รวบหนุ่มใหญ่บุกปาอึปชป.รอบ2

เกิดเหตุมีการปาสิ่งปฏิกูล ใส่ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ โดยจากการตรวจสอบ พบว่า ชื่อ นายสุรชัย เกิดดี อายุ 45 ปี เป็นประชาชนมีบ้านพักอยู่ในย่านบางซื่อ ได้นำถุงอุจจาระขว้างใส่บริเวณลานพระแม่ธรณีบีบมวยผม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ประจำการรักษาความปลอดภัย ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ได้จับกุมตัวไว้ได้ทันที และควบคุมตัวนำส่งสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ เมื่อสอบสวนต่อไป อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายสุรชัย ได้มีพฤติกรรมปาถุงอุจจาระใส่ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ มาแล้ว 1 ครั้ง โดยอ้างว่า ไม่พอใจในการทำงานของรัฐบาล

ด้าน พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.2 เปิดเผยถึงกรณี ที่มีชายนำถึงอุจจาระปาใส่หน้าพรรคประชาธิปัตย์ ครั้งที่ 2 ว่า เป็นคนเดิมกับคราวที่แล้ว ซึ่งคาดว่าน่าจะสติไม่สมประกอบ โดยอ้างว่าได้ร้องเรียนกับทางการ แต่ไม่ได้รับการดูแล จึงมาประท้วงด้วยการทำแบบเดิมอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้กำลังเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ที่หน้าพรรค ปชป. และจะส่งตัวผู้ก่อเหตุให้ สน.บางซื่อ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สำหรับคนร้ายที่ก่อเหตุ คือ นายสุรชัย เกิดดี อายุ 45 ปี เคยทำงานตำแหน่งพนักงานขับรถ อยู่ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) สาขาสี่มุมเมือง โดยนายสุรชัยมีอาการเครียด เรื่องการเมืองอย่างหนัก โดยในครั้งแรกศาลแขวงดุสิต พิเคราะห์คำฟ้องประกอบคำรับสารภาพแล้ว เห็นว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง จึงพิพากษาให้จำคุกเป็นเวลา 10 วัน จำเลยให้การรับสารภาพ เห็นควรลดโทษให้กึ่งหนึ่ง จำคุก 5 วัน โดยจำเลยไม่เคยกระทำผิดมาก่อน สมควรให้เปลี่ยนโทษจำคุก เป็นกักขังเป็นเวลา 5 วัน

ขณะที่ พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 กล่าวถึง การสอบปากคำ นายสุรชัย เกิดดี อายุ 45 ปี
ผู้ต้องหาปาถุงอุจจาระ ใส่ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหารายนี้ ให้การ
รับสารภาพว่า เคยก่อเหตุปาอุจจาระใส่ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ มาแล้ว เมื่อวันที่ 2 มี.ค. ที่ผ่านมา และถูกศาลสั่งฝากขัง
เป็นเวลา 5 วัน ปรับ 500 บาท

โดยอ้างเหตุผลที่ก่อเหตุว่า เคยไปร้องเรียนที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ ว่า มีคลื่นความถี่รบกวนสมอง แต่ไม่มีหน่วยงานใด เข้ามาจัดการให้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เตรียมสอบปากคำเพิ่ม ก่อนจะควบคุมตัวไปตรวจสภาพจิตที่ สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยว่า นายสุรชัย มีอาการทางประสาทหรือไม่ ถ้าตรวจพบว่ามีอาการทางประสาทก็จะดำเนินการรักษาต่อไป แต่ถ้าไม่มีอาการทางประสาท ก็จะนำส่งฟ้องต่อศาลในข้อหากระทำ เพื่อประการใดให้ของโสโครกเปรอะเปื้อนหรือ น่าจะเปรอะเปื้อนตัวบุคคล หรือ ทรัพย์ ซึ่งคาดว่าน่าจะทราบผลประมาณกว่า 1 เดือน อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ อาจพิจารณายื่นเรื่องต่อศาลขอจำกัดสิทธิ์ ไม่ให้ผู้ต้องหา เข้าใกล้ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์อีก ป้องกันการก่อเหตุดังกล่าวซ้ำ

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ ควบคุมตัว นายสุรชัย ไปตรวจ สุขภาพทางประสาท ที่สถาบันกัลยา พร้อมยื่นคำร้องต่อศาล ให้มีคำสั่งห้ามไม่ให้ นายสุรชัย เข้าใกล้บริเวณที่ทำการพรรคอีก เพื่อป้องกันการก่อเหตุซ้ำ