เช็กข่าวชัวร์ : ไขมันพอกตับ ให้นอนก่อน 4 ทุ่ม ลดแป้ง ลดน้ำตาล ดื่มน้ำให้ได้ 3 ลิตร จริงเหรอ?
Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
//s.isanook.com/ns/0/ud/1970/9854874/fc_thumbnail1200x720(2).jpgเช็กข่าวชัวร์ : ไขมันพอกตับ ให้นอนก่อน 4 ทุ่ม ลดแป้ง ลดน้ำตาล ดื่มน้ำให้ได้ 3 ลิตร จริงเหรอ?

เช็กข่าวชัวร์ : ไขมันพอกตับ ให้นอนก่อน 4 ทุ่ม ลดแป้ง ลดน้ำตาล ดื่มน้ำให้ได้ 3 ลิตร จริงเหรอ?

แชร์เรื่องนี้

เช็คให้ชัวร์ “คนเป็นไขมันพอกตับ ต้องนอนก่อน 4 ทุ่ม ดื่มน้ำ 3 ลิตรต่อวัน” จริงหรือไม่?

ในโลกออนไลน์มีการแชร์ข้อความเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ โดยอ้างว่า “ผู้ที่มีภาวะไขมันพอกตับ (fatty liver) ควรเข้านอนก่อน 4 ทุ่ม และดื่มน้ำให้ได้วันละ 3 ลิตรขึ้นไป” เพื่อช่วยฟื้นฟูตับและลดไขมันสะสมในร่างกาย ข้อความดังกล่าวถูกแชร์ต่อกันในวงกว้างบนโซเชียลมีเดีย จนเกิดความสับสนว่าเป็นคำแนะนำทางการแพทย์ที่ถูกต้องหรือไม่ ล่าสุด กองบรรณาธิการ Sanook News ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับแหล่งข้อมูลทางการแพทย์แล้ว

คำถาม

จริงหรือไม่ที่ “ผู้ป่วยภาวะไขมันพอกตับ ควรนอนก่อน 4 ทุ่ม และต้องดื่มน้ำวันละ 3 ลิตรขึ้นไป” ตามที่มีการแชร์ในโซเชียลมีเดีย?

การตรวจสอบ

กองบรรณาธิการ Sanook News ตรวจสอบกับข้อมูลจาก โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าข้อความที่แชร์นั้นมีทั้งส่วนที่ถูกต้องและคลาดเคลื่อนบางประการ โดยทางโรงพยาบาลระบุว่า ภาวะไขมันพอกตับ (fatty liver) มักเกี่ยวข้องกับภาวะดื้ออินซูลินและกลุ่มอาการเมตาบอลิก (metabolic syndrome) ซึ่งแนวทางการรักษาหลักคือการควบคุมอาหาร ลดน้ำหนัก และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของคำแนะนำให้ “เข้านอนก่อน 4 ทุ่ม” นั้น ทางการแพทย์ยังไม่มีหลักฐานทางวิชาการยืนยันว่าเวลาเข้านอนก่อน 22.00 น. จะช่วยลดภาวะไขมันพอกตับโดยตรง สิ่งสำคัญคือ “การนอนหลับให้เพียงพอ” เพราะการพักผ่อนไม่พออาจส่งผลให้ควบคุมน้ำหนักได้ยากและมีผลต่อระดับอินซูลินในร่างกาย

ขณะเดียวกัน คำแนะนำให้ “ดื่มน้ำวันละ 3 ลิตรขึ้นไป” ก็ไม่ถูกต้องทั้งหมด เพราะการดื่มน้ำในปริมาณมากเกินไปอาจทำให้สมดุลเกลือแร่ในร่างกายเสียหรือเกิดภาวะน้ำเป็นพิษได้ โดยแพทย์แนะนำให้ดื่มน้ำให้เพียงพอตามความต้องการของร่างกายตลอดวัน ไม่จำเป็นต้องถึง 3 ลิตรเสมอไป

ข้อเท็จจริง

สรุปแล้ว ข่าวที่ระบุว่า “ผู้ที่เป็นไขมันพอกตับต้องนอนก่อน 4 ทุ่มและดื่มน้ำวันละ 3 ลิตรขึ้นไป” เป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อนบางส่วน ไม่เป็นความจริงในเชิงหลักฐานทางการแพทย์ โดยการรักษาที่ถูกต้องคือควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย ลดน้ำตาล และพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเวลาเข้านอนหรือปริมาณน้ำที่ตายตัว

อ้างอิง

  1. ข้อมูลจาก โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข