เช็กข่าวชัวร์ : ให้กู้ 50,000 บาท แก้หนี้นอกระบบกับ ธ.ก.ส. ผ่อน 1,083 บาทเหรอ?

เช็กให้ชัด ข่าว ธ.ก.ส. เปิดโครงการแก้หนี้นอกระบบ กู้ 50,000 บาท ผ่อน 1,083 บาท ผ่าน TikTok จริงหรือไม่?

ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลและแชร์ภาพในสื่อสังคมออนไลน์ อ้างถึงโครงการสินเชื่อแก้หนี้นอกระบบจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดยระบุว่าสามารถกู้เงินจำนวน 50,000 บาท และผ่อนชำระเพียงเดือนละ 1,083 บาท โดยให้ผู้ที่สนใจยื่นกู้ผ่านช่องทาง TikTok บัญชี maipufjvjln จนสร้างความสนใจและเกิดความสับสนแก่ประชาชนจำนวนมากในขณะนี้

กองบรรณาธิการ Sanook News ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับทรัพย์สินและข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชน พบว่ากรณีดังกล่าวเป็นการแอบอ้างชื่อหน่วยงานรัฐเพื่อหลอกลวง ข้อมูลที่ปรากฏในโซเชียลมีเดียเป็น ข่าวปลอม (Fake News) ที่มิจฉาชีพสร้างขึ้นเพื่อดักรับข้อมูลสำคัญ วันที่ 26 ธันวาคม 2568

คำถาม

จริงหรือไม่ที่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดให้ประชาชนกู้เงินแก้หนี้นอกระบบวงเงิน 50,000 บาท โดยให้ยื่นคำขอผ่านช่องทาง TikTok บัญชี maipufjvjln?

การตรวจสอบ

กองบรรณาธิการ Sanook News ได้ประสานงานตรวจสอบไปยัง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อยืนยันความถูกต้องของโครงการดังกล่าว ซึ่งทางธนาคารได้ตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดแล้วพบว่า ข้อมูลที่แชร์กันนั้นไม่เป็นความจริง และทางธนาคารไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับบัญชี TikTok ดังกล่าวทั้งสิ้น

ทาง ธ.ก.ส. ยืนยันว่าธนาคารไม่มีนโยบายในการปล่อยสินเชื่อหรือให้ยื่นกู้โครงการแก้หนี้นอกระบบผ่านแอปพลิเคชัน TikTok หรือลิงก์ที่แนบในสื่อโซเชียลมีเดียที่ไม่ใช่ช่องทางทางการของธนาคาร การกระทำดังกล่าวเป็นการแอบอ้างชื่อและสัญลักษณ์ของธนาคารเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือปลอมๆ โดยหวังผลหลอกลวงประชาชน

ปัจจุบันทางธนาคารได้ดำเนินการรายงาน (Report) บัญชีผู้ใช้ดังกล่าวไปยังผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเพื่อปิดกั้นการเข้าถึงเรียบร้อยแล้ว และขอแจ้งเตือนให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวัง ไม่กดลิงก์ ไม่กรอกข้อมูลส่วนตัว หรือโอนเงินค่าธรรมเนียมใดๆ ให้กับกลุ่มมิจฉาชีพที่แอบอ้างชื่อธนาคารผ่านทางออนไลน์

ข้อเท็จจริง

ข้อมูลโครงการกู้เงิน 50,000 บาท ผ่อน 1,083 บาท ผ่าน TikTok เป็น ข่าวปลอม และไม่เป็นความจริง ธ.ก.ส. ไม่มีนโยบายรับยื่นกู้ผ่านช่องทางดังกล่าว โปรดอย่าหลงเชื่อและอย่าส่งต่อข้อมูลที่อาจสร้างความเสียหายต่อผู้อื่น

อ้างอิง

1. คำชี้แจงอย่างเป็นทางการจาก ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
2. ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย
3. เว็บไซต์ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)