
ในเส้นทางการเลี้ยงลูก พ่อแม่ส่วนใหญ่มักวาดฝันอยากให้ลูกเป็นเด็กว่าง่าย น่ารัก และเลี้ยงดูสบาย แต่ในความเป็นจริง หลายบ้านกลับต้องปวดหัวกับเจ้าตัวแสบที่ "ฤทธิ์เยอะ" จนคนเลี้ยงแทบจะกุมขมับวันละหลายรอบ แต่คุณรู้หรือไม่ว่า พฤติกรรมที่ดูเหมือนจะเลี้ยงยากเหล่านี้ ในทางจิตวิทยาอาจเป็นสัญญาณของ "เด็กมีของ" ที่จะเติบโตไปเป็นผู้ประสบความสำเร็จในอนาคต
ลองมาเช็กกันดูว่า บ้านของคุณมี "ว่าที่อัจฉริยะ" ที่ซ่อนอยู่ในคราบเด็กดื้อ 4 ประเภทนี้หรือไม่?
เด็กกลุ่มนี้ตื่นมาก็พูด เจออะไรก็ถาม สงสัยไปหมดทุกเรื่องจนพ่อแม่ตอบแทบไม่ทัน แม้จะดูน่ารำคาญบ้างในบางครั้ง แต่ในมุมมองของพัฒนาการ เด็กที่พูดเก่งมักมีทักษะทางภาษาและการคิดวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม พวกเขาใช้การพูดเพื่อทำความเข้าใจโลกและเรียบเรียงความคิดของตัวเอง
งานวิจัยระบุว่า เด็กที่มีทักษะภาษาดีมักมีความได้เปรียบในการเรียนรู้และการเข้าสังคม สิ่งที่พ่อแม่ควรทำไม่ใช่การบอกให้ลูก "เงียบ" แต่ควรเปลี่ยนเป็นผู้ฟังที่ดี และตั้งคำถามกลับเพื่อต่อยอดความคิด เช่น ชวนอ่านนิทานแล้วถามความเห็นของลูก เพื่อฝึกทักษะการจับใจความและการแสดงออก
นี่คือกลุ่มที่ทำให้พ่อแม่ความดันขึ้นได้ง่ายที่สุด เพราะชอบปีนป่าย กระโดดโลดเต้น และรื้อค้นข้าวของจนบ้านพัง แต่ความจริงแล้ว ยิ่งเด็กซนมากเท่าไหร่ ความอยากรู้อยากเห็นและความคิดสร้างสรรค์ก็ยิ่งมากเท่านั้น พวกเขาเรียนรู้ผ่านการลงมือทำและใช้ร่างกายสัมผัสเพื่อทำความเข้าใจกลไกของสิ่งรอบตัว
แทนที่จะห้ามปรามไปซะทุกเรื่อง พ่อแม่ควรจัด "พื้นที่ปลอดภัย" ให้เขาได้ปล่อยพลังอย่างเต็มที่ หรือเมื่อเขาทำของพัง ลองชวนมาช่วยกันซ่อมและอธิบายวิธีการทำงานของสิ่งนั้น เปลี่ยนความซุกซนให้กลายเป็นทักษะการเรียนรู้
เด็กประเภท "บอกซ้ายไปขวา" หรือยึดความคิดตัวเองเป็นใหญ่ มักทำให้พ่อแม่เหนื่อยใจที่จะสอน แต่ความดื้อรั้นนี้คือรากฐานของความมุ่งมั่นและเป้าหมายที่ชัดเจน เด็กกลุ่มนี้มักไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคและไม่โอนอ่อนตามใคร ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญของ "ผู้นำ"
วิธีรับมือคือการใช้เหตุผลแทนคำสั่ง หากสิ่งที่เขาต้องการไม่เหมาะสม ให้ใช้ข้อมูลจริงมาอธิบาย เช่น ถ้าลูกจะใส่เสื้อกันหนาวในวันแดดร้อน ให้เปิดพยากรณ์อากาศให้ดูเพื่อให้เขาตัดสินใจใหม่ด้วยตัวเอง เป็นการสอนให้เรียนรู้จากความเป็นจริง
บ้านไหนที่มีรีโมตทีวี นาฬิกา หรือของเล่นถูกแยกชิ้นส่วนเกลื่อนบ้าน ขอให้รู้ไว้ว่าลูกคุณอาจมีพรสวรรค์ด้านตรรกะและวิศวกรรม การชอบรื้อถอนคือการแสดงออกของทักษะการสังเกตและความอยากรู้อยากเห็นว่า "สิ่งนี้ทำงานอย่างไร"
พ่อแม่สามารถส่งเสริมได้โดยการหาของเล่นประเภทตัวต่อ (LEGO) หรือโมเดลจำลองมาให้เล่น พร้อมสร้างกฎเหล็กว่า "ถอดได้ ก็ต้องประกอบคืนได้" เพื่อฝึกทั้งทักษะและความรับผิดชอบไปพร้อมกัน
อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าเด็กเลี้ยงยากคือเด็กไม่ดี เพราะพฤติกรรมเหล่านี้คือจุดแข็งตามธรรมชาติ หากได้รับการชี้แนะที่ถูกต้อง:
| พฤติกรรมลูก | จุดแข็งที่ซ่อนอยู่ |
|---|---|
| พูดมาก ถามเยอะ | ฉลาด สื่อสารเก่ง หัวไว |
| ซน อยู่ไม่นิ่ง | มีความคิดสร้างสรรค์ กล้าทดลอง |
| ดื้อ หัวรั้น | มีความมุ่งมั่น มีความเป็นผู้นำ |
| ชอบรื้อของ | มีตรรกะดี ช่างสังเกต (แววนักวิทย์/วิศวะ) |
ความอดทนและความเข้าใจของพ่อแม่คือกุญแจสำคัญ ลองมองลึกลงไปในพฤติกรรมเหล่านั้น แล้วคุณอาจพบว่า "ตัวแสบ" ที่ทำให้คุณปวดหัวในวันนี้ อาจกลายเป็น "ความภาคภูมิใจ" ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคุณในอนาคต
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
ขอขอบคุณ
ข้อมูล :soha