นายกบินหาดใหญ่ดูน้ำท่วม-C130ขนของช่วย

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางด้วยเครื่องบินของกองทัพบกไทย จากกองการบินกรมการขนส่งทหารบก มุ่งหน้าสู่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพื่อไปตรวจดูสถานการณ์น้ำท่วม ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ และพื้นที่ในจังหวัดสงขลาแล้ว

ขณะที่ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย พร้อมคณะได้จัดส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ เครื่องอุปโภค บริโภครวมถึงเรือท้องแบน 30 ลำ และถุงยังชีพ กว่า 2,000 ถุง ขึ้นเครื่องบิน C130 เพื่อนำไปส่งที่กองการบิน 56 อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ได้แจกจ่ายให้กับประชาชน ที่เดือดร้อนอย่างเร่งด่วนแล้วเช่นกันด้วย



ครม.เห็นชอบมาตรการช่วยน้ำท่วมตาม มติ ครม.ศก.


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ครม. มีมติอนุมัติตามที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ได้เสนอ ในมาตรการ การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งในวันนี้ได้มีการพิจารณาความเห็นชอบเพิ่มเติม โดยอนุมัติงบประมาณ จากกรอบโครงการไทยเข้มแข็ง ซึ่งมีมติให้แต่ละกระทรวง กลับไปทบทวนเพื่อนำในส่วนของการช่วยเหลือฟื้นฟูน้ำท่วม ซึ่งเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่นั้น ยังไม่สามารถสรุปได้ แต่ตอนนี้มีเงินค้างอยู่ในโครงการไทยเข้มแข็ง 4,000 ล้านบาท ส่วนกรณีงบประมาณเหลือจ่ายประจำปี 2552-2553 ซึ่งพบว่ามีงบที่ไม่ได้ผูกพันหรือทำสัญญา จะให้สำนักงบประมาณไปปรับว่าจะนำมาเป็นแผนช่วยเหลือน้ำท่วมได้หรือไม่ ทั้งนี้ การใช้งบกลางสำรองจ่ายกรณีเพื่อการฉุกเฉิน มีไตรมาตร ในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ทั้งเรื่องของการจ่ายค่าชดเชยครัวเรือน และค่าเสียหายทางพืชผลการเกษตรถึง 20,000 ล้านบาท แล้ว ซึ่งงบกลางสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉิน อยู่ที่ 4.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งภายใน 2 เดือน มีการใช้งบไปเกินครึ่ง ดังนั้นจะต้องเตรียมการณ์กับงบปกติที่มีอยู่


นายกฯ ตรวจเยี่ยมน้ำท่วมร.พ.หาดใหญ่ พร้อมมอบถุงยังชีพให้ผู้ประสบภัยด้วย

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อตรวจเยี่ยม พื้นที่ประสบภัย ภายในโรงพยาบาลหาดใหญ่ จากนั้นได้เดินทางไปรับฟังการบรรยายสรุปภาพ รวมสถานการณ์น้ำท่วม ในพื้นที่จาก นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย และแม่ทัพภาคที่ 4 ที่ มณฑลทหารบกที่ 42 ค่ายเสนาณรงค์ จ.สงขลา หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปตรวจ เยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วม ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ พร้อมกับมอบถุงยังชีพ ให้กับประชาชนรับความ เดือดร้อนด้วย อย่างไรก็ตาม สถานการณ์น้ำท่วมในตัวเมืองหาดใหญ่ขณะนี้ มีน้ำท่วมขังสูงกว่า 1 เมตร ในหลายจุดส่งผลให้ย่านเศรษฐกิจในตัวเมืองหาดใหญ่ ได้รับความเสียหายอย่างหนัก รวมถึงรถยนต์ที่จมอยู่ใต้น้ำอีกจำนวนมาก



หาดใหญ่น้ำท่วมหนักสุดในรอบ70 ปี

นายวีระ วงศ์แสงนาค รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์อุทกภัยที่จังหวัดสงขลา ว่า จากการวิเคราะห์ปริมาณน้ำที่จังหวัดสงขลา พบว่าขณะนี้น้ำในหลายอำเภอ ไหลมา รวมกันที่อำเภอหาดใหญ่ ซึ่งเป็นทางผ่านไหลลงสู่ทะเลสาบสงขลา ทำให้อำเภอหาดใหญ่ มี ปริมาณน้ำมากกว่า 250 ล้านลูกบาศก์เมตร สูงสุดในรอบ 70 ปี โดยจากการตรวจวัด ปริมาณน้ำที่สถานีบ้านบางศาลา เมื่อเวลา 07.00 น. ของวันนี้ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที สูงกว่าตลิ่ง 77 เซนติเมตร แต่ขณะนี้ปริมาณน้ำลดลงเหลือสูงกว่าตลิ่ง 44 เซนติเมตร ทำให้หลายพื้นที่ปริมาณน้ำเริ่มทรงตัว ขณะที่บางจุดปริมาณสูงขึ้น ทั้งนี้จากการ ประเมินสถานการณ์ หากไม่มีฝนตกเพิ่มเวลาประมาณ 19.00 น. ของวันนี้ ปริมาณน้ำน่าจะทรง ตัวระยะหนึ่ง และจะลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากน้ำทะเล ยังอยู่ในระดับต่ำ ทำให้การไหลของ น้ำจากคลองอู่ตะเภา และคลอง ร.1 ลงสู่ทะเลสาบสงขลาสะดวกขึ้น โดยทั้ง 2 คลองสามารถ ระบายน้ำได้เต็มที่ 900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขณะที่ปัจจุบัน อัตราการไหลของน้ำอยู่ที่ 1,623 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงคาดว่าไม่เกิน 3 วันหลังจากนี้ น้ำที่ล้นตลิ่งจะเริ่มไหลลงสู่คลองทุกสาย ทำให้ สถานการณ์ดีขึ้น กรมชลประทานจึงได้เตรียมส่งเครื่องผลักดันน้ำเพิ่ม 10 เครื่อง พร้อม เครื่องสูบน้ำ 20 เครื่อง และจะถอนกำลังในจุดที่ไม่ได้ใช้งานไปเพิ่มอีก เพื่อให้เทศบาลนครหาดใหญ่ ระดมกำลังระบายน้ำ โดยเฉพาะในที่ลุ่มต่ำน้ำขัง ลงสู่คลองต่อไป สำหรับสถานการณ์น้ำที่จังหวัด นราธิวาส วันนี้ลุ่มน้ำสายบุรีมีระดับลดลงจากเมื่อวานนี้ ลุ่มน้ำโกลกและยะกัง ยังอยู่ในระดับวิกฤติ สูงกว่าตลิ่ง 93 เซนติเมตร ลุ่มน้ำสะพานมันตูสูงกว่าตลิ่ง 1.70 เมตร ส่วนจังหวัดพัทลุงน้ำได้ไหล เชี่ยวเข้าท่วมถนนหลายจุดที่ความสูงประมาณ 20-30 เซนติเมตร ทำให้การสัญจรไม่สะดวก



นายกฯ เปรยเครียดแก้น้ำท่วมไม่ตก


ขณะที่ นายไชยยศ จิรเมธากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในหลายพื้นที่ว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) เป็นศูนย์ประสานงาน ช่วยเหลือน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ล่าสุดมีผู้ได้รับความเดือดร้อน ทยอยเข้าพักอาศัย ในพื้นที่มหาวิทยาลัยแล้ว แต่ยังไม่ทราบจำนวนแน่ชัด เนื่องจากไม่สามารถติดต่อผู้บริหาร ในพื้นที่ได้ สำหรับการให้ความช่วยเหลือประชาชน ผู้ประสบภัยน้ำท่วมทั่วประเทศนั้น สัปดาห์หน้าจะปล่อยขบวนคาราวาน นักศึกษาแพทย์ และพยาบาล ที่ศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยทั้ง 18 แห่ง เพื่อลงไปดูแลสุขภาพและตรวจโรคประชาชนหลังน้ำลด

นายไชยยศ กล่าวด้วยว่า ช่วงหารือ ครม. ตนเองได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรี ถึงการแก้ปัญหาน้ำท่วม ในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้เร่งดำเนินการ พร้อมกับเปรยว่าเครียดที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหา ผู้ประสบอุทกภัย ทางภาคเหนือและอีสานได้ ก็มาเกิดน้ำท่วมใหญ่ ในพื้นที่ภาคใต้ซ้ำ แถมมีภัยหนาวเกิดขึ้นอีก