โหด! กราดยิงใส่ฝาแฝดดับ 1 สาหัส 2

(11 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองพิษณุโลก ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันบนถนนสายสะโคล่-บ้านวังยาว จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิประสาทบุญสถาน

ในที่เกิดเหตุพบร่างนายนพพล บัวศักดิ์ อายุ 23 ปี และ น.ส.ศิวรินทร์ ฉ่ำไกร อายุ 22 ปี ได้รับบาดเจ็บจากแผลถูกยิงเข้ากลางหลัง 2 นัดเหมือนกันทั้งคู่ โดยใกล้กันนั้นพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าดรีม สีน้ำเงิน ห่างออกไปราว 100 เมตร พบน.ส.สุวิชา ฉ่ำไกร อายุ 22 ปี ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่บริเวณไหล่ซ้ายและต้นขาแห่งละ 1 นัด นอนนิ่งอยู่ข้างรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าฟีโน่ สีแดง และพบพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกจำนวน 5 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยจึงรีบนำทั้งหมดส่งโรงพยาบาล แต่น.ส.ศิวรินทร์ ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา

นายอัมพร เสือคง อายุ 58 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน ได้เห็นเหตุการณ์และให้การว่า ตอนเกิดเหตุตนอยู่ในบ้านและได้เสียงปืนดังรัวขึ้นติดต่อกัน 6-7 นัด จึงลุกมาดูบริเวณหน้าบ้าน พบชายหญิงวัยรุ่น 2 คน ถูกคนร้าย 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่าฟีโน่ สีชมพูดำลายดอกไม้ ไล่ยิงอย่างบ้าคลั่ง และขับหลบหนีไป

ต่อมานายสุทัศน์ ฉ่ำไกร อายุ 58 ปี บิดาของของผู้เสียชีวิต เดินทางมาดูศพของบุตรสาวที่โรงพยาบาล ให้การทั้งน้ำตาว่า หญิงสาวที่ถูกยิงทั้ง 2 คนเป็นฝาแฝดกัน และทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟอยู่ที่ร้านอาหารเฮียใช้โภชนา ในอ.เมืองพิษณุโลก

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่าจาก หลังจากที่น.ส.ศิวรินทร์ เลิกงานแล้ว นายนพพล ซึ่งเป็นแฟนผู้ตาย ได้ขี่รถจักรยานยนต์มารับ เพื่อไปส่งที่บ้าน โดยมี น.ส.สุวิชา ขับขี่ตามมากันติดๆ ระหว่างทางได้ถูกคนร้ายขี่ตามไล่ยิงจนล้มลง และยังวนรถกลับมายิงซ้ำอีกครั้ง โดยก่อนหน้านี้ผู้ตายเคยเล่าให้น้องสาวฝาแฝดฟังว่า อดีตแฟนหนุ่มที่เพิ่งเลิกกัน ที่เพิ่งพ้นโทษในคดียาเสพติด เคยขู่ผู้ตายไว้ว่า "ถ้าวันไหนไปมีคนอื่น จะส่งลูกน้องไปยิงทั้งคู่"

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่คาดว่าจะเกิดจากสาเหตุเรื่องชู้สาว เนื่องจากผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บเป็นคนรูปร่างหน้าตาดี ทำให้มีคนมาติดพันหลายคน จนทำให้เกิดความหึงหวงและมีการส่งมือปืนมากราดยิงดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้ากำลังสืบหาเบาะแส เพื่อติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป