พนักงานร้องไห้! เจ้าของบริษัทขายกิจการ แบ่งเงินให้ลูกน้องทุกคน รวยกว่าถูกรางวัลที่ 1

เจ้าของบริษัทขายกิจการ แบ่งเงินให้พนักงาน 540 คน แต่ละคนได้โบนัสจุกๆ ยิ่งกว่าถูกรางวัลที่ 1
กลายเป็นเรื่องราวสุดประทับใจต้อนรับเทศกาลคริสต์มาส เมื่อ นายเกรแฮม วอล์กเกอร์ (Graham Walker) เจ้าของบริษัท Fibrebond ในรัฐลุยเซียนา สหรัฐอเมริกา ตัดสินใจขายกิจการมูลค่ากว่า 1.7 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5.8 หมื่นล้านบาท) พร้อมทำเซอร์ไพรส์ด้วยการแบ่งกำไรจากการขายถึง 15% มอบเป็นโบนัสให้แก่พนักงานในบริษัททุกคน
แจกโบนัสก้อนโตเฉลี่ยคนละ 15 ล้านบาท
เงินรางวัลที่วอล์กเกอร์มอบให้พนักงานมีมูลค่ารวมสูงถึง 240 ล้านดอลลาร์ โดยจะแบ่งจ่ายให้กับพนักงานประจำทั้ง 540 คน ซึ่งหากคำนวณโดยเฉลี่ยแล้ว พนักงานแต่ละคนจะได้รับเงินสูงถึง 4.43 แสนดอลลาร์ หรือประมาณ 14 ล้านบาทเลยทีเดียว
เงื่อนไขการรับโบนัสนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นรางวัลสำหรับการทำงานหนัก โดยจะแบ่งจ่ายต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปี ซึ่งพนักงานที่ทำงานมานานกว่าจะได้รับสัดส่วนที่สูงขึ้น วอล์กเกอร์ย้ำว่าเงื่อนไขการแบ่งกำไรให้พนักงานนี้เป็นสิ่งที่ "เจรจาไม่ได้" หากบริษัทผู้ซื้อไม่ตกลงตามนี้ เขาก็ยินดีที่จะไม่ขายกิจการ
นายเกรแฮม วอล์กเกอร์ (Graham Walker)
จากวิกฤตไฟไหม้สู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่
เส้นทางของ Fibrebond ไม่ได้ราบรื่นเสมอไป ในปี 1998 โรงงานเคยถูกไฟไหม้อย่างหนักจนเกือบต้องปิดตัวลง แต่ครอบครัววอล์กเกอร์ยังคงยืนหยัดจ่ายเงินเดือนให้พนักงานท่ามกลางวิกฤต จนกระทั่งบริษัทปรับตัวเข้าสู่ธุรกิจสร้างอุปกรณ์สำหรับศูนย์ข้อมูล (Data Center) และเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา
พนักงานหลายคนถึงกับหลั่งน้ำตาเมื่อได้รับจดหมายแจ้งข่าวดี บางคนนำเงินไปปลดหนี้บ้าน ซื้อรถใหม่ หรือเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาให้บุตรหลาน การแจกโบนัสครั้งใหญ่นี้ไม่เพียงแต่เปลี่ยนชีวิตพนักงาน แต่ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในเมืองเล็กๆ ที่บริษัทตั้งอยู่ให้คึกคักขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
สรุปหัวใจสำคัญของผู้นำที่ครองใจพนักงาน
วอล์กเกอร์เผยสั้นๆ ถึงเหตุผลที่แบ่งกำไรให้พนักงานสูงถึง 15% ว่า "เพราะมันมากกว่า 10% อย่างไรล่ะ" สะท้อนให้เห็นถึงความใจกว้างและความกตัญญูที่เขามีต่อลูกน้องที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาหลายทศวรรษ จนกลายเป็นต้นแบบของเจ้าของกิจการที่คำนึงถึงความสุขของคนทำงานมากกว่าแค่ตัวเลขกำไร
ดาวน์โหลดสนุกแอปฟรี