รวบพรานโหด ฆ่าหมีมาทำ"หมีแดดเดียว"

รวบพรานโหด ฆ่าหมีมาทำ"หมีแดดเดียว"

รวบพรานโหด ฆ่าหมีมาทำ"หมีแดดเดียว"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา จับกุมนายฑูรย์ สยามมล อายุ 58 ปี และนายสุวรรณ ยงกระสัน อายุ 38 ปี พ่อตาและลูกเขย ในคดีร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมของกลางซากหมีควายเพศเมียขนาดใหญ่ สภาพสมบูรณ์ น้ำหนักตัวกว่า 90 กิโลกรัม เนื้อ และเครื่องในหมีควายที่ชำแหละแล้ว ขวาน มีด เขียง และบ่วงสำหรับจับสัตว์ป่า

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าผู้ต้องหาทั้งสองได้ลักลอบล่าสัตว์ป่า ตำรวจจึงเข้าตรวจค้นบ้านของนายฑูรย์ เลขที่ 87 หมู่ 8 บ้านคลองทราย ตำบลวังน้ำเขียว แล้วพบซากหมีควายเพศเมียตัวใหญ่ซุกซ่อนอยู่ในถุงปุ๋ยบริเวณข้างบ้าน นอกจากนี้ยังพบเนื้อหมีควายที่ชำแหละใส่ถุงแช่อยู่ในตู้เย็นอีกจำนวนมาก ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองรับสารภาพว่า เมื่อ 2 วันที่ผ่านมาใช้บ่วงดักสัตว์ป่ามาวางเป็นกับดักไว้ในป่าด้านหลังของหมู่บ้าน ซึ่งอยู่ติดกับอุทยานแห่งชาติทับลาน และวันรุ่งขึ้นกลับไปดูบ่วงกับดักที่วางไว้ พบหมีควายตัวใหญ่ เพศเมียติดกับดักบ่วง นายฑูรย์จึงใช้ขวานทุบหัวหมีควายจนตาย และนำมาชำแหละแยกเอาหนังกับเนื้อออกจากกัน โดยเตรียมนำเนื้อไปทำอาหารรับประทานในครอบครัว ส่วนหนังเตรียมนำไปขาย ตำรวจจึงแจ้งข้อหาร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนจะนำตัวไปดำเนินคดีตามยกฎหมายต่อไป

หมีควายเป็นสัตว์สงวนอีกประเภทที่น่าเป็นห่วงว่าจะสูญพันธ์ จัดเป็นหมีขนาดกลาง และเป็นหมีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยลำ ตัวยาวประมาณ 130-190 เซนติเมตร ตัวผู้หนัก 100-200 กิโลกรัม ตัวเมียหนัก 50-125 กิโลกรัม ซึ่งปัจจุบันถูกคุกคามจากมนุษย์หลายรูปแบบ ชาวบ้านมักจะฆ่ามันเพราะเป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยง ที่สำคัญ คือ ดีหมี ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการในตลาดยาจีน เพราะเชื่อว่ารับประทานดีหมีควายแล้วจะมีกำลังวังชาดี ทำให้ปัจจุบันนายพรานมักล่าหมีควายเพื่อเอาถุงน้ำดีไปขาย ทำให้ปัจจุบันสหภาพสากลว่าด้วยการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ไอยูซีเอ็น) จัดให้หมีควายเป็นสัตว์อยู่ในภาวะใกล้สูญพันธุ์ ทั้งนี้ในประเทศไทยจัดให้หมีควายเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ผู้ที่ล่าหมีควาย และมีหมีควายไว้ในความครอบครองจะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook