โฆษกนปช.โผจ้อสื่อออสซี่บอกถูกรบ.ไล่ล่า

เรดิโอออสเตรเลีย ของสำนักข่าว เอบีซีนิวส์ ของออสเตรเลีย รายงานคำให้สัมภาษณ์ของ นายฌอน บุญประคอง โฆษกฝ่ายต่างประเทศของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ วานนี้(22 )หลังมีรายงานว่ากลุ่มผู้ประ ท้วงต่อต้านรัฐบาลกำลังเตรียมการรวบรวมจัดกลุ่มใหม่ หลังเหตุการณ์ครั้งความรุนแรงเมื่อเดือนที่ผ่านมา และผู้ประท้วงนับร้อยถูกจับกุมตัวอีกหลายคนยังหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่ประเทศกัมพูชา

โดยประเด็นที่ผู้สื่อข่าวถามเป้ฯเรื่องแรกคือ เวลานี้กลุ่มคนเสื้อแดงยังคงมีวิธีการใดๆ ที่ดำเนินการต่อหรือไม่

นายฌอน กล่าวตอบว่า ตอนนี้อย่างน้อย 819 คน ถูกออกหมายจับ และมีการไล่ล่า-รุกราน ไปทั่วประเทศ และเป็นเรื่องแปลกที่ไม่มีรายงานโดยสื่อมวลชน อีกทั้งยังมีข่าวเกี่ยวกับการบังคับข่มขู่ในทั่วประเทศ ซึ่งข้อเท็จจริงก็คือ คนเหล่านั้นอยู่ในสถานะของความกลัว พวกเขากำลังหลบหนี และตนคิดว่าเวลาไม่ใช่เวลาของการมานั่งรวมกลุ่มใหม่ เพราะเราแค่พยายามอยู่รอดและมีชีวิตอยู่จากการปราบปรามอันโหดร้ายนี้

ส่วนเหตุการณ์การถูกขู่บังคับ นายฌอน กล่าวว่า มีการถูกทำร้ายเกิดขึ้น ใน 3 หรือ 4 จังหวัด ที่มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินแต่ก็ไม่มีการรายงานกันอย่างแพร่หลาย โดยในกรุงเทพฯเอง ยังมีคนที่ถูกควบคุมตัวราว 150 คน ทั้งชายและหญิง และยังมีข่าวการเสียชีวิตปรากฏออกมา ในนั้นรวมไปถึงกรณีเด็กวัย 12 ปี ก็มีรายงานในสื่อมวลชนหลัก ซึ่งชี้ได้ว่านั้นคือเรื่องจริง

นอกจากนี้ ก็ยังคงมีการสั่งปิดสื่อมวลชนเสื้อแดง ทำให้เราไม่รู้ว่าจะเรียกตนเองว่าเป็นประชาธิปไตยได้อย่างไร เมื่อเราอยู่ภายใต้รัฐบาลเผด็จการ และนี่มันคือสภาพปัจจุบันที่แท้จริงของไทย

สำหรับ เรื่องที่ผู้ประท้วงเสื้อแดงถูกควบคุมตัว และมีรายงานการละเมิดสิทธิมนุษยชนพวกเขา นั้น นายฌอน กล่าวว่า นั้นเป็นเรื่องจริง โดยเฉพาะการถูกโจมตี ซึ่งเราก็ไม่สามารถเข้าถึงพวกเขาได้เลย เรามีโอกาศไม่มากในการเข้าเยี่ยม และเรามีข้อมูลที่สมบูรณ์ คือภาพซึ่งเรียกว่าเขตสงคราม ในเมืองหลวงของไทย ที่เราไม่สามารถนำออกมาเผยแพร่ได้ไปมากกว่านี้

และคำถามเด็ดที่ผู้สื่อข่าวถาม ถึงเรื่องที่มีรายงานออกมาว่า มีคนเสื้อแดงบางคนแอบซ่อยตัวอยู่ในประเทศกัมพูชานั้นจริงหรือไม่?

โฆษกต่างประเทศเสื้อแดงตอบว่า ทางกลุ่มเสื้อแดงเอง ก็ทราบรายงานเรื่องนี้เช่นกัน แต่ก็ยังไม่มีการพูดคุยกับพวกเขาซึ่งบางทีพวกเขาอาจจะพยายามอยู่เงียบๆ และไม่สร้างความยุ่งเหยิงทางการทูตกับไทย แต่แน่นอนว่า ทางเรารู้สึกยินดี
ที่พวกเขาจะยังมีชีวิตอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม เวลานี้เราไม่ได้ทำการกระทำการใดๆที่เป็ฯการต่อต้าน เพียงแต่การมีชีวิตอยู่ถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเรา.