"จินนี่ ยศสุดา" ประสงค์ดำเนินคดีกับ "โดม ปกรณ์ ลัม" ประเดิม พ.ร.บ.คอมฉบับใหม่ คุกกี่ปี?

งานเข้า "โดม ปกรณ์ ลัม" เจอ "จินนี่ ยศสุดา" จ่อฟ้องประเดิม พ.ร.บ.คอมฯ ฉบับใหม่ หลังคอมเมนต์คุกคาม

กลายเป็นประเด็นร้อนแรงส่งท้ายปี เมื่อเกิดดราม่ากรณี โดม-ปกรณ์ ลัม คอมเมนต์ด้วยถ้อยคำไม่เหมาะสมในภาพของ จินนี่-ยศสุดา บุตรสาวของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ จนนำไปสู่การเตรียมดำเนินคดีตามกฎหมาย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฉบับใหม่ ที่เพิ่งมีผลบังคับใช้

เตรียมฟ้องประเดิมกฎหมายใหม่

จากกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ เมื่อเพจเฟซบุ๊กของนักร้องหนุ่มชื่อดังได้เข้าไปคอมเมนต์ในเชิงคุกคามทางเพศ ล่าสุด นายภัชริ นิจสิริภัช ผู้สมัคร สส. พรรคไทยสร้างไทย ได้ออกมาเปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ทางผู้เสียหายตัดสินใจที่จะดำเนินคดีกับดาราดังรายนี้แล้ว โดยทีมทนายความพร้อมแจ้งเอาผิดในข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และการคุกคามทางเพศ ซึ่งเป็นที่น่าจับตามองว่า กฎหมายฉบับนี้เพิ่งประกาศใช้ในวันที่ 30 ธันวาคม 2568 เป็นวันแรก ทำให้กรณีของ โดม ปกรณ์ ลัม อาจกลายเป็นคดีแรกที่ถูกกล่าวหาภายใต้กฎหมายฉบับใหม่นี้ นายภัชริ ยังได้ระบุข้อความตำหนิการกระทำดังกล่าวว่าเป็นการกระทำที่ไร้วุฒิภาวะ และไม่ให้เกียรติผู้หญิง โดยเฉพาะเมื่อผู้เสียหายมีอายุรุ่นราวคราวลูก พร้อมทิ้งท้ายว่า "โคตรกาก" และตั้งคำถามกลับไปยังคู่กรณีว่า หากคนในครอบครัวโดนกระทำแบบนี้จะรู้สึกอย่างไร

"โดม" อัดคลิปขอโทษ ยอมรับเมา-เข้าใจผิด

หลังจากเกิดกระแสสังคมตีกลับ ล่าสุด โดม ปกรณ์ ลัม ได้ออกมาโพสต์คลิปวิดีโอชี้แจงและขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยยอมรับว่าข้อความดังกล่าวตนเป็นคนพิมพ์เองจริง หลังจากตรวจสอบกับทีมแอดมินเพจแล้ว โดม ชี้แจงสาเหตุว่า ในคืนเกิดเหตุมีการดื่มสังสรรค์ฉลองปีใหม่จนเกิดอาการมึนเมา ประกอบกับตนสนิทสนมกับเจ้าของเพจที่ลงรูป (ดิว วีรวัฒน์) และมักจะมีการคอมเมนต์หยอกล้อกันเรื่องสาวๆ เป็นปกติ ทำให้เข้าใจผิดคิดว่าเป็นรูปหญิงสาวทั่วไปที่สามารถแซวเล่นได้ โดยไม่ทราบมาก่อนว่าเป็น จินนี่ ยศสุดา เจ้าตัวยืนยันว่า ปกติเป็นคนให้เกียรติผู้หญิงและไม่เคยใช้ถ้อยคำหยาบคายเช่นนี้ แต่ครั้งนี้ขาดสติจากการดื่ม พร้อมวอนสังคมอย่าโยงเข้าเรื่องการเมือง และเตรียมให้ทีมงานติดต่อเพื่อขอโทษคุณหญิงสุดารัตน์และลูกสาวอย่างเป็นทางการ

เปิดข้อกฎหมาย พ.ร.บ.คอมฯ ฉบับใหม่

สำหรับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฉบับใหม่ที่มีผลบังคับใช้นั้น มีบทลงโทษที่รุนแรงขึ้น โดยมาตรา 14 ระบุว่า ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลที่มีลักษณะอันลามก และข้อมูลนั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ หรือข้อมูลอันเป็นเท็จที่น่าจะเกิดความเสียหาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีนี้จึงถือเป็นกรณีศึกษาสำคัญที่สังคมต้องจับตามอง ว่าบทสรุปของการใช้กฎหมายฉบับใหม่กับคนมีชื่อเสียงจะเป็นอย่างไรต่อไป

สรุป

เหตุการณ์นี้ถือเป็นบทเรียนสำคัญเรื่องการใช้โซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะเมื่อ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฉบับใหม่มีผลบังคับใช้แล้ว การคอมเมนต์ด้วยความคึกคะนองหรือขาดสติ อาจนำมาซึ่งคดีความและบทลงโทษทางกฎหมายที่รุนแรงได้ทันที

แหล่งอ้างอิง

1. Phatchari Nitsiriphat
2. Dome Pakorn Lam
3. พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์