ภารกิจส่งหัวใจดวงที่ 123 เผยโฉม "นักบินหญิง" รู้ว่าเป็นใครยิ่งทึ่ง ดีกรีนางสาวไทย

ภารกิจส่งหัวใจดวงที่ 123 เผยโฉม "นักบินหญิง" รู้ว่าเป็นใครยิ่งทึ่ง ดีกรีนางสาวไทย

ภารกิจส่งหัวใจดวงที่ 123 เผยโฉม "นักบินหญิง" รู้ว่าเป็นใครยิ่งทึ่ง ดีกรีนางสาวไทย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ภารกิจส่งหัวใจดวงที่ 123 เผยโฉม "นักบินหญิง" รู้ว่าเป็นใครยิ่งทึ่ง ทั้งสวยทั้งเก่ง ดีกรีนางสาวไทย

นับเป็นภารกิจสุดหินอีกครั้ง กับการนำส่ง “หัวใจดวงที่ 123” จากโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา สู่โรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพมหานคร ภายในระยะเวลาที่จำกัด เพื่อยื้อชีวิตของผู้ป่วยที่รอการปลูกถ่ายหัวใจ

ภารกิจนี้ได้รับความร่วมมือจาก “โจอี้” อรวิภา กนกนทีสวัสดิ์ นางสาวไทยปี 2552 และนักบินหญิงจิตอาสา ที่รับหน้าที่ขับเครื่องบินขนาดเล็กนำกล่องบรรจุหัวใจมาส่งยังฝูงบิน 604 สนามบินดอนเมือง ก่อนส่งไม้ต่อให้ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ นำส่งหัวใจต่อถึงโรงพยาบาลศิริราชได้ภายในเวลาเพียง 23 นาที 

“หัวใจดวงที่ 123”

โจอี้ อรวิภา เผยว่า ได้รับแรงบันดาลใจมาจากช่วงที่เคยจัดรายการที่สถานีวิทยุ จส.100 ซึ่งมีโอกาสประชาสัมพันธ์การทำงานของตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริในการนำส่งอวัยวะ และครั้งนี้นับเป็นภารกิจแรกในชีวิตของเธอที่ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในการ รับ-ส่งหัวใจ ซึ่งเธอรู้สึกภูมิใจอย่างยิ่ง

ภารกิจรับส่ง “หัวใจดวงที่ 123” เริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 16.00 น. โดยเครื่องบินออกจากกองบิน 6 ดอนเมือง ท่ามกลางสภาพอากาศที่มีเมฆมาก ต้องใช้ทักษะหลบเลี่ยงและบริหารเวลาอย่างแม่นยำ แม้ขากลับจากอุดรธานีมีเที่ยวบินเข้าดอนเมืองจำนวนมาก แต่ก็สามารถนำเครื่องลงได้ตรงเวลา เพื่อส่งต่อหัวใจดวงสำคัญได้อย่างปลอดภัยและรวดเร็ว

ตลอดภารกิจ มีทีมสนับสนุนอย่างมืออาชีพจากสภากาชาดไทย ทีมแพทย์ พยาบาล ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ และสมาคมนักบินจิตอาสา ร่วมกันทำงานอย่างทุ่มเท แข่งกับเวลาที่มีจำกัดเพียง 25 นาทีหลังเครื่องบินแตะพื้น จนสามารถส่งต่อหัวใจจากผู้บริจาคให้กับผู้ป่วยที่รอคอยการผ่าตัดได้สำเร็จ

หัวใจดวงนี้เป็นของชายวัย 24 ปี ที่ประสบอุบัติเหตุเลือดออกในสมองจนสมองตาย โดยญาติได้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะหลายส่วน ได้แก่ ลิ้นหัวใจ ไต และดวงตา ให้แก่ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และสภากาชาดไทย เพื่อส่งต่อชีวิตให้กับผู้อื่น

หัวใจ 1 ดวง มีเวลาแค่ 4 ชั่วโมง หลังนำออกมาจากร่างกาย กว่าจะมาทางเครื่อง กว่าจะเดินทางมาถึงโรงพยาบาล ทำให้เวลาที่พยาบาลต้องรีบนำหัวใจขึ้นไปห้องผ่าตัดเหลือแค่ 4 นาทีเท่านั้น ทั้งความกดดัน ทั้งเวลาที่กระชั้นชิด ทันที่ที่รถพยาบาลมาถึง เจ้าหน้าที่หญิงก็รีบคว้ากล่องหัวใจ และรีบวิ่งสุดกำลัง ไปที่ห้องผ่าตัดทันที

“หัวใจดวงที่ 124”

ไม่เพียงเท่านั้น ในวันเดียวกัน “หัวใจดวงที่ 124” ก็ถูกส่งต่อจากโรงพยาบาลหาดใหญ่สู่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กรุงเทพมหานคร โดยมีข้อจำกัดด้านเวลาไม่เกิน 4 ชั่วโมง และต้องเผชิญกับสภาพอากาศเลวร้าย ฝนตกหนัก ทำให้การเดินทางเต็มไปด้วยความท้าทาย

ทีมแพทย์จากโรงพยาบาลหาดใหญ่สามารถจัดการให้อวัยวะขึ้นเครื่องได้ในเวลา 18.52 น. และส่งถึงโรงพยาบาลจุฬาฯ ในเวลา 21.43 น. ใช้เวลาทั้งสิ้นไม่ถึง 3 ชั่วโมง ภารกิจสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

ผู้บริจาคหัวใจดวงนี้คือผู้ป่วยจากจังหวัดปัตตานี ซึ่งยังได้บริจาคอวัยวะอื่นๆ อย่างตับ ดวงตา และไต ให้กับสภากาชาดไทย เพื่อปลูกถ่ายให้กับผู้ป่วยรายอื่นต่อไป

ทั้งสองภารกิจสะท้อนให้เห็นถึงหัวใจของความร่วมมือจากหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ พยาบาล ตำรวจจราจร นักบินจิตอาสา ตลอดจนเครือข่ายอาสาสมัคร ที่ร่วมแรงร่วมใจกันทำให้ภารกิจส่งต่อชีวิตนี้สำเร็จภายใต้ข้อจำกัดของเวลาและสภาพอากาศ

“หัวใจดวงหนึ่งเพื่อชีวิตใหม่ของอีกหนึ่งคน และเบื้องหลังความสำเร็จ คือหัวใจของทุกคนที่ร่วมกันส่งต่อ”

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล