เปิดปมสังหารครูสองผัวเมียดับสยองคาบ้าน คนร้ายฆ่าชิงรถดูคาติ 6.5 แสน

เปิดปมสังหารครูสองผัวเมียดับสยองคาบ้าน คนร้ายฆ่าชิงรถดูคาติ 6.5 แสน

เปิดปมสังหารครูสองผัวเมียดับสยองคาบ้าน คนร้ายฆ่าชิงรถดูคาติ 6.5 แสน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจออกหมายจับคนร้ายฆ่าโหดครูผัวเมียดับสยองคาบ้านพัก พบทำทีเหมือนจะซื้อรถซื้อรถดูคาติ ก่อนฆ่าทั้งสองอย่างเหี้ยมโหด

จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ได้เกิดคดีคนร้ายบุกเข้าไปใช้อาวุธมีดแทง นายอโรชา หรือ ครูเอ็ม และ น.ส.ปรียาภรณ์ หรือ ครูแนน สองสามีภรรยาที่บ้านหลังหนึ่ง ต.ทับมา อ.เมือง จ.ระยอง เบื้องต้น ตำรวจได้ตั้งปมไว้ในหลายประเด็น ทั้งฆ่ากันเอง ฆ่าชิงทรัพย์ และฆ่าล้างหนี้

>> ครู 2 ผัวเมียถูกฆาตกรรมโหด เลือดสาดสยองทั่วบ้าน ข้อความปริศนาแปะหน้าประตู

ล่าสุด วันนี้ (29 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.ฉลอง สุขจันทร์ ผบก.ภ.จ.ระยอง กล่าวว่า ขณะนี้ทราบตัวคนร้ายแล้ว ชุดสืบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน พอที่จะออกหมายจับตัวคนร้ายแล้ว ส่วนคนร้ายเบื้องต้นมี 1 คน คือ นายศุภกฤต อายุ 22 ปี สาเหตุเป็นการประสงค์ต่อทรัพย์ คาดว่าภายในวันสองวันนี้จะสามารถติดตามจับกุมตัวได้

ส่วนสาเหตุจูงใจที่คนร้ายลงมือสังหารโหด ก่อนเกิดเหตุผู้ตายนัดให้คนร้ายมาดูรถดูคาติ ราคา 6.5 แสนบาท ที่บ้าน เมื่อคนร้ายมาถึงทำทีเหมือนจะซื้อรถ แต่ก็ไม่ได้ซื้อแต่กลับฆ่าทั้งสองอย่างเหี้ยมโหด และชิงรถดูคาติออกไป ซึ่งกล้องวงจรปิดในหมู่บ้านจับภาพไว้ได้

โดยเมื่อเวลา 11.00 น. นายแก้ว อายุ 69 ปี นางนงเยาว์ อายุ 62 ปี พ่อแม่ของครูปรียาภรณ์ ผู้เสียชีวิต และ นายสมาน อายุ 64 ปี พ่อและแม่ของครูอโรชา ผู้เสียชีวิต พร้อมญาติทั้งสองฝ่าย ได้เดินทางไปพบพนักงานสอบสวนยังบ้านที่เกิดเหตุ

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ทั้งสองฝ่ายเข้าตรวจสอบทรัพย์สิน และสภาพภายในบ้านเพื่อส่งมอบบ้านคืนให้ญาติของผู้ตาย  เนื่องจากตรวจสอบเก็บหลักฐานไว้หมดแล้ว โดยญาติทั้งสองฝ่ายต่างตรวจสอบสภาพบ้านด้วยความเศร้าเสียใจเนื่องจากเต็มไปด้วยเลือดทั้งบ้าน

จากการสอบถาม นายแก้ว พ่อของผู้ตายฝ่ายหญิง กล่าวว่า ตนเองไม่ได้เจอลูกสาวมาเกือบปีแล้ว มีแต่แม่ที่เคยมาอยู่กับลูกสาวเป็นเดือน เพิ่งกลับไปไม่นาน ซึ่งลูกสาวก็โทรไปชวนให้กลับมาที่ระยองอีก แต่ตนเองทั้งสองติดเก็บเกี่ยวข้าวรอให้เก็บเกี่ยวข้าวเสร็จก่อน มารู้ข่าวว่าลูกสาวเสียชีวิตก็ตกใจและเสียใจมาก

สำหรับศพจะนำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดของแต่ละคน ฝ่ายตนจะนำกลับไปที่ จ.พะเยา ส่วนฝ่ายชายจะนำกลับไปที่ จ.ชัยนาท โดยไม่ส่งสถาบันนิติเวชแล้ว เนื่องจากทาง รพ.ระยอง ได้ผ่าพิสูจน์ครบถ้วนแล้ว ส่วนเรื่องคดีก็ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook