สายตาสั้นเพิ่ม 200 ใน 20 วัน ผลตรวจช็อก "กระจกตาย้วย" เสี่ยงพิการจากนิสัยที่ทำบ่อยๆ
.jpg?ip/crop/w1200h700/q80/jpg)
สายตาสั้นเพิ่ม 200 ใน 20 วัน ผลตรวจช็อก "กระจกตาย้วย" เสี่ยงพิการถาวร จากนิสัยเล็กๆ ที่หลายคนทำบ่อย เพราะคิดว่าไม่เป็นไร
เมื่อรู้สึกคันตา แห้ง หรือเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมในตา หลายคนมักจะใช้มือลูบหรือขยี้ตาเป็นอันดับแรก ซึ่งพฤติกรรมนี้อาจทำร้ายดวงตาอย่างรุนแรง เพราะอาจทำให้กระจกตาเสียรูป และในกรณีร้ายแรงอาจถึงขั้นตาบอดได้
ชายคนหนึ่งในเมืองฝูโจว มณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน พบว่าค่าสายตาสั้นของเขาเพิ่มขึ้นถึง 200 ภายในเวลาเพียง 20 วัน เมื่อตรวจที่แผนกจักษุของโรงพยาบาลประชาชนแห่งที่สองของมณฑลฝูเจี้ยน แพทย์พบว่ากระจกตาของเขานูนออกมาคล้ายกรวยไอศกรีม ทำให้แสงไม่สามารถโฟกัสลงบนเรตินาได้ และไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการใส่แว่นตา เสี่ยงต่อการเป็นผู้พิการทางการมองเห็นถาวร
หลังสอบถามอาการ แพทย์พบว่าชายคนนี้มีนิสัยชอบขยี้ตาแรง ๆ ทุกครั้งที่รู้สึกคัน ทำให้ตาแดงและบวมอยู่เสมอ เมื่อมีการเสียดสีเป็นเวลานาน กระจกตาจะถูกกดดันอย่างมากจนเสียรูป และสุดท้ายกลายเป็นโรค กระจกตารูปกรวย (Keratoconus) หรือเรียกว่า กระจกตาย้วย กระจกตาโก่ง ซึ่งมักเกิดกับผู้ที่ขยี้ตาบ่อย ๆ
.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
แพทย์เตือนว่า หากมีอาการสายตาแย่ลง มองเห็นซ้อน หรือมีอาการสายตาเอียงร่วมด้วย อาจเป็นสัญญาณของโรคกระจกตาผิดปกติ หากตรวจพบว่าค่าสายตาสั้นเพิ่มขึ้นเกิน 200 ใน 1 ปี หรือค่าสายตาเอียงเพิ่มขึ้นเกิน 50 ในครึ่งปี ควรรีบไปพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจหากระจกตากรวย
นอกจากนี้ การขยี้ตาแรงเกินไปอาจทำให้กระจกตาบางลงหรือผิดรูป ทำให้การมองเห็นพร่ามัว หรือถึงขั้นกระจกตาแตกได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีอาการแพ้ง่าย การขยี้ตาอาจนำสารก่อภูมิแพ้เข้าสู่ตาได้ และหากขยี้ตาโดยไม่ได้ล้างมือก่อน อาจเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อที่ตา
สุดท้าย การขยี้ตาบ่อย ๆ ยังส่งผลต่อผิวหนังรอบดวงตา ทำให้หลอดเลือดฝอยเสียหาย ผิวสูญเสียความยืดหยุ่น เกิดริ้วรอย ถุงใต้ตา และรอยคล้ำใต้ตาได้อีกด้วย
ดาวน์โหลดสนุกแอปฟรี