อีกหนึ่งชุดต้องจดจำ! 23 ขุนพล "เสือเตี้ย" โอกาสไปบอลแค่เอื้อม!

อีกหนึ่งชุดต้องจดจำ! 23 ขุนพล "เสือเตี้ย" โอกาสไปบอลแค่เอื้อม!

อีกหนึ่งชุดต้องจดจำ! 23 ขุนพล "เสือเตี้ย" โอกาสไปบอลแค่เอื้อม!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อีกไม่กี่อึดใจ! เวทีเขย่าแข้งยังบลัด ศึกฟุตบอลเยาวชน 19 ปี ชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย ที่เมียนมาร์ เป็นเจ้าภาพ จะเดินทางเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายกันแล้ว ซึ่งรอบนี้อย่างที่ทราบ ผู้ชนะจะได้ไปบอลโลก!!! และที่สำคัญ “ไอ้หนูไทย” เป็น 1 ใน 8 ทีมด้วย

ย้อนกลับไปก่อนถึงแมตช์ชิง “ตั๋วบอลโลก” ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย ของเยาชน 19ปี ครั้งนี้ มี 16 ทีม ร่วมประชันฝีแข้ง โดยแบ่งออกเป็น  4 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ชาติ ดังนี้

กลุ่มเอ : เมียนมาร์ (เจ้าภาพ), อิหร่าน, ไทย, เยเมน
กลุ่มบี : อุซเบกิสถาน, ออสเตรเลีย, ยูเออี, อินโดนีเซีย
กลุ่มซี : เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น, จีน, เวียดนาม
กลุ่มดี : อิรัก, เกาหลีเหนือ, กาตาร์, โอมาน

รอบแรกใช้ระบบแข่งขันพบกันหมดในกลุ่ม 3 นัด นำทีมแชมป์และรองแชมป์ของทั้ง 4 กลุ่มผ่านเข้าสู่รอบสอง หรือ รอบ 8 ทีมสุดท้าย ซึ่งจะใช้ระบบน็อคเอ้าต์ตั้งแต่รอบนี้เป็นต้นไป

หากผ่านจากรอบ 8 ทีมสุดท้าย จะเข้าสู่รอบรองชนะเลิศทันที และการเข้าสู่รอบรองได้จะเป็นการการันตีตั๋วไปเล่นฟุตบอลเยาวชน 20 ปี ชิงแชมป์โลก ปี2015 ที่ประเทศนิวซีแลนด์ ในฐานะโควตาตัวแทนเอเชีย 4 ทีม

ย้อนกลับไปดูความสำเร็จในเวที 19 ปี ชิงแชมป์เอเชียของทีมชาติไทย ต้องบอกว่าเราเคยคว้าแชมป์ได้ 2 สมัย ปี 1962 และปี1969 ส่วนอันดับ 3 เคยคว้ามาครองได้ 4 ครั้ง ปี 1961, ปี 1963, ปี 1966, ปี 1994 รวมถึงอันดับ 4 คว้ามาได้ 3 ครั้งในปี 1976 , ปี 1980 และปี 1985

ทีมยังเติร์กของไทยชุดนี้มี "เสี่ยเปี๊ยก" สมศักดิ์ ศิริธรรม อดีตบอสใหญ่ "ปลาทูคะนอง" สมุทรสงคราม ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีม โดยมี "เสือเตี้ย" สะสม พบประเสริฐ เฮดโค้ชมาดกวน รับหน้าที่เป็นกุนซือใหญ่ พร้อมกับทีมสตาฟฟ์คู่บุญยกชุด

สำหรับ ทีมเยาวชน 19 ปี ไทย ทำผลงานในรอบคัดเลือก กลุ่มเอช ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ กับการคุมทัพของ "เทพฉ่วย" สมชาย ชวยบุญชุม โดยคว้าอันดับ 2 ของกลุ่ม ด้วยผลงาน ชนะ สิงคโปร์ 3-0, ชนะ บรูไน 7-0 และแพ้ เกาหลีเหนือ 0-2 ได้สิทธิ์เข้ารอบสุดท้าย ในฐานะทีมอันดับ 2 ที่ดีที่สุด 6 จาก 9 กลุ่ม ก่อนเปลี่ยนมือมาที่ สะสม พบประเสริฐ ในการลุยรอบสุดท้าย

อย่างที่ทราบกันดี ทีมเยาวชนชุดนี้ ค่อนข้างเจอกับปัญหามาตลอดในเรื่องของการเตรียมทีม นักเตะหลายคนติดเล่นให้กับต้นสังกัด ซึ่งทุกคนทราบกันดีว่าทุกวันนี้ฟุตบอลบ้านเราเป็นอาชีพ แต่ทาง "โค้ชเตี้ย" พยายามทำอย่างเต็มที่จนสามารถพาทีมไปเข้าร่วมได้ แม้ว่าต้องพบกับอุปสรรคมากมายก็ตาม ที่สำคัญนักเตะชุดนี้มีความมุ่งมั่นตั้งใจกันอย่างดีอีกด้วย

“โค้ชเตี้ย” พาลูกทีมประเดิมแมตช์แรก ณ ดินแดนหม่อง ด้วยผลงานเหนือความคาดหมาย เพราะแม้จะโดนทีมเต็ง 1 ของกลุ่มอย่าง อิหร่าน ออกนำไปก่อน 1-0 ตั้งแต่ 14 นาทีแรก แต่ช่วงครึ่งหลังแข้งไทยทำเกมรุกแบบดูดีจนมาได้ประตูตีเสมอ 1-1 ในนาที 64 จาก ธนสิทธิ์ ศิริผลา และช่วง 10 นาทีสุดท้าย เจนรบ สำเภาดี หลุดไปซัดประตูชัยให้ ไทย เอาชนะ อิหร่าน 2-1 เก็บ 3 แต้มสำคัญ

มาถึงแมตช์ 2 จากฟอร์มแจ่มในแมตช์แรก คนไทยทั้งประเทศต่างตั้งความหวังว่า ไทยเราจะจัดการเจ้าภาพ พร้อมการันตีการเข้ารอบแบบรวดเร็ว แต่ทว่าเมื่อถึงเวลาลงสังเวียนหาได้เป็นเช่นนั้น เพราะจบเกม 90 นาที ไอ้หนูไทย โดน เมียนมาร์ ไล่ถล่มแบบยับเยิน 3-0 พร้อมกับ เจนรบ สำเภาดี โดนไล่ออกในช่วงท้ายเกม ทำให้ดาวยิงจากบีอีซี เทโร จะพลาดลงช่วยทีมในแมตช์สำคัญกับ เยเมน ซึ่งเป็นการแย่งกันเข้ารอบ

แมตช์สุดท้ายรอบแบ่งกลุ่ม ทีมชาติไทย อยู่ในสภาพหลังพิงฝา ต้องชนะสถานเดียวเพื่อเข้ารอบ หลังมี 3 คะแนนจาก 2 นัด ส่วน เยเมน มี 4 คะแนน ขอแค่ไม่แพ้พวกเขาจะเข้ารอบทันที

เปิดเกมได้นาทีเดียว เยเมน นำอย่างไว 1-0 อย่างไรก็ตาม ปฏิภาณ ปิ่นเสริมมูตรศรี ตัวสำรองที่เพิ่งลงมาซัดตีเสมอ 1-1 ในนาที 37 แต่ถึงนาที 63 เยเมน ก็นำอีกครั้ง เรียกได้ว่าประตูนี้ บั่นทอนความหวังของกองเชียร์ชาวไทยไม่น้อย

แต่กระนั้นปาฎิหาริย์เกิดได้เสมอในเกมลูกหนัง เมื่อลูกทีมของ “เสือเตี้ย” จัดการกระทุ้งแซงรวดเดียว 2 ประตู ในช่วง 5 นาทีสุดท้ายจากฝีเท้าของ “เจ้าฟลุ๊ค” ปฏิภาณ ปิ่นเสริมมูตรศรี ในนาที 85 กับ 88 พาทีมชาติไทย แซงชนะ 3-2 พร้อมกับเป็นแฮตทริกของเจ้าตัวในเกมนี้

เป็นอันว่า ไอ้หนู 19 ปีไทย มี 6 คะแนนจาก 3 นัด แซง เมียนมาร์ ที่แพ้ อิหร่าน 0-2 เข้าป้ายคว้าแชมป์กลุ่มเอ เข้าไปวัดฝีเกือกชิงตั๋วบอลโลก กับอันดับ 2 กลุ่มบี คือ อุซเบกิสถาน เรียกได้ว่า “ดราม่า” และสร้างความสุขให้แฟนชาวไทยได้อีกครั้ง

ส่วนโปรแกรม รอบ 8 ทีมสุดท้าย จะฟาดแข้งกันในวันที่ 17 ต.ค.นี้ ที่สนามยูธ เทรนนิ่ง เซนเตอร์ ในกรุงย่างกุ้ง คู่แรก ยูเออี พบ เมียนมาร์ เวลา 16.00 น. ต่อด้วย ไทย พบ อุซเบกิสถาน เวลา 19.30 น. และที่เนปิดอว์ ญี่ปุ่น พบ เกาหลีเหนือ เวลา 16.00 น. และ กาตาร์ พบ จีน เวลา 19.30น.

ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการฟุตบอลบ้านเราจะจารึก ได้หรือไม่ คงต้องฝากไว้กับ “เสือเตี้ย” และลูกทีมทั้ง 23 คน เราคนไทยคงต้องเอาใจช่วยเชียร์กันหน่อย เป็นไปได้อยากให้ ช่อง 7 สีที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด มอบความสุขนี้ให้แฟนบอลด้วยการถ่ายทอดสดให้แฟนบอลได้ลุ้นและเชียร์กันสดๆ ผมรับรองว่าคนไทยดูกันมากแน่

เอเชียนเกมส์ ที่ผ่านมาเราได้อันดับ 4 แม้จะไม่มีเหรียญติดมือ แต่แฟนบอลไทยมีความสุข ผมอยากเห็นคนไทยมีความสุขอีกครั้ง ด้วยการที่ทีมเยาวชนอายุ 19 ปี ผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายในฟุตบอลโลก และหวังว่าทีมเยาวชน 19 ปีชาติไทยจะมอบความสุขให้คนไทยทั้งประเทศด้วยการเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกเช่นกัน

และแม้สุดท้าย ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น จะได้ไปบอลโลกหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ พวกคุณคืออีกหนึ่งชุด ที่ชาวไทยต้องจดจำ... 23ขุนพล ‘เสือเตี้ย’

รายชื่อ 23 นักเตะทีมชาติไทยชุดลุยศึกชิงแชมป์เอเชีย 2014

ผู้รักษาประตู
อนุศิษฏ์ เติมมี (แบงค็อก ยูไนเต็ด)
รัตนัย ส่องแสงจันทร์ (เพื่อนตำรวจ)
พีระพงษ์ เรือนนินทร์ (ม.รังสิต)

กองหลัง
สันติภาพ จันทร์หง่อม (กท.คริสเตียน)
สุพร ปินะกาตาโพธิ (เอสซีจี เมืองทอง)
กุลชาติ จีนถนอม (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
สุประวีณ์  มีประทัง (เอสซีจี เมืองทอง)
ชินภัทร์  ลีเอาะ (อสช.ธนบุรี)
เกียรติศักดิ์  ธูปขุนทด (จีเอสอี สมุทรสงคราม)
วรวุฒิ นามเวช (บางกอกกล๊าส เอฟซี)
เนติพงษ์ แสนมะฮุง (แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล)

กองกลาง
นพพล พลคำ (บีซีซี เทโร)
พิธิวัต สุขจิตรธรรมกุล (เอสซีจี เมืองทอง)
เชาว์วัตน์ วีระชาติ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
อรรถวิท สุขช่วย (ราชบุรี มิตรผล)
ประสิทธิ์  จันทุม (สุพรรณบุรี เอฟซี)
ศศลักษณ์ ไหประโคน (แบงค็อก ยูไนเต็ด)
มนตรี พรหมสวัสดิ์ (บางกอก เอฟซี)
ปิยะพงษ์ หอมขจร (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
ธนาสิทธิ์  ศิริผลา (บางกอกกล๊าส เอฟซี)
ปฎิภาณ  ปิ่นเสริมสูตรศรี (อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด)

กองหน้า
เจนรบ สำเภาดี (บีอีซี เทโร)
สิทธิโชค กันหนู (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook