รองสุเทพบอกรอศาลตัดสินอย่าเชื่อข่าวลือ

รองสุเทพบอกรอศาลตัดสินอย่าเชื่อข่าวลือ

รองสุเทพบอกรอศาลตัดสินอย่าเชื่อข่าวลือ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง การอ่านแถลงปิดคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ในวันนี้ว่า ไม่อยากคาดการณ์คำตัดสินของ องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ไปก่อนล่วงหน้า ส่วนกรณีที่สื่อหลายแขนง พยายามคาดเดาคำตัดสินนั้น ตนเชื่อว่า จะไม่ส่งผลกระทบต่อการวินิจฉัย ซึ่งอยากให้ทุกฝ่ายทำใจยอมรับ ไม่ว่าคำตัดสินจะออกมาในรูปแบบใด ก็ต้องน้อมรับคำตัดสิน ทั้งนี้ในฐานะเลขาธิการพรรค ตนเองมั่นใจในข้อมูลและหลักฐานของฝ่ายกฎหมาย ที่มี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาของพรรค เป็นหัวหน้าทีม เนื่องจาก ทีมกฎหมายมีการทำงานอย่างหนักและละเอียดรอบคอบ อยากขอให้ประชาชนอย่าหวั่นไหว หรือ ตกเป็นเครื่องมือของคนบางกลุ่ม ที่พยายามจะใช้ประเด็นดังกล่าว มาปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้ง

อย่างไรก็ตาม นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ จะไม่ส่งผลกระทบต่อ การจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างแน่นอน ซึ่งในวันนี้ ตนจะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมเตรียม
ความพร้อม เพื่อดูแลพื้นที่การจัดงาน แล้วรอติดตามคดียุบพรรคที่ทำเนียบรัฐบาล

รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ยังกล่าวถึง กรณีที่แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ออกมาระบุว่า ในวันที่ 1 ธ.ค. จะนำคลิปวิดีโอการเผา เซ็นทรัลเวิลด์ ออกมาเปิดเผย ว่า ยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว แต่คงจะต้องติดตามกันต่อไป ส่วนการที่กลุ่ม นปช. แต่งตั้ง นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ภรรยา ของนายแพทย์เหวง โตจิราการ แกนนำกลุ่ม นชป. เป็นประธานกลุ่ม นปช. รุ่นที่ 2 นั้น มองว่า เป็นวิธีการตั้งการเคลื่อนไหวอีกรูปแบบหนึ่ง แต่ในภาพรวมเนื้อหาของทางกลุ่ม ก็คงยังเป็นรูปแบบเดิม

ส่วนกรณีที่ ตนเองได้พูดในการประชุมสัมมนาพรรคประชาธิปัตย์ ที่ จังหวัดชุมพร ว่าไม่ได้กล่าวหาหัวหน้ากลุ่มคนเสื้อเหลือง หรือ เสื้อแดง ที่ทำให้เกิดปัญหาความวุ่นวายในบ้านเมือง แต่มองว่า เกิดจากคนบางคน ที่มุ่งหาผลประโยชน์ของตนเอง ทั้งนี้ ยังให้กลุ่ม นปช. หันมาให้ความร่วมมือกับรัฐบาล เพื่อสร้างความสงบเรียบร้อยให้กับบ้านเมือง

นอกจากนี้ นายสุเทพ ยังกล่าวถึง กรณีที่มีการเรียกร้องให้รัฐบาลปล่อยตัวแกนนำ นปช. ทั้งหมด เพื่อสร้างความปรองดอง
ว่า ตนเอง มองว่า ต้องแยกแยะเรื่องดังกล่าว ออกจากกัน กระบวนการปรองดองยังเดินหน้า ส่วนผู้ที่กระทำความผิด ก็จะ
ต้องมีการดำเนินการ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook