สาทิตย์ยันรายการอภิสิทธิ์พบปชช.เริ่ม18มค.นี้

สาทิตย์ยันรายการอภิสิทธิ์พบปชช.เริ่ม18มค.นี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
(8ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงรูปแบบรายการนายกรัฐมนตรี พบประชาชน ว่า จะเป็นการพบปะระหว่างนายกรัฐมนตรีกับประชาชน ซึ่งตนหารือทีมงานมาเป็นระยะๆ เบื้องต้นจะจัดช่วงเช้าวันอาทิตย์ เวลา 09.00 น. แต่รูปแบบรายการไม่มีการกำหนดตายตัวว่าจะเป็นการนายกฯคุยคนเดียวหรือคุยหลายคน จะมีพิธีกรหรือไม่ แต่ถือที่เนื้อหาเป็นหลักว่าบางสัปดาห์จะเป็นการรายงานการทำงานของนายกฯต่อประชาชนก็อาจจะพูดคนเดียว บางสัปดาห์จะเป็นการไปพบประชาชนที่เป็นกลุ่มปัญหานอกสถานที่ ก็จะไปจัดนอกสถานที่ และจะเปิดโอกาสให้ประชาชนมีโอกาสตั้งคำถาม หรือพูดคุยสองทางด้วย

ส่วนสาระนั้นเน้นเรื่องการทำงานรัฐบาล และประชาชนได้รับอะไรเป็นหลัก และรัฐบาลจะทำอะไรบ้าง จะไม่ใช้เป็นที่ตอบโต้ทางการเมือง หรือพูดการเมือง หรือใช้เป็นเครื่องมือในการโจมตีฝ่ายตรงข้าม ซึ่งคาดว่ารายการแรกน่าเริ่มได้ในวันอาทิตย์ที่ 18 ม.ค. ซึ่งเดิมอยากจะเริ่มอาทิตย์ที่ 11 ม.ค.นี้ แต่บังเอิญเป็นวันเลือกตั้งซ่อมจึงไม่อยากให้มีปัญหา ส่วนชื่อรายการ จะมีการประกาศกันอีกครั้งหนึ่ง ส่วนรูปแบบรายการวันแรกจะได้ชี้แจงให้ทราบเมื่อมีรูปแบบรายการที่ชัดเจนก่อน

// //

เมื่อถามถึงกรณีที่จะเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านได้จัดรายการพบประชาชนทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีด้วย ว่า นายกรัฐมนตรีมีนโยบายชัด เจนว่าจะต้องเปิดพื้นที่สื่อให้สมดุล เสนอข่าวทุกด้าน จึงให้นโยบายผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้วว่าหากผู้นำฝ่ายค้านในสภาทำหนังสือเพื่อขอจัดราย การพบประชาชนขอให้พิจารณาอนุมัติให้ไป ดังนั้นต้องรอดูว่าผู้นำฝ่ายค้านจะมีหนังสือขอมาหรือไม่ ถ้ามีก็ยินดีให้ ไม่มีปัญหา

เมื่อถามว่า ผู้นำฝ่ายค้านจัดได้คนเดียวใช่หรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ตามหลักการที่ถูกต้องเป็นเช่นนั้น เพราะเดิมที่ประชาธิปัตย์ขอได้ขอในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน เพราะฝ่ายรัฐบาลคนจัด คือนายกรัฐมนตรี ดังนั้นอีกฝ่ายควรเป็นผู้นำฝ่ายค้านซึ่งเป็นตำแหน่งทางการ และได้รับโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง

เมื่อถามว่า จะมีการกำหนดกรอบการพูดหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า คนเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯควรรู้ว่าสิ่งใดควรหรือไม่ควรที่จะพูดอยู่แล้วเพราะต้องเป็นความรับผิดชอบของคนที่จะพูด

ตะลุยข่าว : THE GREEN POLICE กองปราบฯ สู่ศตวรรษที่ 21

ในขณะที่หลายประเทศทั่วโลกสามารถระงับยับยั้งปัญหาอาชญากรรมให้ลดลงและควบคุมให้อยู่ในวงจำกัดได้ ตรงกันข้ามกับประเทศไทย กลับมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น และมีการกล่าวถึงในระดับนานาชาติว่า

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook