ม้วนเดียวจบ! ย้อนบทรัฐบาลไทย ตั้งแต่ปี 2505 ถึงวันที่ศาลโลกตัดสิน "เขาพระวิหาร" แพ้เขมร

ม้วนเดียวจบ! ย้อนบทรัฐบาลไทย ตั้งแต่ปี 2505 ถึงวันที่ศาลโลกตัดสิน "เขาพระวิหาร" แพ้เขมร

ม้วนเดียวจบ! ย้อนบทรัฐบาลไทย ตั้งแต่ปี 2505 ถึงวันที่ศาลโลกตัดสิน "เขาพระวิหาร" แพ้เขมร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ส่อง “อดีตรัฐบาลไทย” กับบทบาทในปมเขาพระวิหาร จากอดีตถึงวันที่ ศาลตัดสินแพ้เขมร

จังหวะวันนี้ คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ประชุมเป็นวันที่ 2 หลังเมื่อวานมีรายงานการสะดุดจากที่ฝ่ายกัมพูชาไม่พอใจที่ฝ่ายไทย ภายใต้การนำของ “นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย” ประธาน JBC โดยทางฝ่ายไทยออกมาแถลงข่าวก่อน

อยู่ๆ “พล.อ.ฮุน มาเนต” นายกเขมรได้โพสต์เฟสบุ๊กปฏิเสธกลไกการเจรจาระดับทวิภาคี อย่าง JBC โดยแสดงหนังสืออย่างเป็นทางการที่กัมพูชาเลือกกฎหมายระหว่างประเทศและสันติภาพ โดยระบุว่า รัฐบาลกัมพูชาได้ส่งหนังสืออย่างเป็นทางการถึง ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เพื่อช่วยหาทางแก้ไขข้อพิพาทชายแดนในบริเวณ

  • ปราสาทตาเมือนธม

  • ปราสาทตาเมือนโต๊ด

  • ปราสาทตาควาย

  • บริเวณมุมไบ หรือช่องบก-สามเหลี่ยมมรกต

โดย “ฮุน มาเนต” อ้างว่าเมื่อ 63 ปีที่แล้ว วันที่ 15 มิถุนายน 2505 เป็นวันประวัติศาสตร์ ที่ศาลโลกตัดสินว่า กัมพูชาชนะในประเด็นปราสาทพระวิหาร ทำให้น่าสนใจย้อนรอยกลับไปส่องดูว่า บทบาทท่าทีของ “รัฐบาลไทย” นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2505 ที่เกี่ยวข้องกับปม “เขาพระวิหาร” ที่ไทยแพ้คดีต่อเขมร

ไล่เรียงตั้งแต่สมัยของ “รัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์” อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ขึ้นมาเป็นนายกวันที่ 9 ก.พ. 2502 ก่อนที่วันที่ 15 มิ.ย. 2505 ศาลโลกจะตัดสินคดี หลังจากนั้น “จอมพลสฤษดิ์” เริ่มเจ็บป่วยเป็นระยะๆ และวันที่ 8 ธ.ค. พ.ศ. 2506 ได้ถึงแก่อสัญกรรม โดยสมัยนั้นมีการชุมนุมของคนไทยประท้วงคำตัดสินของศาลโลก

ซึ่ง “จอมพลสฤษดิ์” ได้กล่าวปราศรัยทางวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2505 ตอนหนึ่งว่า “…ประชาชนชาวไทยจะระลึกอยู่เสมอว่า ปราสาทพระวิหารของไทยถูกปล้นเอาไปด้วยอุปเท่ห์เล่ห์กล ของคนที่ไม่รักเกียรติและไม่รักความชอบธรรม… เหตุการณ์นี้เป็นรอยจารึกอยู่ในประวัติศาสตร์ของชาติไทยตลอดไป เสมือนหนึ่งแผลเป็นที่ใจของคนไทยทั้งชาติ…”

และ “…ข้าพเจ้ามาพูดกับท่านด้วยน้ำตา แต่เป็น น้ำตาของลูกผู้ชาย ของเลือดของ ความคั่งแค้นและการผูกใจเจ็บไปชั่วชีวิต ทั้งชาตินี้และชาติหน้า…” ที่ทัศนะและอารมณ์ดังกล่าวจะยังคงหลงเหลือต่อมา เมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องปราสาทพระวิหาร หรือแม้แต่ในความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา

ส่วน ครม. สมัยนั้น ที่ “ถนัด คอมันตร์” เป็น รมว.ต่างประเทศ มีการประกาศไม่ยอมรับการตัดสินของศาลโลก โดยมี มติ ครม. 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2505 ให้ปฏิบัติตามคำพิพากษาด้วยการคืนเฉพาะตัวปราสาท รัฐบาลไทยขณะนั้นและในเวลาต่อมายึดถือว่า คำพิพากษานี้มิได้ชี้ขาดในเรื่องแนวเส้นเขตแดน แต่รัฐบาลกัมพูชา ยึดว่าศาลโลกได้พิพากษากำหนดเส้นเขตแดนบริเวณนั้นแล้ว (ตามแผนที่คณะกรรมการปักปันเขตแดนสยาม-ฝรั่งเศส)

ความ ตีความคำพิพากษาต่างกันนี้ ทำให้ทั้ง 2 ประเทศ อ้างสิทธิในพื้นที่บริเวณใกล้ตัวปราสาททับซ้อนกัน 4.6 ตารางกิโลเมตร บริเวณเนินหรือเชิงเขาด้านทิศเหนือและทิศตะวันตกของตัวปราสาท ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา สืบต่อมา

ตัดภาพมา ปี 2550 ช่วง “รัฐบาลสมัคร สุนทรเวช” จุดประทุจากที่เขมรเสนอต่อองค์การยูเนสโก ในการประชุมที่เมืองไครสต์เชิร์ช นิวซีแลนด์ เพื่อให้ขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ต่อมา “นพดล ปัทมะ” รมว.ต่างประเทศ มีการลงนามในแถลงการณ์ร่วม พ.ศ. 2551 กับเขมร ทำให้เขมรนำไปอ้างและรุกคืบแผนบริหารจัดการพื้นที่รอบปราสาท

ส่งผลให้เกิดการเปิดฉากสงครามที่แนวรบปราสาทพระวิหาร ภูมะเขือ ตั้งแต่ปี 2551 - 2553 และถูกเขมรนำเรื่องเข้าสู่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ก่อนที่ UNSC จะโยนเรื่องให้อาเซียนเป็นคนกลาง รวมถึงการสู้รบที่ปราสาทตาควาย ตาเมือนธม

ปี 2554 ช่วงปลาย “รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” เขมรยื่นคำขอให้ศาลโลกตีความคำพิพากษาเดิมปี 2505 โดยวันที่ 18 ก.ค. 2554 ศาลโลกมีคำสั่งมาตรการชั่วคราวให้

  • ไทย-กัมพูชาถอนทหาร ออกจากเขตปลอดทหาร

  • ห้ามไทย ขัดขวางการเข้าออกปราสาทของฝ่ายกัมพูชา

  • รวมถึง การส่งเสบียงให้บุคลากรที่ไม่ใช่ทหาร

“อภิสิทธิ์” ยืนยันภายหลังว่า ต้นเหตุความขัดแย้งเขาพระวิหาร มาจากการที่ไทยยอมให้เขมรขึ้นทะเบียนมรดกโลกฝ่ายเดียว

ต่อมาใน “รัฐบาลยิ่งลักษณ์” พ.ย. 2556 ศาลโลกชี้ขาดเป็นเอกฉันท์ โดยตีความคำพิพากษาเดิมว่า กัมพูชามีอธิปไตยเหนือดินแดนทั้งหมดของยอดเขาพระวิหาร และพื้นที่บริเวณปราสาทที่ไทยต้องถอนทหารนั้น คือยอดเขาพระวิหาร โดย “นายกยิ่งลักษณ์” แถลงต่อมาว่า คำตัดสินของศาลโลกเป็นคุณต่อไทย

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล