ตรวจพบมะเร็งลำไส้ระยะที่ 3! หมอเห็น 1 อาการ หลุดอุทาน "ละเลยมานานเกินไป!"
.jpg?ip/crop/w1200h700/q80/jpg)
หมอยกเคสคนไข้ชายพบเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะที่ 3! สังเกตเห็น 1 อาการ จึงอุทานว่า "ปล่อยปละละเลยมานานเกินไปแล้ว!"
บ่อยครั้งที่โรคร้ายมักส่งสัญญาณเตือนเงียบๆ ที่เรามองข้ามไป อย่างเช่นเคสอุทาหรณ์ล่าสุดที่ นพ.หลิว ป๋อเหริน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย ได้แบ่งปันเรื่องราวของผู้ป่วยชายรายหนึ่งที่มาหาหมอด้วยอาการเพียงแค่ "รู้สึกเหนื่อยเพลียตลอดเวลา" แต่เมื่อเจาะลึกกลับพบว่าเป็น มะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะที่ 3 เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่าความเจ็บป่วยไม่ได้เกิดขึ้นปุบปับ แต่เป็นเพราะเราละเลยมันมานานเกินไป
จากอาการเพลีย สู่การเจอเนื้อร้าย
ผู้ป่วยชายรายนี้เดินเข้ามาในห้องตรวจด้วยใบหน้าซีดเซียวและน้ำเสียงที่ดูไร้เรี่ยวแรง ผลตรวจเลือดเบื้องต้นพบค่าฮีโมโกลบินอยู่ที่ 11.5 g/dL ซึ่งถือว่าเป็นภาวะโลหิตจางเล็กน้อย แต่สิ่งที่ทำให้คุณหมอกังวลคือค่าบ่งชี้มะเร็ง (CEA) ที่สูงขึ้นมาอยู่ที่ 8 ng/mL แพทย์จึงคะยั้นคะยอให้คนไข้ไปส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ทันที
ทว่าในตอนแรกผู้ป่วยพยายามบ่ายเบี่ยง โดยอ้างเหตุผลว่าช่วงนี้ "งานยุ่ง" และคิดว่าแค่พักผ่อนน้อยคงไม่เป็นไร แต่ด้วยสัญชาตญาณและประสบการณ์ แพทย์จึงยืนกรานให้ตรวจให้ได้ ผลลัพธ์ที่ออกมาทำให้คนไข้ต้องช็อก เมื่อพบก้อนเนื้อมะเร็งที่ลำไส้ส่วนซิกมอยด์ (Sigmoid colon) และวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งลำไส้ระยะที่ 3
โชคดีที่เจอไว รักษาทันท่วงที
หลังจากทราบผล ผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วน ทั้งการให้เคมีบำบัดก่อนผ่าตัด การผ่าตัดนำก้อนเนื้อออก และการรักษาต่อเนื่องหลังผ่าตัด จนในที่สุดร่างกายก็กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง เหตุการณ์นี้ทำให้ผู้ป่วยซาบซึ้งใจจนต้องจับมือคุณหมอและกล่าวว่า "หมอหลิว... โชคดีจริงๆ ที่หมอบังคับให้ผมไปส่องกล้อง"
สัญญาณเตือน "เลือดจาง" ในผู้ชายวัยกลางคน
คุณหมอเน้นย้ำว่า ภาวะโลหิตจางไม่ใช่เรื่องเล็ก โดยเฉพาะในผู้ชายวัยกลางคน หากไม่ได้ทานมังสวิรัติหรือขาดสารอาหารรุนแรง การมีเลือดจางมักหมายถึง "มีเลือดออกเงียบๆ ภายในร่างกาย" ซึ่งสาเหตุอาจมาจากแผลในกระเพาะอาหาร ริดสีดวงทวาร หรือที่น่ากลัวที่สุดคือ ติ่งเนื้อและก้อนเนื้อมะเร็งในลำไส้
เช็กลิสต์อาการเลือดจาง ที่ร่างกายฟ้องว่าขาดออกซิเจน
เมื่อร่างกายขาดเม็ดเลือดแดงที่จะนำพาออกซิเจน จะส่งผลให้เกิดอาการต่างๆ ดังนี้:
- เหนื่อยง่าย หอบง่ายกว่าปกติ
- หน้าซีด ปากซีด เล็บเปราะ ผมร่วงง่าย
- หัวใจเต้นเร็ว เวียนหัว หน้ามืดเวลาลุกยืน
- นอนเท่าไหร่ก็ไม่สดชื่น สมาธิและความจำแย่ลง
สรุป: อย่ารอจนสายเกินแก้
หากปล่อยให้ภาวะซีดเรื้อรังนานเกินไป ร่างกายต้องทำงานหนักจนอาจนำไปสู่ภาวะหัวใจโต หัวใจวาย ภูมิคุ้มกันตก และสมองเสื่อมถอยได้ ดังนั้นหากคุณหรือคนใกล้ชิดบ่นว่า "ช่วงนี้เหนื่อยจัง" หรือผลตรวจสุขภาพประจำปีฟ้องว่าเลือดจางและค่ามะเร็งสูง อย่ามองข้ามเด็ดขาด เพราะนั่นอาจเป็นโอกาสสุดท้ายที่ร่างกายเตือนให้คุณรีบรักษาชีวิต
ดาวน์โหลดสนุกแอปฟรี