"หยากไย่ในตา" ลอยไปลอยมามันคืออะไร? อันตรายมาก-น้อยแค่ไหน?

"หยากไย่ในตา" ลอยไปลอยมามันคืออะไร? อันตรายมาก-น้อยแค่ไหน?

"หยากไย่ในตา" ลอยไปลอยมามันคืออะไร? อันตรายมาก-น้อยแค่ไหน?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เคยไหมที่มองเห็นจุดดำ เส้นหยัก หรือเงาคล้ายหยากไย่ เหมือนใยแมงมุมลอยไปมาในสายตา โดยเฉพาะเวลามองท้องฟ้า ผนังสีอ่อน หรือหน้าจอขาว

อาการเหล่านี้เรียกว่า “ตะกอนในตา” หรือ Eye Floaters ซึ่งแม้ส่วนใหญ่จะไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่ก็สร้างความรำคาญและทำให้หลายคนกังวลว่าอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสายตาในระยะยาว

ด้วยเหตุนี้ ผู้คนจำนวนไม่น้อยจึงเริ่มมองหาวิธีดูแลและบรรเทาอาการตะกอนในตาด้วยแนวทางธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการปรับพฤติกรรม การเลือกรับประทานอาหาร หรือการดูแลสุขภาพดวงตาในชีวิตประจำวัน โดยไม่ต้องพึ่งการรักษาแบบรุกราน

บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจอาการตะกอนในตา พร้อมแนะนำวิธีดูแลสายตาอย่างถูกต้อง เพื่อช่วยให้การมองเห็นกลับมาชัดเจนและใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจมากขึ้น

rd2-300x280

ทำความเข้าใจตะกอนในตา

ตะกอนในตา เกิดจากเส้นใยคอลลาเจนขนาดเล็กภายในน้ำวุ้นตา ซึ่งเป็นสารลักษณะคล้ายเจลที่เติมเต็มอยู่ภายในลูกตา เมื่อเส้นใยเหล่านี้รวมตัวกัน จะทอดเงาลงบนจอประสาทตา ทำให้เรามองเห็นเป็นจุดหรือเส้นลอยไปมาในสายตา

อาการดังกล่าวมักพบมากขึ้นตามอายุ แต่ในบางกรณีอาจเกี่ยวข้องกับโรคตา หรือปัญหาสุขภาพอื่นๆ จึงไม่ควรมองข้าม

rr

วิธีธรรมชาติช่วยลดอาการตะกอนในตา

ดื่มน้ำให้เพียงพอ
ภาวะขาดน้ำอาจทำให้อาการตะกอนในตารุนแรงขึ้น รวมถึงทำให้ตาแห้ง ควรดื่มน้ำให้เพียงพอตลอดวัน เพื่อช่วยดูแลสุขภาพดวงตาโดยรวม

รับประทานอาหารที่สมดุล
วิตามินและแร่ธาตุบางชนิดมีความสำคัญต่อสุขภาพดวงตา ควรเพิ่มอาหารที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผักใบเขียว ผลไม้ตระกูลส้ม และถั่วต่างๆ นอกจากนี้ อาจพิจารณาอาหารเสริมที่ออกแบบมาเพื่อบำรุงสายตาโดยเฉพาะ

ปกป้องดวงตาจากรังสี UV
การได้รับรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) เป็นเวลานาน อาจเร่งการเกิดตะกอนในตา ควรสวมแว่นกันแดดที่สามารถป้องกันรังสี UV ได้ทุกครั้งเมื่อต้องออกแดด

บริหารดวงตาเป็นประจำ
การออกกำลังกายดวงตาเบาๆ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและลดความล้าของสายตา เช่น การมองวัตถุไกลๆ การกะพริบตาบ่อยขึ้น หรือการกลอกตาเบาๆ ในหลายทิศทาง

หลีกเลี่ยงการใช้หน้าจอเป็นเวลานาน
การจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานานอาจทำให้ตาล้า และทำให้อาการตะกอนในตาชัดเจนขึ้น ควรพักสายตาเป็นระยะ และใช้กฎ 20-20-20 คือ ทุก 20 นาที มองไปไกล 20 ฟุต เป็นเวลา 20 วินาที

จัดการความเครียด
ความเครียดสามารถส่งผลต่อสุขภาพดวงตาและทำให้อาการตะกอนในตาแย่ลงได้ การทำสมาธิ ฝึกหายใจลึกๆ หรือเล่นโยคะ อาจช่วยผ่อนคลายและลดอาการไม่สบายตา

ตรวจสุขภาพตาอย่างสม่ำเสมอ
การตรวจตาเป็นประจำช่วยให้สามารถตรวจพบความผิดปกติได้ตั้งแต่ระยะแรก หากพบว่าอาการตะกอนในตาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หรือมีการเปลี่ยนแปลงในการมองเห็น ควรรีบปรึกษาจักษุแพทย์

float

บทสรุป

แม้ตะกอนในตาจะเป็นอาการที่พบได้ทั่วไป แต่สามารถจัดการและบรรเทาได้ด้วยวิธีธรรมชาติและการปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน

การดื่มน้ำให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ปกป้องดวงตาจากรังสี UV และดูแลสุขภาพจิต ล้วนมีส่วนช่วยลดความถี่และความรุนแรงของอาการ

อย่างไรก็ตาม หากอาการรุนแรงหรือส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ควรเข้ารับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อดูแลสุขภาพดวงตาให้ดีที่สุด และรักษาการมองเห็นให้ชัดเจนในระยะยาว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล