ติอาโก้ อัลคันทาร่า : นักเตะที่ "คล็อปป์" ยอมทำลายปรัชญา "ไม่ซื้อสตาร์ดัง"

ติอาโก้ อัลคันทาร่า : นักเตะที่ "คล็อปป์" ยอมทำลายปรัชญา "ไม่ซื้อสตาร์ดัง"

ติอาโก้ อัลคันทาร่า : นักเตะที่ "คล็อปป์" ยอมทำลายปรัชญา "ไม่ซื้อสตาร์ดัง"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"ผมทำได้เพียงแค่แสดงความยินดีกับ ลิเวอร์พูล ที่พวกเขาได้นักเตะที่ยอดเยี่ยม และยังเป็นคนที่เยี่ยมยอดอีกด้วย" นี่คือสิ่งที่ ฮานซี่ ฟลิค กุนซือของ บาเยิร์น มิวนิค กล่าวถึง ติอาโก้ อัลคันทาร่า ในฐานะลูกทึมของเขาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่อีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาจอมทัพชาวสเปนจะย้ายไปเป็นนักเตะใหม่ของ ลิเวอร์พูล

สิ่งที่ฟลิคบอกมีความหมายว่าอย่างไร ? เป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยม เขายอดเยี่ยมในแง่ไหน ? เป็นคนที่ยอดเยี่ยม เขายอดเยี่ยมอย่างไร ? และนี่คือเรื่องราวของ ติอาโก้ คุณอาจจะเข้าใจว่าทำไม เยอร์เก้น คล็อปป์ ต้องดึงเขามาร่วมทีมให้ได้ ...

ติดตามทั้งหมดที่นี่

เก่งจริงไม่ต้องสืบ 

หากจะอธิบายถึงความเก่งของ ติอาโก้ อัลคันทาร่า หรือตั้งคำถามว่าเขาเป็นนักเตะเก่งที่หรือไม่ ? มันคงเป็นการกระทำที่เสียเวลาเปล่า เพราะแค่เปิดทำเนียบแชมป์และเกียรติประวัติของเขาดูก็จะพบว่าดาวเตะชาวสเปนรายนี้กวาดมาแทบทุกแชมป์ที่ลงแข่งขัน ... ดังนั้นสิ่งที่เราควรจะหาคำตอบคือ เขาเก่งยังไง และเก่งขนาดไหนต่างหาก 

ดาวเตะชาวสเปนเป็นลูกชายของ มาซินโญ่ ผู้เล่นทีมชาติบราซิลชุดแชมป์โลกปี 1994 ก่อนการย้ายมาอยู่สเปนตั้งแต่ยังเด็ก (ตามคุณพ่อซึ่งเล่นให้ บาเลนเซีย, เซลต้า บีโก้ และ เอลเช่ หลังจบฟุตบอลโลกคราวนั้น) จะทำให้เขาได้สัญชาติเป็นชาวสแปนิช รวมถึงฝึกฟุตบอลที่ ลา มาเซีย อคาเดมีฟุตบอลที่ว่ากันว่า "ดีที่สุดในโลก" ของสโมสร บาร์เซโลน่า 

จากจุดเริ่มต้นนี้เราจะเห็นได้ว่า ติอาโก้ นั้นมีต้นทุนสูงตั้งแต่แรก มีพ่อเป็นนักฟุตบอลระดับโลกให้เรียนรู้ เข้าสู่อคาเดมีที่มีคุณภาพตั้งแต่อายุ 10 กว่าขวบ ดังนั้นเขาจึงกลายเป็นนักเตะที่ดีกว่าเด็กรุ่น ๆ เดียวกันหลายเท่านัก เขาแจ้งเกิดกับ บาร์ซ่า ตั้งแต่อายุ 18 ปี แต่โชคร้ายหน่อยที่ ณ เวลานั้น ชาบี เอร์นันเดซ และ อันเดรียส อิเนียสต้า เก่งเกินไปสำหรับเขาและมนุษย์ทุกคนบนโลกในฐานะมิดฟิลด์ ดังนั้น ติอาโก้ จึงต้องย้ายออกจาก บาร์เซโลน่า เพื่อไปเล่นให้กับ บาเยิร์น มิวนิค ตาม เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อดีตเจ้านายของเขาไปในปี 2013 

การออกจาก บาร์เซโลน่า ตั้งแต่อายุยังน้อย ทำให้ ติอาโก้ บอกเสมอว่าบางครั้งมันก็เป็นเรื่องดี สไตล์การเล่นของเขาถูกเปิดกว้างมากขึ้นเมื่อออกเดินทางสู่โลกกว้าง สิ่งที่ได้จาก บาร์ซ่า คือพื้นฐาน ส่วนหลังจากนั้นเป็นการหยิบเอาประสบการณ์ต่าง ๆ มาประกอบกันจนกลายเป็นสไตล์การเล่นของตัวเอง

"สไตล์ของผมไม่ได้เกิดขึ้นเพราะผมเป็นนักเตะของ บาร์ซ่า เพียงอย่างเดียว ผมมีแนวคิดแบบบราซิเลี่ยนจากพ่อด้วย จริงอยู่ที่บาร์ซ่าให้ปรัชญาและทำให้ผมเข้าใจเกมในแบบของพวกเขา แต่ส่วนที่เหลือผมเก็บผสมเอาจากสิ่งที่ได้รับระหว่างการเดินทาง" ติอาโก้ กล่าว 

และถ้าถามว่าสไตล์ของเขาเป็นแบบไหน ? ก็มีบทความหนึ่งของเว็บไซต์ Independent ที่อธิบายถึงตำแหน่งการเล่นและสไตล์ของ ติอาโก้ ที่แท้จริงว่า "ศิลปินผู้มองเห็นในสิ่งที่นักเตะคนอื่นไม่สามารถเห็นได้" นั่นคือพาดหัวในบทความหนึ่งของเว็บไซต์ข่าวชื่อดังระดับโลก 

คำจำกัดความนี้ชัดมากพอที่จะอธิบายว่าติอาโก้เก่งแบบไหน ? กล่าวคือเขาเป็นมิดฟิลด์ที่มีเซนส์ในการเล่นสูง ทุกการสัมผัสบอลของเขามีความหมาย ทุกวินาทีที่อยู่ในสนามหัวสมองเขาจะคิดตลอดเวลา สิ่งที่เขาคิดมันเกี่ยวกับเรื่องการอ่านใจคู่แข่ง และที่สำคัญที่สุดคืออ่านใจเพื่อนร่วมทีมของเขาด้วย ... นั่นคือเหตุผลที่ทำไมบางครั้งเขาสามารถวางบอลไกล 50-60 เมตรโดยที่ไม่ต้องเงยหน้ามองเพื่อนด้วยซ้ำ 

"เมื่อคุณอยู่กลางสนาม คุณไม่มีเวลามามองหรอกว่าใครยืนอยู่ตรงไหน ถ้าคุณไม่สามารถเข้าใจผ่านการเคลื่อนไหวของเขาได้ คุณไม่มีทางรู้ได้เลย" 

"ผมมองเกมเหมือนกับภาพพาโนรามา ผมจะมองเห็นช่องว่างได้จากที่ไหนซักที่ และจากนั้นมันจะเป็นการผสมผสานกันระหว่างมุมมองของผมเอง รวมกับความรู้ตื้นลึกหนาบางในสไตล์การเล่นของเพื่อนร่วมทีม"

"ของแบบนี้มันเป็นสัญชาตญาณ ในฐานะมิดฟิลด์คุณจะต้องรู้วิธีการยืนตำแหน่งของตัวเองและเพื่อนร่วมทีมให้ได้ ถ้าฝึกมันมาก ๆ เข้าผ่านประสบการณ์หลายปี สิ่งเหล่านี้จะกลายความรู้สึกธรรมชาติภายในตัวคุณเลย"

"สำหรับผมฟุตบอลนั้นมีหลายรูปแบบ บางครั้งอาจจะไม่ใช่การควบคุมเกมเพียงอย่างเดียวเท่านั้น คุณต้องควบคุมตัวเองด้วย รู้ตัวเสมอว่ากำลังทำอะไรอยู่ ทำอย่างไรจึงจะหยุดคู่แข่งได้ นั่นก็ถือเป็นการควบคุมในแบบฉบับของผมเหมือนกัน ที่ผมจะบอกคือทุกครั้งที่ได้สัมผัสบอลหรือจะทำอะไร ผมต้องทำอย่างมีเป้าหมาย และมีมุมมอง" ติอาโก้ กล่าว

เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า ติอาโก้ จะเก่งแค่ไหนเมื่อเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล ตราบใดที่เขายังไม่ได้ลงสนามให้เห็น แต่ที่แน่ ๆ สไตล์การเล่นตลอดสิบปีหลัง รวมถึงการอธิบายตัวตนในแบบฉบับของเขานั้นมันชัดเจนจริง ๆ ว่าการมีนักเตะที่มีปรัชญาในการเล่นฟุตบอลคอนโทรลสูงส่ง และเซนส์บอลที่ฝึกปรือผ่านประสบการณ์มาร่วมทศวรรษแบบนี้ มีหรือที่จะไม่สร้างประโยชน์ให้ใคร ? แต่จะมากจะน้อยแค่ไหนอีกไม่นานเราคงได้รู้กัน 

 

ทีมเพลเยอร์ 

เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือของ ลิเวอร์พูล เคยพูดถึงคุณลักษณะของนักเตะที่จะมาเป็นลูกทีมของเขา และเขาแสดงให้เห็นว่าทีมของเขาจะไม่มีที่ว่างให้กับนักเตะผู้ไม่รับผิดชอบหน้าที่ที่ตัวเองได้รับมอบหมายโดยเด็ดขาด 

ขณะที่รูปแบบการซื้อตัวของเขานั้น มักจะเลือกนักเตะที่ยังมีสามารถพัฒนาต่อได้ เป็นการหยิบดินมาปั้นให้เป็นดาวมากกว่าที่จะซื้อนักเตะดังมาร่วมทีม และนั่นอาจจะเป็นเรื่องใครหลายคนกังวลว่า ติอาโก้ ที่ดังมาแล้วพีกมาแล้ว จะเป็นดีลที่ใช่จริงหรือ 

"หากนักเตะสามารถทำตามขั้นตอน และพัฒนาตัวเองขึ้นไปได้ หลังจากนั้นเราก็สามารถพูดคุยเกี่ยวกับพัฒนาการของเขา แต่เราไม่สามารถซื้อนักเตะในคุณภาพแบบที่ 3 กองหน้า (โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และ ซาดิโอ มาเน่) ของเราเป็นได้ในทุกซัมเมอร์แล้วบอกว่า 'เอาล่ะ เราจัดตัวท็อปคลาสมาไว้แล้ว' ซึ่งแบบนั้นมันจะไม่เวิร์ค ดังนั้นผมจึงไม่ชอบไอเดียนี้ (ซื้อนักเตะชื่อดัง) เท่าไรนัก" คล็อปป์ เคยว่าไว้ในช่วงที่เขาโดนถามเรื่องการซื้อตัว ติโม แวร์เนอร์ ดาวยิงของ แอร์เบ ไลป์ซิก ที่มีข่าวกับทีมมาอย่างยาวนานก่อนจะเสร็จ เชลซี ไป เนื่องจากไม่สู้ค่าตัวที่ทีมเดิมตั้งไว้

แม้ก่อนหน้านี้ คล็อปป์ จะเคยทุ่งเงินระดับสถิติซื้อตัว เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ กับ อลีสซง เบ็คเกอร์ ที่ค่าตัวแสนแพง แต่อย่าลืมว่าก่อนที่ทั้งสองจะแสดงผลงานชัดเจนทีมกลายเป็นแชมป์ได้ พวกเขาเองก็ต้องเจอเครื่องหมายคำถามว่า "จะดีสมราคาจริงหรือ ?" บ้างก็บอกว่าแพงเกินไป บ้างก็ว่าเป็นการซื้อที่เสียสติ ซึ่งต่างจาก ติอาโก้ ที่พิสูจน์ตัวเองมาทุกแง่มุมแล้ว ไม่ต้องลุ้นอะไรต่อ เพราะยังไงหมอนี่ก็เก่งแน่ ๆ จากผลงานระดับเวิลด์คลาสที่ผ่าน ๆ มา

อย่างไรก็ตาม แม้ ติอาโก้ จะไม่ได้มีคุณสมบัติข้อแรก นั่นคือยังไม่ดังและยังพัฒนาได้อีก แต่อย่างน้อย ๆ คุณสมบัติข้อที่ 2 ก็ถือว่าเป็นข้อที่เขาตอบโจทย์ของ คล็อปป์ ได้มากกว่าข้อแรกอย่างชัดเจนเลยทีเดียว 

"สำหรับผม การมีนักเตะ 11 คนในทีมที่เล่นพลาดเหมือนกัน ยังดีกว่าการมีนักเตะในทีม 11 คนที่พยายามลงเล่นและทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ" คล็อปป์ ว่าเอาไว้เช่นนั้น แล้วคำถามคือ ติอาโก้ ที่ถือว่าเป็นศิลปินลูกหนัง เขาจะเข้ากับระบบความคิดของ คล็อปป์ ได้หรือไม่ ? 

เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ควรจะเบาใจได้ การซื้อขายของ คล็อปป์ ตั้งแต่ยุคกับ ดอร์ทมุนด์ แม้เขาจะมีการซื้อตัวพลาดไปบ้างในแง่ของผลงานที่ไม่เปรี้ยงปร้าง แต่ไม่มีนักเตะคนไหนที่กล้าล้วงตับเขา เอาเรื่องแย่ ๆ ที่เป็นเรื่องภายในมาเปิดเผยเลยสักครั้ง คล็อปป์ เป็นคนที่เลือกนักเตะเข้าทีมแต่ละคนอย่างละเอียด อย่างน้อยที่สุดใครที่จะเข้ามาเป็นลูกทีมของเขาได้ คน ๆ นั้นต้องมีความเป็นมืออาชีพในระดับสูงเลยทีเดียว ซึ่ง ติอาโก้ เองเป็นเช่นนั้นเสมอมา เขาอาจจะเป็นศิลปิน แต่ก็เป็นศิลปินแค่ในสนามเท่านั้น ไม่เช่นนั้นเขาไม่สามารถยึดตัวหลักของ บาเยิร์น ทีมบอลระบบได้อย่างยาวนานแน่นอน ที่สำคัญเรื่องระเบียบวินัยในการดูแลตัวเองถือเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยลดมาตรฐานลงเลยนับตั้งแต่ยังวัยรุ่นจนทุกวันนี้ 

"ผมไม่อยากเสียเวลาพูดถึงเรื่องนี้มากเกินไป เราควรปล่อยให้มันเกิดขึ้นและเล่นตามที่เราเป็นอยู่ มันยอดเยี่ยมทุกครั้งที่ทำประตู แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือทีมชนะ" เขาเคยให้สัมภาษณ์เมื่อปี 2017 เมื่อสื่อในเยอรมันถามเขารู้สึกอย่างไรที่ยิงประตูมากกว่าปีที่ผ่านมา ๆ (ฤดูกาล 2016-17 เขายิงรวมทุกรายการให้ บาเยิร์น 9 ประตู มากที่สุดตลอดการค้าแข้งใน 1 ฤดูกาล)

นอกจากนี้เขายังมีบทเรียนชีวิตครั้งสำคัญอีกหนึ่งอย่าง ครั้งหนึ่งช่วงปี 2014-2015 ติอาโก้ ได้รับบาดเจ็บเอ็นเข่าฉีก ต้องพักรักษาตัวและห่างจากการลงสนามนานถึง 371 วัน ความยากลำบากนั้นเปลี่ยนทัศนคติของเขาไป เขาไม่ใช่แค่ซ้อมหนักอย่างเดียวเหมือนแต่ก่อน เขาให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพและเติบโตขึ้นในทุก ๆ ด้านทั้งร่างกายและสภาพจิตใจด้วย 

"ในฐานะนักฟุตบอล อาการบาดเจ็บเปลี่ยนแปลงผมไปหลายอย่าง มันเปลี่ยนความคิดของที่เชื่อว่าต้องฝึกซ้อมให้หนักทุก ๆ วันของผมไปเลย จริง ๆ แล้วเรามีอะไรต้องทำอีกเยอะและเกิดประโยชน์ ผมแบ่งเวลาสร้างกล้ามเนื้อ ดูแลส่วนที่เหลือของร่างกายทุก ๆ วัน ในขณะเดียวก็ปรับตัวให้ตัวเองเป็นนักเตะที่ฉลาดมากขึ้น แข็งแกร่งมากขึ้น เพื่อไม่ให้กลับมาซ้ำรอยเดิมอีก ก็ต้องขอบคุณอาการบาดเจ็บด้วยที่ทำให้ผมเติบโตขึ้นทุก ๆ วันเลย"

มองเผิน ๆ นี่อาจจะเป็นแค่การดูแลร่างกายของนักเตะคนหนึ่ง แต่จริง ๆ แล้วสิ่งนี้สำคัญมากในการเป็นนักเตะของ ลิเวอร์พูล ทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ทุกคนต้องวิ่งช่วยกันทั้งทีม กองหลังวิ่งขึ้นไปช่วยเกมบุก ตัวรุกถอยลงมาช่วยเกมรับ นักเตะทุกคนต้องใช้พลังงานเยอะมากในแต่ละเกม ดังนั้นร่างกายที่ผ่านการดูแลโดยนักกายภาพโดยตรงของ ติอาโก้ ก็พร้อมที่จะอยู่ในระบบการเล่นที่ต้องเหนื่อยเท่ากันทุกคน ไม่การวางท่าว่าใครใหญ่กว่าใคร

จุดนี้เองเราสามารถเชื่อมโยงกับนิสัยใจคอของเขาได้ ติอาโก้ เป็นนักเตะที่มีสถิติแอสซิสต์และยิงประตูน้อย แต่เขาเชื่อว่าหน้าที่ที่แท้จริงของเขา คือทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายออกมาให้เต็มที่ และการทำงานของเขานั้นจะต้องส่งผลให้เพื่อนในทีมทำผลงานได้ดีขึ้น เป็นนักเตะที่ดีขึ้นด้วย

"ผมต้องการแสดงบทบาทของตัวเองออกมาเพื่อให้ทุก ๆ คนในทีมทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ผมต้องการทำให้คนอื่นดีขึ้น นั่นคืองานของผมล่ะ" ติอาโก้ กล่าวกับ bavarianfootballworks.com 

ขณะที่ เจมส์ เพียร์ซ เหยี่ยวข่าววงในของ ลิเวอร์พูล จาก The Athletic ก็ได้เผยถึงเหตุผลที่ ติอาโก้ เลือกย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ว่า แท้จริงแล้วมันคือแรงดึงดูดจาก คล็อปป์ ล้วน ๆ เขากระหายที่จะทำงานร่วมกับกุนซือที่ถือว่าดีที่สุดในโลกคนหนึ่ง ณ เวลานี้

"พลังดึงดูดของสโมสรลิเวอร์พูลไม่ได้มีมากเท่ากับยุค 70-80s หรอก แต่สิ่งที่คล็อปป์ทำมาทั้งหมดนี่แหละที่มันพิเศษสุด ๆ ไม่ว่าคุณจะเล่นให้กับทีมไหนในยุโรปมาก็ตาม เมื่อคุณได้เห็นวิธีที่ ลิเวอร์พูล เล่นและคว้าแชมป์ ผมคิดว่าใคร ๆ ก็อยากมีส่วนร่วมที่ถูกเรียกว่าหนึ่งในนั้น ... สำหรับ ติอาโก้ มันเกี่ยวกับโอกาสที่เขาจะได้เป็นลูกทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ นั่นเอง" 

การมาด้วยใจและความกระหายแบบนี้ปลายทางจะเป็นอย่างไรไม่มีใครรู้ แต่อย่างน้อย เยอร์เก้น คล็อปป์ สามารถเบาใจได้ว่า ติอาโก้ จะไม่พยายามลงเล่นและทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการโดยไม่สนใจงานที่รับมอบหมายแน่นอน ...  

 

พร้อมจะบ้าและคว้าความสำเร็จ 

"แพชชั่น" คือสิ่งที่เราทุกสามารถเห็นได้จากอิริยาบถต่าง ๆ ของ เยอร์เก้น คล็อปป์ โดยที่เขาไม่ต้องพูดอธิบายคุณสมบัติตัวเองเลยด้วยซ้ำ เขาเป็นคนที่มีอารมณ์ร่วมสูงมากในหน้าที่และการทำงาน เวลาดีใจก็สุดเหวี่ยง เวลาโกรธก็แสดงออกผ่านสีหน้าให้เห็นแต่ไกล และบทจะบ้าก็พร้อมจะทำตัวเพี้ยน ๆ และความรู้สึกทั้งหมดนี้ล้วนเกี่ยวข้องกับคำว่า "ชัยชนะ" ทั้งสิ้น

ดังนั้นการจะเป็นลูกทีมของเขา นอกจากฝีเท้า วินัย และความเป็นทีมแล้ว ยังมีอีกหนึ่งคุณสมบัติ นั่นคือการไม่กลัวที่จะโดนท้าทาย และสนุกกับการไล่ล่าชัยชนะนั่นเอง ... ซึ่งก็อีกนั่นแหละ ติอาโก้ คือคน ๆ นั้น 


Photo : Liverpool FC @LFC

"ผมลงแข่งขันเพราะต้องการเป็นผู้ชนะ และผมจะสนุกมากถ้ามันเป็นเกมที่ดี นั่นแหละเป็นส่วนหนึ่งในสไตล์ของผม ฟุตบอลในแบบของผมต้องสนุก แต่ก็ต้องทำงานหนักเพื่อแลกกับความสำเร็จด้วย" คำพูดของ ติอาโก้ คำนี้น่าจะทำให้ คล็อปป์ ประทับใจ ... 

อ่านมาถึงตรงนี้คุณอาจจะสงสัยว่า ทำไมอะไร ๆ มันก็ดูลงล็อกไปเสียหมดราวกับจะอวยกันจนเกินไป ทว่าจริง ๆ แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นในดีลนี้หรือกระทั่งดีลที่ผ่านมา ๆ ของ ลิเวอร์พูล ในยุค เยอร์เก้น คล็อปป์ นั้นผ่านการสำรวจติดตามมาอย่างดี วิเคราะห์กันตั้งแต่วิธีการเล่นและนิสัยใจคือ ยกตัวอย่างเช่นการล่าตัว เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ที่คล็อปป์ ยอมเสียเวลา 1 ปีเต็ม ๆ เพื่อให้ได้เขามาร่วมทีม ซึ่งผลลัพธ์ก็ชัดเจนว่าการทำการบ้านก่อนซื้อของทีมงานซื้อขาย ลิเวอร์พูล นั้นมีประสิทธิภาพมากแค่ไหน 


Photo : Liverpool FC @LFC

ดังนั้นดีลของ ติอาโก้ ก็คงไม่แตกต่างกันมากมายนักในเรื่องของเคมีและการเข้ากันกับทีม เหลือแค่เพียงการลงสนามจริงว่าเขาจะตอบโจทย์กับระบบและสไตล์การเล่นในแบบลิเวอร์พูลได้ดีแค่ไหนเท่านั้นเอง ... แต่ที่แน่ ๆ คำพูดไล่หลังตามมาที่มีถึงเขา ยืนยันได้ว่านักเตะคนนี้จะเป็นมืออาชีพที่ใครได้ตัวไปก็ถือว่าเป็นโค้ชที่โชคดีมากจริง ๆ 

"ติอาโก้ เป็นนักเตะที่มหัศจรรย์และมีความสำคัญมาก ๆ สำหรับเรา ผมสนุกกับการได้ทำงานร่วมกันกับเขา ตอนเขากล่าวคำอำลาทุก ๆ คนต่างก็เต็มไปด้วยอารมณ์เศร้า ผมทำได้เพียงแค่แสดงความยินดีกับ ลิเวอร์พูล ที่พวกเขาได้นักเตะที่ยอดเยี่ยม และยังเป็นคนที่เยี่ยมยอดอีกด้วย" ฮานซี่ ฟลิค กุนซือผู้พา บาเยิร์น มิวนิค คว้า 3 แชมป์ในซีซั่นที่แล้วกล่าวอำลา ติอาโก้ อัลคาทาร่า สำหรับการเดินทางครั้งใหม่ของเขา 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook