น้ำเขาใหญ่ทะลักโคกกรวดสีคิ้วอ่วม

ประกาศเตือนภัย"ฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลัน" ฉบับที่ 22 ลงวันที่ 17 ตุลาคม 2553

ในช่วงวันที่ 17-18 ต.ค. นี้ หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคกลาง ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกชุกหนาแน่น โดยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ บริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง
สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยยังคงมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือในระยะนี้ไว้ด้วย
อนึ่ง ในช่วงวันที่ 18-20 ต.ค. 53 บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวอากาศเย็นลง โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา

ประกาศ ณ วันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2553
ออกประกาศ เวลา 05.30 น.

สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร



ขณะที่ นายสมคิด ลือชา ผู้อำนวยการเดินรถภาคตะวันออกเฉียงเหนือการรถไฟ เปิดเผยว่า กระแสน้ำป่าไหลเข้าท่วมรางรถไฟ ที่สถานีรถไฟโคกกรวด จ.นครราชสีมา ระดับน้ำท่วมสูงถึง 50 เซนติเมตร จากสันราง ส่งผลให้รถไฟผ่านไม่ได้ สำหรับผู้โดยสารที่มาจากสายอีสาน ลงมาได้ถึงแค่ตัวเมืองนครราชสีมา และผู้โดยสารที่มาจากกรุงเทพมหานคร เข้าได้แค่ตัว อ.สีคิ้ว ซึ่งขณะนี้ที่ ต.โคกกรวด ท้องฟ้ายังคงมืดครึ้ม และมีฝนตกโปรยปรายอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ สถานการณ์ระดับน้ำบนถนนมิตรภาพ ช่วง อ.ด่านขุนทด รถเล็กแล่นผ่านไม่ได้



ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพการจราจร ถนนมิตรภาพ หลังจากเกิดน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นผิวการจราจร ล่าสุด เจ้าหน้าที่สามารถเปิดใช้งานได้ตามปกติ แต่ยังคงปิดการจราจร ช่วงก่อนถึง ฟาร์มโชคชัย หรือ ที่เรียกว่า เขามอบันไดม้า เปิดการจราจรเพียง 1 ช่องทาง

ส่วนทางด้าน อ.ปากช่อง เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเปิดใช้เส้นทงได้ ต้องเปลี่ยนเส้นทางเข้า ในตัว อ.ปากช่อง ก่อนจะเปลี่ยน
เส้นทางได้ หรือหากผู้ที่จะเดินทางไปยัง จ .บุรีรัมย์ ก็สามารถใช้เส้นทางหลวง หมายเลข 24 แทน ส่วนผู้ที่จะเดินทางจาก
กทม. ไปภาคอีสาน สามารถใช้เส้นทางหลวง 304 ได้ เพื่อหลีกเลี่ยงจุดที่เส้นทางชำรุด

อย่างไรก็ตาม ทางด้านเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตรียมเข้ามอบสิ่งของช่วยเหลือและอาหารกล่อง
ช่วยชาวบ้านที่ประสบภัย และขณะนี้บรรยากาศใน อ.ปากช่อง ยังคงมีฝนตกปรอยๆ ตลอดเวลา ตั้งแต่ช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา



ด้าน นายสมพล สีวงค์ วิศวกรช่างกลสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดนครราชสีมา กล่าวถึง สถานการณ์ระดับน้ำ ล่าสุดว่า น้ำป่าไหลบ่าเข้าทะลัก 3 หมู่บ้าน คือ ดอนแต้ว หมู่บ้านสีจาน และหมู่บ้านละลมหม้อ ต.โคกกรวด ระดับน้ำสูงประมาณ 60-70 ซ.ม. ทำให้รถเล็ก และรถใหญ่ ที่สัญจรไปมา ไม่สามารถผ่านได้ ซึ่งขณะนี้ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่อาสาฯ และทหาร ออกมาช่วยเหลืออพยพประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน มาพักอาศัยที่วัดใกล้เคียง

ส่วนอีกจุดที่มีน้ำไหลบ่า คือ ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว ระดับน้ำยังคงไหลบ่าสูงขึ้นต่อเนื่องเรื่อยๆ เช่นกัน เพราะมีฝนตกติดต่อกันนาน 3 วัน นอกจากนี้ ที่ ถนนมิตรภาพ ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง รถเล็กยังไม่สามารถผ่านไปได้ ด้านตัว อ.เมือง ขณะนี้ ระดับน้ำยังคงปกติ

โดยเบื้องต้น การช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน เจ้าหน้าที่จะใช้วิธีการโดยนำเรือยาง ติดเครื่องยนต์ ออกไปช่วยเหลือชาวบ้านอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ทั้งคืน ท่ามกลางฝนที่ยังตกอย่างไม่หยุด ทั้งนี้ มีชาวบ้านบางหลังคาเรือน ยังคงเป็นห่วงบ้าน และไม่ยอมออกมาจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สิน เจ้าหน้าที่จึงต้องนำข้าวปลาอาหารแห้ง เข้าไปให้ประทังความเดือดร้อน

อย่างไรก็ดี ทางเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ ถือว่ายังพอรับมือได้ เพราะระดับน้ำท่วมเฉพาะบางจุด ของบางอำเภอเท่านั้น ส่วนระดับน้ำในเขื่อนลำตะคอง ปริมาณน้ำยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง



ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีเหตุน้ำท่วมใน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ล่าสุด ปลัดอำเภอสูงเนิน เปิดเผยว่าขณะนี้มีพนักงาน โรงงานอุตาสหกรรมแห่งหนึ่ง ภายในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร 2 ติดอยู่ภายในโรงงาน ไม่สามารถออกมาได้ เนื่องจากมีระดับน้ำท่วมสูงกว่าระดับอก โดยมีพนักงานติดค้างกว่า 300 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ ปภ. ได้ นำเรือท้องแบน เข้าไปให้ความช่วยเหลือ แต่เนื่องจากระดับน้ำ ไหลเชี่ยวแรง ทำให้เป็นอุปสรรคในการช่วยเหลือ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ ปภ. ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าของโรงงาน ให้เข้าช่วยเหลือพนักงงานเป็นการด่วน

ขณะที่ทางด้านการเดินรถไฟสายภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รถไฟไม่สามารถ วิ่งต่อไปได้ ต้องจอดที่สถานีโคกกรวดเท่านั้น ไม่สามารถเดินทางต่อได้ เนื่องจากมีระดับน้ำ ท่วมรางรถไฟกว่า 50 ซ.ม. ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีผู้โดยสารติดค้างกว่า 100 คน เจ้าหน้าที่ต้องนำเรือท้องแบนขนส่งมาขึ้นรถโดยสารแทน