สื่อนอกรายงานข่าว ไทยโจมตีทางอากาศใส่กัมพูชา ส่อทำลาย "ข้อตกลงสันติภาพทรัมป์"

สื่อนอกรายงานข่าว ไทยโจมตีทางอากาศใส่กัมพูชา ส่อทำลาย "ข้อตกลงสันติภาพทรัมป์"

สื่อนอกรายงานข่าว ไทยโจมตีทางอากาศใส่กัมพูชา ส่อทำลาย "ข้อตกลงสันติภาพทรัมป์"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

CNN ชี้ไทยเปิดฉากโจมตีทางอากาศใส่กัมพูชา สั่นคลอน “ข้อตกลงสันติภาพทรัมป์” หลังปะทะเดือดชายแดนรอบใหม่

สำนักข่าว CNN รายงานการปะทะรุนแรงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หลังกองทัพอากาศไทยเปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเมื่อเช้าวันที่ 8 ธันวาคม 2568 ตอบโต้การยิงจากฝั่งกัมพูชา เหตุการณ์นี้ทำให้ความเชื่อมั่นต่อ ข้อตกลงสันติภาพทรัมป์ ที่มีการเจรจาเมื่อต้นเดือน มีนาคมและต่อมาลงนามเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ถูกสั่นคลอนอย่างหนัก

ปะทะเดือด ฝ่ายใดเปิดฉากยังต่างชี้กัน

รายงานระบุว่าการปะทะระลอกใหม่นี้เกิดขึ้นตั้งแต่เช้ามืด ทั้งสองฝ่ายต่างอ้างว่าอีกฝ่ายเป็นผู้เริ่มก่อน โดยฝั่งไทยระบุว่าพบการเคลื่อนย้ายอาวุธหนักและมาร์กจุดยิงภายในพื้นที่กัมพูชาที่มีแนวโน้มจะยิงเข้าเขตไทย การตอบโต้ทางอากาศของไทยจึงมุ่งเป้าไปที่คลังอาวุธ ศูนย์บัญชาการ และเส้นทางลำเลียงที่ถูกประเมินว่าเป็นภัยคุกคามโดยตรง

คำชี้แจงฝ่ายไทย

โฆษกกองทัพไทยและผู้บัญชาการภาคสนามให้เหตุผลว่าการโจมตีทางอากาศเป็นการตอบโต้เพื่อลดความเสี่ยงต่อชีวิตประชาชน หลังทหารไทยได้รับบาดเจ็บและมีการเสียชีวิตจากการยิงในพื้นที่ชายแดน โดยเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าปฏิบัติการมีเป้าหมายทางทหารและทำตามหลักป้องกันอธิปไตยของชาติ

ฝั่งกัมพูชาโต้แย้ง

กระทรวงกลาโหมกัมพูชาออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรียกข้อมูลจากฝั่งไทยว่า “ไม่เป็นความจริง” พร้อมยืนยันว่ากัมพูชายึดมั่นแก้ปัญหาด้วยวิธีสันติและปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ ข้อกล่าวหาเรื่องการเตรียมโจมตีจากฝั่งกัมพูชาจึงถูกปฏิเสธโดยทันที

ความเสี่ยงต่อข้อตกลงสันติภาพทรัมป์

CNN วิเคราะห์ว่าเหตุปะทะครั้งนี้เข้าข่ายทำลายความคืบหน้าทางการทูตที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ซึ่งรวมถึงข้อตกลงหยุดยิงที่มีการประสานจากบุคคลและผู้นำต่างชาติ แนวทางการเจรจาที่เคยสร้างความหวังอาจถดถอยหากความรุนแรงยังคงบานปลายและไม่มีการควบคุมสถานการณ์อย่างรวดเร็ว

สถานการณ์พลเรือนและการอพยพ

ฝ่ายไทยแจ้งว่าได้เริ่มการอพยพพลเรือนในพื้นที่ชายแดนแล้วประมาณ 70% เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ขณะเดียวกันมีรายงานผู้เสียชีวิตเป็นพลเรือน 1 รายระหว่างกระบวนการอพยพ ซึ่งเบื้องต้นระบุว่าเป็นการเสียชีวิตจากปัญหาสุขภาพเดิม ไม่ได้เกิดจากการสู้รบโดยตรง

เหตุปะทะชายแดนรอบล่าสุด พิสูจน์ให้เห็นว่าความขัดแย้งยังมีความเสี่ยงยืดเยื้อและสามารถบ่อนทำลายข้อตกลงสันติภาพที่มีการเจรจาไว้ได้ การเคลื่อนไหวทางทหารของทั้งสองฝ่ายจะเป็นตัวชี้วัดสำคัญต่อทิศทางความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในภูมิภาค และกำหนดอนาคตของความพยายามเยียวยาทางการทูตต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล