ไล่เรียงให้ฟัง! ปริศนา "ชินวัตร-ฮุนเซน" เล่นใหญ่จุดไฟชายแดน กับคำถาม ใครปกป้องแผ่นดิน?

ปราสาทสองหลัง จุดไฟชายแดน! ไทย-เขมรปะทะเดือด 'ฮุนมาเนต' ฟ้องศาลโลก สังคมไทยตั้งคำถาม รัฐบาลอิ๊งค์นิ่งไปไหม
ปรากฎการณ์ต่อเนื่องกับ”มาตรการ”และท่าทีของ “ฝ่ายไทย”กับสถานการณ์ความขัดแย้งกับประเทศกัมพูชา ปม “ปราสาทตรีมุข”ที่ “สามเหลี่ยมมรกต”ชายแดนไทย-ลาว-เขมร ที่บานปลายไปสู่การรุกเข้ามาในดินแดนไทย และขยายมาถึงการจะยึด “ปราสาทตาเมือนธม” โดยใช้กลไกของ “ศาลโลก”(1มิ.ย.) ของ “ผู้นำกัมพูชา” ”ฮุนมาเนต” ลูกชาย “ฮุนเซน” ประธานวุฒิสภาและประธานสมัชชาประชาชนกัมพูชา (2มิ.ย.) ที่สำทับซ้ำและขู่ยิงกันไม่รู้จบแบบฉนวนกาซา กำลังเป็นประเด็นที่ทั้ง “ผู้มีบทบาท”ทำหน้าที่ปกป้องผืนแผ่นดินประเทศไม่ให้ถูกรุกรานแม้ตารางนิ้วเดียว อย่าง “ขุนทหาร” “กองทัพไทย” โดยกองทัพบก ฝ่ายความมั่นคงรวมถึง ผู้คน“ฝั่งอนุรักษ์นิยม”และ สังคม ประชาชน เริ่มที่จะ “ตั้งคำถาม”กับ “บทบาท”การทำหน้าที่ ปกป้องผืนแผ่นดินชาติ ของ“รัฐบาลเพื่อไทย”ภายใต้การนำของ “นายกฯอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร”และ “ทักษิณ ชินวัตร”ผู้นำจิตวิญญาณ ในฐานะ“ผู้นำประเทศ”และ “เพื่อนเลิฟ”ของ “ฮุนเซน”
การบริหารจัดการสถานการณ์ปัญหา ผ่าน กระทรวงกลาโหม และ กระทรวงการต่างประเทศอย่างที่ล่าสุดกับการปฏิเสธ “ปิดชายแดน”เพื่อตอบโต้โดยไม่ต้องยิงกันตามข้อเสนอของ “แม่ทัพภาคที่2” ที่ตามมาด้วยการปล่อยข่าว จะ“เปลี่ยนม้ากลางศึก”ย้ายแม่ทัพภาค2 กับคำถาม”การแอ๊คชั่นอย่างเป็นทางการทั้งทางการทูตต่างประเทศ การเจจา และการทหาร โหมดความมั่นคง ที่แทบไม่มีการขยับมาตั้งแต่มี “สัญญาน”มากมายจาก ฝ่ายเขมร ที่ยังไม่แน่ชัดว่ามี “วาระซ่อนเร้น”ทางการเมืองหรือไม่
เพราะไม่ใช่สถานการณ์ที่จะมีการการเลือกตั้งทั่วไปของเขมร ที่ “อดีตผู้นำเขมร”มักใช้การปลุกปั่นปลุกกระแสชาตินิยม มาเป็นเครื่องมือ
สัญญานเหล่านี้ มีมาตั้งแต่ต้นปี 2568 กับการพุ่งเป้าไปที่ 2 ชนวนเหตุคือ 1.กรณีศาลาตรีมุข บริเวณ 3 เหลี่ยมมรกต สัญลักษณ์ “สันติภาพ3ประเทศ”ใกล้“ช่องบก”จ.อุบลฯ ที่สร้างมาตั้งแต่สมัย “พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ”เป็นนายกฯปี2533 และ 2.กรณีปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ที่หากไล่จาก “ไทม์ไลน์” จะพบว่าเริ่มประทุตั้งแต่ 13ก.พ.68 ที่ “พล.ต.เนี๊ยะ วงษ์” ผบ.พลร้อย ร.42 นำ“คณะแม่บ้าน”25คน ไปเยี่ยมชม ปละร้องเพลงปลุกใจ บริเวณปราสาท ตาเมือนธม จ.สุรินทร์ จนเกิดวิวาทะกับ ทหารไทย ที่เข้าไปเตือนจนมีการขู่ยิงกันทั้งสองฝ่าย ที่มีคำถามว่า “นายทหารระดับสูง ยศ “พล.ต.” ไปด้วยตัวเองหรือเป็น “ขบวนการจัดตั้ง” เพื่อ “จุดไฟชายแดน”
ต่อมา 27 ก.พ.พล.อ.เมาโซ๊ะพัน รองผบ.สส.-ผบ.ทบ.กัมพูชา ไปตรวจเยี่ยมกำลังพล และตรวจสภาพภูมิประเทศบริเวณ สามเหลี่ยมมรกต มีการแสดงความไม่พอใจที่ ทหารไทยไปประกอบกิจกรรมทำบุญทุกวันพระ ที่ “ศาลาตรีมุข” ใกล้กับช่องบก จ.อุบลฯ จึงสั่งวางกำลังทหารกัมพูชา 80 นาย พร้อมอาวุธครบมือ เส้นทางผ่านไปยังศาลาตรีมุข 28พ.ค.68 เกิดเหตุไฟไหม้ “ศาลาตรีมุข”จนวอดทั้งหลัง สันนิษฐานมีการวางแผนเผา และ ในวันเดียวกันกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ลาดตะเวน พบ ทหารกัมพูชากำลัง ขุดสนามเพลาะขนาดยาว 650 เมตร บนเนินบริเวณ ช่องบก จุดที่เป็นพื้นที่ทับซ้อน ซึ่งผิดข้อตกลงที่ห้ามทั้งสองฝ่าย เข้าไปทำอะไรในพื้นที่ทับซ้อนจึงมีการเตือน แต่ถูกยิงสวนกลับมาจึงเกิดการยิงปะทะกัน ผลการปะทะ ทหารเขมร เสียชีวิต 1 นาย
จากเหตุการณ์นี้มีการ “ยกระดับ”ปลุกกระแส “ชาตินิยม” ทั้งฝ่ายเขมรและฝั่งไทย ในขณะที่ฝ่ายไทยพยายามเบรคข่าวยั่วยุ แต่ฝั่งเขมรมีการ “บิ๊วกระแส”ผ่านสื่อโซเชียล โดยเฉพาะการออกมาปั่นของ “ฮุนเซน”ที่ออกมาแสดง ความไม่พอใจที่มีทหารเขมรตาย ต่อมา 1 มิ.ย.“ฮุนมาเนต”นายกฯเขมร ประกาศจะหาข้อยุติด้วยการไปฟ้องศาลโลกให้ตัดสินว่า “ช่องบก”และ “ปราสาทตาเมือนธม”เป็นของใคร ที่ถูกมองมาทรงเดียวกับตอนจะฟ้องศาลโลกปมเขาพระวิหาร ถัดมา 2มิ.ย. “ฮุนเซน “ประธานวุฒิสภา ประธานสมัชชาแห่งชาติเขมร ออกมา “เล่นใหญ่” อีกรอบประกาศกลางที่ประชุมวุฒิสภา และที่ประชุมสมัชชาแห่งชาติเขมร สนับสนุนการนำ “ข้อพิพาท”ช่องบก และปราสาทตาเมือนธม ไปสู่ “ศาลโลก”แถมขู่ไทย หากไม่หาข้อยุติพื้นที่พิพาทจะนำไปสู่การรบกันระหว่างไทยเขมรแบบฉนวนกาซาที่รบกันไม่รู้จบ
ที่ทั้งหมดทำให้มีการตั้งคำถามถึง “รัฐบาลอิ๊งค์”ที่มี “ทักษิณ”ผู้พ่อเป็น “กุนซือ”ที่มีภาพความสัมพันธ์แนบแน่นของ 2ครอบครัวกับ “2พ่อลูก “ฮุนเซน”และ “ฮุนมาเนต”โดยเฉพาะการที่ “ทักษิณ”บอกว่า”ไม่มีอะไรเดี่ยวก็เคลียร์กันได้” ตั้งแต่30พ.ค. ยิ่งมีการย้อนเวลากลับไปกับภาพ 5ส.ค.2566 ที่ “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์”ไปงานวันเกิดของ71ปีของ ”ฮุนเซน”ก่อนตั้ง“รัฐบาลฮุนมาเนต” และก่อน”ทักษิณ”จะกลับไทยในช่วง “รัฐบาลเศรษฐา”และ ถัดมา 21 ก.พ.67 “ฮุนเซน”ยังมาเยี่ยมและกินข้าวมือเที่ยงกับ “พี่บุญธรรม”อย่าง“ทักษิณ” เป็น คนแรก ที่ “บ้านจันทร์ส่องหล้า” หลังทักษิณ ลงมาจาก ชั้น 14 ที่ทั้ง 2 ภาพนี้ ตอกย้ำภาพความสัมพันธ์ ของ 2 ครอบครัวของ 2 ผู้นำระดับประเทศ ที่กำลังกลายเป็นคำถามกับการ “เล่นใหญ่”ของ “ฮุนเซน”ในช่วงนี้
- "หมอปลาย-หมอลักษณ์" ทำนายหลังราหูย้าย รบ.อิ๊งค์ อยู่ต่อครบเทอม หรือเปลี่ยนตัวนายกฯ
- พท.แถลงโต้ กาสิโนมาก่อนแผ่นดินไหว แต่คนไทยเมนต์ช็อตฟิล แถมให้ "ฉายาใหม่" แสบสัน!