แปลก!! หญิงท้อง 19 เดือนไม่คลอด

แปลก!! หญิงท้อง 19 เดือนไม่คลอด

แปลก!! หญิงท้อง 19 เดือนไม่คลอด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(20 ม.ค.)จ.สุพรรณบุรี ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานจากชาวบ้าน ต.หนองมะค่าโมง อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณ ว่ามีหญิงสาวที่ตั้งครรภ์ 19 เดือนแต่ยังไม่คลอด หญิงสาวรายนี้ทราบชื่อต่อมาคือ  นางนิภาวรรณ บุญเจริญ อายุ 35 ปี  มีลักษณะท้องเหมือนคนใกล้คลอด

นางนิภาวรรณ เปิดเผยว่าตนเองเคยมีลูกมาแล้ว 3 คนและได้เิลิกรากับสามีเก่า ปัจจุบันได้อยู่กินกับ นายทนงศักดิ์ แซ่ตั้ง อายุ 45 ปี ด้วยความที่อยากมีลูกกับสามีใหม่แต่ยังไม่มี เพื่อนบ้านจึงแนะนำใ้ห้ไปขอกับร่างทรงพ่อปู่สมิงดำ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี 

ต่อมาประมาณเดือนมิถุนายน 2552 ตนรู้สึกว่าเหมือนกำลังตั้งครรภ์ เพราะมีอาการคลื่นไส้อาเจียน และมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากนั้นวันที่ 7 ส.ค.52 จึงไปฝากท้องที่คลินิกในตลาด อ.ด่านช้าง แต่หมอระบุว่าเป็นโรคหัวใจโต ไม่ได้ตั้งครรรภ์ เมื่อหมอยืนยันว่าไม่ได้ท้อง จนกระทั่งปัจจุบันนี้ ท้องโตมาก เดิมที่น้ำหนัก 60 กิโลกรัม ถึงตอนนี้ มีน้ำหนักถึง 89 กิโลกรัม รวมระยะเวลาการตั้งท้องนานประมาณ 19 เดือน ปัจจุบันยังมีอาการแพ้ท้อง กินเนื้อสัตว์ไม่ได้ กินแต่น้ำพริกอย่างเดียว

จากนั้น เมื่อประมาณเดือน ส.ค.ปี 2553 ได้ไปฝากครรภ์ที่ รพ. ศูนย์เจ้าพระยายมราช เจ้าหน้าที่พยาบาลและหมอได้ตรวจครรภ์ พร้อมกับเอ็กซเรย์ ซึ่งผลเอ็กซเรย์เห็นเป็นเงา ๆ แต่ยังไม่เห็นตัวเด็ก ทั้งที่ท้องโตขึ้นทุกวัน หลังจากนั้นทาง รพ.ศูนย์เจ้าพระยายมราช นัดให้มาตรวจใหม่ แต่ไม่ได้ไปตรวจ เพราะเห็นว่าหมอตรวจคงบอกว่าไม่ได้ท้องเหมือนเคย ตนจึงเชื่อไสยศาสตร์ เพราะพ่อปูสมิงดำบอกว่า ถึงเวลาจะคลอดเอง 

ด้าน นายทนงศักดิ์ สามีนางนิภาวรรณ กล่าวว่า หลังจากที่ตนและสามีไปหาร่างทรงพ่อปู่สมิงดำำได้ทำพิธีขอลูก หลังจากนั้นครอบครัวจากที่ไม่มีอะไรเลย กิจการการค้าเริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ มีบ้าน มีรถ ซึ่งตนเชื่อว่าเป็นบุญบารมีของลูกที่ขอจากร่างทรงพ่อปู่สมิงดำอย่างแน่นอน แม้ปัจจุบันภรรยาจะตั้งท้องนานขนาดนี้ ก็ไม่เกิดความเครียดแต่อย่างใด เพราะเชื่อว่าลูกชายเป็นเด็กที่มีบุญมาเกิด และเมื่อถึงเวลาก็จะคลอดเอง ตามที่ร่างทรงฯ บอก

ด้าน นายแพทย์เดชา พงษ์สุพรรณ แพทย์สูตินารี บอกว่าได้ตรวจอย่างละเอียดแล้ว ทั้งอัลตร้าซาวด์ ตรวจปัสสาวะ พบว่านางนิภาวรรณไม่ได้ ตั้งครรภ์ แต่กลับพบว่าเป็นโรคมีน้ำในช่องท้อง จึงเป็นสาเหตุให้ท้องโต ทั้งนี้ต้องตรวจและวินิจฉัยอย่างละเอียดอีกรอบ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook