“สปส.” เร่งเดินหน้าสร้างการรับรู้ประโยชน์ “กองทุนเงินทดแทน” ให้กับลูกจ้างทั่วประเทศ

สำนักงานประกันสังคมเร่งเดินหน้าสร้างการรับรู้ประโยชน์ “กองทุนเงินทดแทน” ให้กับลูกจ้างทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกจ้างทุกคนได้รับการคุ้มครองอย่างเป็นธรรม มีคุณภาพชีวิตที่ และได้รับการคุ้มครองอย่างทั่วถึง
นางสาวกาญจนา พูลแก้ว เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสร้างการรับรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของ “กองทุนเงินทดแทน” ซึ่งดูแลโดยสำนักงานประกันสังคมเพื่อให้ประชาชนและแรงงานทุกภาคส่วนได้รับรู้อย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น ปัจจุบัน “กองทุนเงินทดแทน” ดูแลทุกช่วงเวลาของแรงงานแรงงาน คือส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศ และเพื่อให้ลูกจ้างทุกคนได้รับการคุ้มครองอย่างเป็นธรรม มีคุณภาพชีวิตที่ และได้รับการคุ้มครองอย่างทั่วถึง สำนักงานประกันสังคมจึงได้จัดตั้งกองทุนเงินทดแทนขึ้น เพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงในยามที่ลูกจ้างประสบเหตุอันตรายหรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงานโดยนายจ้างจะเป็นผู้ส่งเงินสมทบเข้ากองทุนเงินทดแทน ซึ่งจะให้ความคุ้มครองลูกจ้างตั้งแต่วันแรกที่เข้าทำงาน และเมื่อลูกจ้างประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงาน จะได้รับเงินทดแทนใน 4 กรณี

1. ค่ารักษาพยาบาล
โดยจะดูแลค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 65,000 บาท กรณีบาดเจ็บรุนแรงดูแลค่ารักษาพยาบาลสูงสุดไม่เกิน 1,000,000 บาท
2. ค่าทดแทนรายเดือน
โดยจะได้รับค่าทดแทนรายเดือนร้อยละ 70% ของค่าจ้างรายเดือน โดยจะได้รับค่าทดแทนรายเดือนไม่เกิน 14,000 บาทต่อเดือน
• แพทย์ให้หยุดพักรักษาตัว ตั้งแต่วันแรก รวมไม่เกิน 1 ปี
• สูญเสียสมรรถภาพในการทำงานของร่างกายไม่เกิน 10 ปี
• ทุพพลภาพตลอดชีวิต
• ถึงแก่ความตายหรือสูญหาย 10 ปี และค่าทำศพ
3. กรณีเสียชีวิตจะได้รับค่าทำศพ 50,000 บาท โดยจะจ่ายให้แก่ทายาท
4. กรณีฟื้นฟูสมรรถภาพในการทำงานของลูกจ้างสำหรับนายจ้างที่เป็นต้องมีการฟื้นฟูเต็มตามดัชนี ดังนี้
4.1 ค่าใช้จ่ายในกระบวนการเวชกรรมฟื้นฟูสมรรถภาพในการทำงานด้านการแพทย์โดยมีค่าใช้จ่ายรายครั้งตามคำแนะนำไม่เกินครั้งละ 200 บาท และค่าใช้จ่ายจัดการโครงการไม่เกินรายวันละ 100 บาทโดยรวมแล้วในแต่ละปีไม่เกิน 24,000 บาท
4.2 ค่าใช้จ่ายฟื้นฟูสมรรถภาพด้านอาชีพและทักษะการทำงานเพื่อประโยชน์ในอาชีพสมรรถภาพเต็มตามแผนไม่เกิน 40,000 บาท หากเกินต้องเป็นไปตามเหตุจำเป็นไม่เกิน 140,000 บาทแต่กรณีร่วมกันไม่เกิน 180,000 บาท โดยเป็นค่าพาหนะการพาลูกจ้างไปยังสถานที่ฝึกอบรมด้วย
4.3 ค่าใช้จ่ายในส่วนของการฟื้นฟูสมรรถภาพในการทำงานในอาชีพ ที่นายจ้างต้องตรวจสอบความสามารถของลูกจ้าง โดยรวมไม่เกิน 180,000 บาท
4.4 ค่าใช้จ่ายในส่วนของการสนับสนุนและบริการฟื้นฟูสมรรถภาพในการทำงานให้พนักงานที่เป็นภาวะทุพพลภาพอันเนื่องมาจากอันตรายหรือเจ็บป่วยจากการทำงานโดยไม่เกินปีละ 24,000 บาท
ในส่วนของค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูสมรรถภาพในการทำงานด้านอาชีพ ให้จ่ายได้เฉพาะที่เป็นการฝึกตามหลักสูตรที่หน่วยงานของสำนักงานประกันสังคมเป็นผู้ดำเนินการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน 1506 โทร.ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง หรือไลน์ @ssothai หรือ www.sso.go.th
อัลบั้มภาพ 5 ภาพ
ดาวน์โหลดสนุกแอปฟรี





