ดีเอสไอย้ำไม่ได้ละเลยคดีช่างภาพญี่ปุ่น

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดี การเสียชีวิต ของนายฮิโรยูกิ มูราโมโต ช่างภาพสำนักข่าวรอยเตอร์ ชาวญี่ปุ่น ที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 เม.ย. ในการปฏิบัติหน้าที่ ช่วงชุมนุมกลุ่ม นปช.ว่า ดีเอสไอทำคดีไม่ได้แตกต่างจากคดีของคนไทย และให้ความสำคัญเป็นพิเศษด้วยซ้ำ ซึ่งคงต้องให้เวลาพนักงานสอบสวนอีกสักพัก ในการทำงานร่วมกับอัยการ ตำรวจ ดีเอสไอ และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ของ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติฯ ที่ได้ทำงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตนคิดว่า ระดับเจ้าหน้าที่ได้เร่งรัดทำงานกันทุกวัน จนเกือบจะวันต่อวัน ด้วยซ้ำจึงจะมีผลออกมาแน่นอน สำหรับคดีการเสียชีวิต ช่างภาพชาวญี่ปุ่น และคดี 6 ศพในวัดปทุมวนารามฯ รวมทั้งการเสียชีวิตทั้ง 91 ศพต้องมีความคืบหน้า แต่ขณะนี้การสอบสวน ยังไม่เสร็จสิ้น จะไปเร่งรัด เจ้าหน้าที่อาจเกิดความกดดันในการเร่งรีบปิดสำนวนได้


รองดีเอสไอ เผย ยังไม่สามารถสรุปได้ ใครยิงช่างภาพชาวญี่ปุ่น เนื่องจากไร้พยานเห็นเหตุการณ์ เชื่อทางการญี่ปุ่น เข้าใจ

พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน คดีการเสียชีวิตของช่างภาพชาวญี่ปุ่น กล่าวว่า รัฐบาลไทยให้ความสำคัญในเรื่องนี้อย่างยิ่งยวด ส่วนของดีเอสไอก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เพื่อทำให้ความจริงปรากฏ แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า ใครเป็นคนทำให้ช่างภาพชาวญี่ปุ่นเสียชีวิต ซึ่งมีปัญหาอุปสรรค ตรงที่ไม่มีพยานรู้เห็นเหตุการณ์เข้าให้การต่อดีเอสไอ จึงทำให้ขาดข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายยืนอยู่ตรงไหน ถูกยิงล้มลงในท่าอะไร กระสุนมาจากฝั่งไหน และใครเป็นคนยิง โดยที่ผ่านมา ดีเอสไอ ได้พยายามหาพยานที่เห็นเหตุการณ์เข้าให้การต่อพนักงานสอบสวน ทั้งการประชาสัมพันธ์ ผ่านสื่อมวลชน เว็บไซต์ของดีเอสไอ หรือแม้กระทั่งการตั้งรางวัลตอบแทนกับพยานที่เข้าให้การ แต่ขณะนี้ยังไม่มีใครเข้าให้ข้อมูล ซึ่งตนเชื่อว่าทางการญี่ปุ่น จะเข้าใจ เพราะที่ผ่านมาทางการไทยก็ได้ชี้แจงความคืบหน้าเป็นระยะ