกมที่จะถึง แน่นอนว่ามันไม่มีชื่อผม ผมไม่ได้ลงทะเบียนเป็นนักเตะของทีมด้วยซ้ำ แต่มันก็ทำใจได้ยากอยู่ดี"

เมนดี้ ใช้ชีวิตในรูปแบบนี้อยู่ถึง 1 ปีเต็ม จนกระทั่งวันหนึ่งโค้ชในสโมสร Le Havre AC ก็เดินมาบอกข่าวดีกับเขาว่า ทีมสำรองของสโมสรยักษ์ใหญ่อย่าง โอลิมปิก มาร์กเซย กำลังต้องการผู้รักษาประตูคนใหม่ มาทดแทนคนเก่าที่เพิ่งย้ายออกไป

แน่นอนว่า เมนดี้ ตอบรับข้อเสนอนั้นในทันที ...

 

ลืมตาอ้าปาก

ถึงแม้จะเป็นเพียงทีมระดับสำรอง หรือ โอลิมปิก มาร์กเซย ทีม B อีกทั้งเมื่อย้ายมาก็ไม่ได้รับโอกาสลงสนามมากมายนัก แต่การได้ฝึกซ้อมร่วมกับโค้ชระดับชั้นนำ มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ก็ทำให้ เมนดี้ ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ มากมาย และเวลาหนึ่งปีที่นี่ก็ช่วยให้เขากลายเป็นผู้รักษาประตูที่เก่งขึ้นกว่าเดิมพอสมควร


Photo : sunusport.com

"ที่มาร์กเซย เหมือนผมได้ก้าวไปอีกระดับ" เมนดี้ ย้อนความหลัง

"ผมได้ฝึกซ้อมร่วมกับสตาฟโค้ชผู้เชี่ยวชาญ มันเป็นสิ่งที่อดีตผู้รักษาประตูลีกระดับ 4 อย่างผมไม่เคยคิดว่าจะได้รับ ที่นี่ผมไม่รู้สึกว่าตัวเองด้อยค่า และมันมีพื้นที่เพียงพอให้ผมได้เรียนรู้และปรับปรุงตัวเอง"

"ผมได้เรียนรู้จาก สตีฟ มองดองดา, โยฮัน เปเล่ ได้ฝึกซ้อมร่วมกับผู้เล่นระดับ ลาสซานา ดียาร์รา, มิตชี่ บัตชัวยี่, สตีเฟ่น เฟลตเชอร์ และอีกมากมาย"

ในขณะที่โลกยังไม่รู้จักชื่อของ เอดูอาร์ เมนดี้ ณ มาร์กเซย นี้เองเขาค่อย ๆ พัฒนาฝีมือขึ้นเรื่อย ๆ ไต่เต้าขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ และเมื่อผ่านพ้นไปหนึ่งฤดูกาล เมนดี้ ก็ได้รับข้อเสนอจาก แรงส์ (Reims) สโมสรในลีกเดอซ์ ลีกระดับ 2 ของประเทศ ซึ่งเป็นสัญญาระดับนักเตะอาชีพฉบับแรกที่เขาได้รับ แน่นอนว่า เมนดี้ ไม่มีทางปฏิเสธ เขาพร้อมมานานแล้วที่จะพิสูจน์ว่าตัวเองดีพอสำหรับการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ

เมนดี้ เก็บกระเป๋าย้ายออกจากเมืองมาร์กเซย มุ่งหน้าสู่สโมสรแรงส์ ในปี 2016 และถึงแม้ในช่วงแรกบทบาทของเขาจะเป็นผู้รักษาประตูมือ 2 ของทีม แต่ เมนดี้ ก็มีความสุขดี เขารู้ทันทีว่านี่แหละคือรสชาติของฟุตบอลอาชีพที่เขาฝันถึงมาตลอด

"มันเติมเต็มผมมาก ๆ เป็นข้อพิสูจน์ว่าการพยายามของผมที่ผ่านมาไม่ได้สูญเปล่า ผมได้รับรางวัลตอบแทนแล้ว และแน่นอนว่ามันจะไม่จบลงเพียงเท่านี้"

"ผมได้เรียนรู้ว่าการเล่นฟุตบอลในระดับสูงจะต้องมีสมาธิอย่างมากทั้งในและนอกสนาม"

จนกระทั่งเมื่อฤดูกาล 2016-17 ของลีกเดอซ์ผ่านไปได้สักระยะหนึ่ง โยฮันน์ คาร์ราสโซ ผู้รักษาประตูมือหนึ่งก็ย้ายออกจากทีม โอกาสของ เมนดี้ ก็มาถึง และเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ราวกับเป็นไวน์ชั้นดีที่บ่มเพาะมานาน โดยไม่มีใครเคยได้ลองลิ้มรส รสชาติของมันจึงยอดเยี่ยม

7 เกมแรกที่ได้ลงเฝ้าเสา เมนดี้ เก็บได้ทั้งหมด 3 คลีนชีต พร้อมโชว์ซูเปอร์เซฟไปมากมาย นี่คือสัญญาณบ่งบอกว่าดาววงใหม่กำลังเกิดขึ้นแล้ว

ในฤดูกาล 2017-18 เมนดี้ ได้กลายเป็นผู้รักษาประตูมือหนึ่งของสโมสรแรงส์อย่างเต็มตัว แต่สิ่งที่ยอดเยี่ยมกว่านั้นคือการที่เขาคือหนึ่งในกำลังสำคัญในการพาต้นสังกัดขึ้นสู่ลีกเอิง ลีกสูงสุดของประเทศฝรั่งเศสได้สำเร็จ

หลังจากต่อสู้ด้วยจิตใจที่ไม่ยอมแพ้มานาน ในที่สุดความพยายามของ เมนดี้ ก็เริ่มสัมฤทธิ์ผลแล้ว อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ...

 

จิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญแห่งสิงห์บลูส์

การได้มาอยู่ในลีกสูงสุดของประเทศซึ่งเป็นความฝันของ เมนดี้ มาตลอด ไม่ได้ทำให้เขาประหม่าหรือลนลานแต่อย่างใด การต่อสู้ในอดีตที่ผ่านมาน่าจะหล่อหลอมให้จิตใจของเขาแข็งแกร่งดั่งเพชร เพราะ เมนดี้ ยังคงโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมได้อย่างต่อเนื่อง โดยเขาลงสนามเป็นตัวจริงทุกนัด 

และเมื่อจบฤดูกาล 2018-19 แรงส์ ทำได้ดีเสียยิ่งกว่าการรอดพ้นตกชั้น เพราะพวกเขาบินสูงถึงอันดับที่ 8 ในตาราง ซึ่งจุดเด่นของพวกเขาที่ใคร ๆ ต่างพากันชื่นชมก็คือเกมรับ โดยตลอดการแข่งขัน 38 นัด แรงส์ เสียไปแค่ 42 ประตู น้อยมาก ๆ ถ้าเทียบกับมาตรฐานผู้เล่นของทีม น้อยกว่ายักษ์ใหญ่แห่งลีกอย่าง โอลิมปิก ลียง ที่เสียไปถึง 47 ประตูเสียอีก 

แน่นอนว่ากุญแจดอกสำคัญที่ช่วยไขเกมรับของ แรงส์ ให้อยู่หมัดจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากนายทวารร่างยักษ์ เอดูอาร์ เมนดี้ ...

ด้วยฟอร์มระดับพรีเมี่ยม ทำให้จากผู้รักษาประตูที่ครั้งหนึ่งเคยถูกมองข้าม ในที่สุด แรนส์ (Rennes) ทีมร่วมลีกเอิงขนเงิน 3.5 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 170 ล้านบาทมาสู่ขอเขาไปร่วมทีม 

มีคำกล่าวว่าถ้ามนุษย์รู้จักเงยหน้าขึ้นมามองฟ้าแล้ว ก็จะไม่ยอมกลับลงไปก้มหน้าอีกต่อไป เมนดี้ เองก็เช่นกัน ถึงแม้จะมีการย้ายทีม แต่เส้นทางในถนนสายนักฟุตบอลอาชีพของเขาก็ไม่มีสะดุด เขากลายเป็นผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีมแรนส์ในทันที และยังคงโชว์ฟอร์มได้เยี่ยมเช่นเดิม 

การที่ แรนส์ บินสูงถึงอันดับที่ 3 ของตารางคะแนนหลังผ่านการแข่งไป 28 นัด และเสียไปเพียง 24 ประตู ก่อนที่ลีกจะถูกตัดจบด้วยวิกฤติ COVID-19 เมนดี้ ถือเป็นส่วนสำคัญอย่างมาก

เมนดี้ รู้ตัวกำลังเส้นทางอาชีพของตัวเองกำลังพุ่งทะยาน แต่ก็คงคิดไม่ถึงว่ามันจะพุ่งทะยานเร็วขนาดนี้ ...


Photo : talksport.com

หลังจากที่ เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งพรีเมียร์ลีกอังกฤษประสบปัญหาเกี่ยวกับผู้เล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตูอย่างหนัก เนื่องจาก เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า นายทวารที่พวกเขาดึงตัวมาจากสโมสร แอธเลติก บิลเบา ด้วยค่าตัวสถิติโลกในตำแหน่งผู้รักษาประตูจำนวน 71 ล้านปอนด์กลับโชว์ฟอร์มได้อย่างย่ำแย่ ถึงขั้นที่ต้องเอา วิลลี่ กาบาเยโร ผู้รักษาประตูมือสองของทีมในวัย 38 ปี มาทำหน้าที่แทนอยู่ช่วงหนึ่ง พวกเขาก็ไม่รอช้าที่จะต้องแก้ไขปัญหาดังกล่าว

บอร์ดบริหารเชลซี รวมถึง แฟรงก์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีมรู้ดีว่าคงไม่สามารถพึ่งพา กาบาเยโร ไปตลอด พวกเขาจำเป็นต้องหาผู้รักษาประตูคนใหม่ โดยโจทย์สำคัญคือราคาต้องไม่แพง เพราะถ้าแพงและการันตีการเป็นตัวจริงให้ เท่ากับว่า เกป้า เจ้าของสถิติโลกจะกลายเป็นส่วนเกินไปในทันที และจะเท่ากับว่าดีลดังกล่าวล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ดังนั้นพวกเขาต้องการหาคนมาแย่งตำแหน่งกับ เกป้า กระตุ้นฟอร์มในอดีต ในเชิง "ใครดีกว่า ก็ได้รับโอกาสไป" เสียมากกว่า 

ดังนั้นชื่อของ แยน โอบลัค หรือ อังเดร โอนาน่า ผู้รักษาประตูฟอร์มดีแต่ราคาสูงจึงถูกตัดออกไป ก่อนที่ชื่อของ เอดูอาร์ เมนดี้ จะกลายเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด

มีรายงานว่าบุคคลที่อยู่เบื้องหลังในการคว้าตัว เมนดี้ ของเชลซี คือ ปีเตอร์ เช็ค ตำนานผู้รักษาประตูของสโมสร ซึ่งในขณะนี้ทำหน้าที่เป็นประธานฝ่ายเทคนิคอยู่ โดยนอกจากสไตล์การเซฟที่ค่อนข้างคล้ายกันแล้ว เมื่อ 16 ปีก่อนที่ เช็ค จะกลายเป็นตำนานแห่งสแตมฟอร์ด บริดจ์ เขาก็ย้ายมาจาก แรนส์ นี่แหละ  ดังนั้นถ้า เมนดี้ ได้ย้ายมา เชลซี ก็จะเป็นการตามรอยเท้าอย่างสมบูรณ์

ถึงตอนนี้จะยังไม่มีการย้ายตัวกันอย่างเป็นทางการ แต่หลายสื่อก็รายงานตรงกันว่าทุกอย่างนั้นเรียบร้อยแล้ว โดยค่าตัวอยู่ที่ประมาณ 20-25 ล้านยูโร หรือประมาณ 800-1,000 ล้านบาท ... ถ้าบอกว่านี่คือค่าตัวของนักเตะที่เมื่อ 6 ปีก่อนยังเดินเตะฝุ่นหางานทำอยู่คงยากที่จะเชื่อ แต่ เมนดี้ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาทำได้

ถึงแม้ราคาจะยังต่างกันเกือบ 4 เท่าตัว แต่ด้วยสถิติการเซฟประตูที่ 78.4% สูงเป็นอันดับ 3 ของลีกเอิง ก็น่าจะทำให้ผู้รักษาประตูเจ้าของค่าตัวสถิติโลกที่มีสถิติการเซฟอยู่ที่ 54.5% รั้งท้ายในบรรดาผู้รักษาประตูทุกคนของพรีเมียร์ลีกหนาว ๆ ร้อน ๆ กันบ้าง

นอกจากนั้นลูกกลางอากาศที่เป็นจุดอ่อนของ เกป้า มาโดยตลอด กลับเป็นจุดเด่นของ เมนดี้ เสียด้วย ด้วยสถิติการคว้าลูกครอสจากด้านข้างที่สูงถึง 10.2% เหนือกว่าผู้รักษาประตูระดับโลกอย่าง ติโบต์ กูร์กตัวส์ (8.8%), อลีสซง เบคเกอร์ (8.1%) หรือ แยน โอบลัค (5.1%) เสียอีก

ดังนั้นด้วยศักยภาพขนาดนี้ ไม่แน่ว่าผู้รักษาประตูม้านอกสายตาอย่าง เอดูอาร์ เมนดี้ อาจเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญนำความสำเร็จและถ้วยรางวัลมาให้สโมสรสีน้ำเงินแห่งกรุงลอนดอนก็เป็นได้ ...

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook