หมออ้อยควงมิ๊กกี้แถลงแต่งสิงหาคม
"หมออ้อย - จุฑารัตน์ อัตถากร" จูงมือว่าที่เจ้าบ่าว "มิกกี้ ณัฐพงศ์ ชอบชื่น" ประกาศวิวาห์ฟ้าแล่บ หลังศึกษาดูใจใช้ชีวิตร่วมกันมากว่า 5 เดือน โดยหมออ้อย ได้เปิดเผยว่า เรียก สินสอด 5 ล้าน แหวนเพชร 3 กะรัต ทองคำหนักอีก 20 บาท โดยฝ่ายชายได้ซื้อคอนโดเป็นเรือนหอไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทั้งคู่ได้ฤกษ์แต่งในเดือนสิงหาคม และจะแถลงข่าวให้ทราบ ในวันที่ 27 มิถุนายน นี้ ซึ่งทั้งคู่ได้เปิดใจให้สื่อฟังว่าทำไมถึงตัดสินใจแต่งงานรอบ 2
หมออ้อย : ''ทำไมถึงตัดสินใจแต่งงาน เพราะว่า ผู้ชายขอขบวนสุดท้ายแล้ว ถ้าเกิดไม่เซย์เยส อาจจะไม่มีโอกาสได้แต่งงาน อยากใส่ชุดเจ้าสาวด้วย ถ่ายแบบมาตั้งหลายครั้ง แต่ว่าไม่เคยได้ใส่จริงๆ'' มิกกี้ : ''ตอนแรกผมก็ถามว่าคิดยังไง ถ้าสมมติว่า เราจะแต่งงานกันจะเป็นไปได้มั้ย ไว้ใจมั้ยที่จะให้เขาดูแลชีวิตของตัวเองต่อไปในภายภาคหน้า ก็ขอเขาที่ทะเลแห่งนึง เมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา''หมออ้อย : ''ตอนนั้นยังไม่คิดอะไรมาก เวลามันสั้นไป ก็เลยยังไม่ตอบอะไร เพียงแต่ว่า เดี๋ยวขอเวลาก่อน พอกลับมาก็มานั่งคิด 2 - 3 อาทิตย์ว่า เราพร้อมหรือยังที่จะไปใช้ชีวิตกับอีกคนนึง ก็เลยตอบรับเขาทางเฟซบุ๊ก เขียนว่า ''คำถามที่ว่าคุณรักผมมั้ย มันควรจะเป็นว่าฉันจะไม่รักคุณได้อย่างไร แต่งงานกันนะ จุ๊บๆๆ'' ตอนนั้นเป็นการตอบแบบเขินๆ อยู่''ก่อนหน้านี้บอกว่าจะไม่แต่งงานรอบสองหมออ้อย : ''ที่บอกเพราะว่า ตอนนั้นเรายังไม่เจอใครสักคนนึง ที่อยากจะอยู่กับเราจริงๆ เพราะเราไม่รู้ว่า ผู้ชายที่เข้ามาความรู้จักเราต้องการอะไรหรือเปล่า พอมาเจอ มิกกี้ เขาแตกต่างโดยสิ้นเชิง เขาไม่ต้องการอะไรเลย แม้แต่เงินบาทเดียว เขามีศักดิ์ศรีของเขาเยอะพอสมควร ไม่ยอมที่จะไปอยู่บ้านเรา ทั้งที่บ้านหลังใหญ่โต อยู่สบาย แต่เขาเลือกที่จะไม่อยู่ เขาอยากให้เราไปอยู่ในที่ของเขา เพื่อจะได้สบายใจ เขาเก็บเงินซื้อรถ ซื้อบ้านเอง โดยไม่ต้องรบกวนครอบครัว''หลายคนมองว่า เขามาเกาะเราดัง หมออ้อย : ''เขาคงไม่ได้เกาะกระแสอะไรดัง เพราะตัวเขาก็ทำงานในวงการมานานมากแล้ว เพียงแต่ว่า บางคนที่ไม่ได้เป็นสื่อ ภาพพจน์ที่แรงๆ ก็อาจจะไม่มีคนรู้จัก ดาราที่ดังเขาร่วมงานมาหมดเลย ฉะนั้นการที่เจอ หมออ้อย ไม่ใช่เรื่องแปลกของเขา อีกอย่าง ตัวหมออ้อย เองคงไม่ดังไปกว่านี้แล้ว อย่างที่พูด'' มีกระแสว่า มิกกี้ แอ๊บแมนหรือเปล่า มิกกี้ : ''ที่คนหาว่า ผมแอ๊บแมนหรือเปล่า ผมถามทุกคนคำว่า เกย์ ของคุณเอาอะไรมาตัดสินว่า ผู้ชายคนนั้นเป็นเกย์ ถ้าคุณบอกว่า ผู้ชายคนนั้นกอดกับผู้ชาย ให้ความรักกับผู้ชายได้หรือว่าผู้ชายคนนั้นต้องนอนกับผู้ชาย มีอะไรกันถึงจะเป็นเกย์ ถ้าถามผม ผมไม่เคยมีอะไรกับผู้ชาย ไม่ได้เป็นเกย์ ผมมีความรักให้ผู้ชายมั้ย แน่นอนผมมีความรักให้พ่อผม ฉะนั้นน่าจะชัดเจนนะว่า ผมไม่ใช่เกย์'' แต่งแล้วมีลูกเลยมั้ย หมออ้อย : ''ปล่อยเป็นธรรมชาติ ไม่ได้ไปขออะไรเยอะแยะมากมาย บอกเขาแล้วว่า ถ้ามีได้ก็มี ถ้ามีไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เขาก็ยอมรับได้ (แต่งแล้วจะไปฮันนีมูนที่ไหน?) คงเป็นในประเทศไทย เขาชอบเมืองไทย เกาะหลีเป๊ะ หรือ อาจจะเป็นเขาใหญ่ที่เราเจอกันครั้งแรก'' ได้ฤกษ์แต่งหรือยัง มิกกี้ : ''มีอยู่สองฤกษ์ประมาณเดือนสิงหาคม" หมออ้อย : ''แต่ไม่รู้จะทันหรือเปล่า มันฉุกเฉินมาก ทางครอบครัวคุณมิกกี้ใจร้อน จดทะเบียนสมรสเลยมั้ย "ยังไม่จด เพราะว่าเราจะอยู่กันสักพักนึงก่อน คุณมิกกี้เขาเกรงว่า จะมาทำให้หลายๆ คน มองเขาจะมาแบ่งสมบัติกับเรา จดไม่จดมันไม่ใช่ปัญหา นามสกุลเขาก็น่ารักดี เขาก็โชว์ศักดิ์ศรีออกมายังไม่จด จนกว่าจะมีลูก ส่วนเรือนหอคุณมิกกี้ ไปซื้อคอนโดไว้แล้ว ย่านรามอินทรา เพราะว่าใกล้ครอบครัวเขาด้วย เขาไม่อยากจะไปไกลจากครอบครัว เรารักครอบครัวมาก ไม่อยากจะไปไกลจากครอบครัว (สินสอดล่ะ?) คุณแม่พูดเล่นๆ ว่า 5 ล้าน แหวน 3 กะรัต ทองอีกประมาณ 20 กว่าบาท ไม่มีปัญหาใช่มั้ย" มิกกี้ : ''ไม่มีปัญหาอะไรครับ"
หมออ้อย : ''ทำไมถึงตัดสินใจแต่งงาน เพราะว่า ผู้ชายขอขบวนสุดท้ายแล้ว ถ้าเกิดไม่เซย์เยส อาจจะไม่มีโอกาสได้แต่งงาน อยากใส่ชุดเจ้าสาวด้วย ถ่ายแบบมาตั้งหลายครั้ง แต่ว่าไม่เคยได้ใส่จริงๆ'' มิกกี้ : ''ตอนแรกผมก็ถามว่าคิดยังไง ถ้าสมมติว่า เราจะแต่งงานกันจะเป็นไปได้มั้ย ไว้ใจมั้ยที่จะให้เขาดูแลชีวิตของตัวเองต่อไปในภายภาคหน้า ก็ขอเขาที่ทะเลแห่งนึง เมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา''หมออ้อย : ''ตอนนั้นยังไม่คิดอะไรมาก เวลามันสั้นไป ก็เลยยังไม่ตอบอะไร เพียงแต่ว่า เดี๋ยวขอเวลาก่อน พอกลับมาก็มานั่งคิด 2 - 3 อาทิตย์ว่า เราพร้อมหรือยังที่จะไปใช้ชีวิตกับอีกคนนึง ก็เลยตอบรับเขาทางเฟซบุ๊ก เขียนว่า ''คำถามที่ว่าคุณรักผมมั้ย มันควรจะเป็นว่าฉันจะไม่รักคุณได้อย่างไร แต่งงานกันนะ จุ๊บๆๆ'' ตอนนั้นเป็นการตอบแบบเขินๆ อยู่''ก่อนหน้านี้บอกว่าจะไม่แต่งงานรอบสองหมออ้อย : ''ที่บอกเพราะว่า ตอนนั้นเรายังไม่เจอใครสักคนนึง ที่อยากจะอยู่กับเราจริงๆ เพราะเราไม่รู้ว่า ผู้ชายที่เข้ามาความรู้จักเราต้องการอะไรหรือเปล่า พอมาเจอ มิกกี้ เขาแตกต่างโดยสิ้นเชิง เขาไม่ต้องการอะไรเลย แม้แต่เงินบาทเดียว เขามีศักดิ์ศรีของเขาเยอะพอสมควร ไม่ยอมที่จะไปอยู่บ้านเรา ทั้งที่บ้านหลังใหญ่โต อยู่สบาย แต่เขาเลือกที่จะไม่อยู่ เขาอยากให้เราไปอยู่ในที่ของเขา เพื่อจะได้สบายใจ เขาเก็บเงินซื้อรถ ซื้อบ้านเอง โดยไม่ต้องรบกวนครอบครัว''หลายคนมองว่า เขามาเกาะเราดัง หมออ้อย : ''เขาคงไม่ได้เกาะกระแสอะไรดัง เพราะตัวเขาก็ทำงานในวงการมานานมากแล้ว เพียงแต่ว่า บางคนที่ไม่ได้เป็นสื่อ ภาพพจน์ที่แรงๆ ก็อาจจะไม่มีคนรู้จัก ดาราที่ดังเขาร่วมงานมาหมดเลย ฉะนั้นการที่เจอ หมออ้อย ไม่ใช่เรื่องแปลกของเขา อีกอย่าง ตัวหมออ้อย เองคงไม่ดังไปกว่านี้แล้ว อย่างที่พูด'' มีกระแสว่า มิกกี้ แอ๊บแมนหรือเปล่า มิกกี้ : ''ที่คนหาว่า ผมแอ๊บแมนหรือเปล่า ผมถามทุกคนคำว่า เกย์ ของคุณเอาอะไรมาตัดสินว่า ผู้ชายคนนั้นเป็นเกย์ ถ้าคุณบอกว่า ผู้ชายคนนั้นกอดกับผู้ชาย ให้ความรักกับผู้ชายได้หรือว่าผู้ชายคนนั้นต้องนอนกับผู้ชาย มีอะไรกันถึงจะเป็นเกย์ ถ้าถามผม ผมไม่เคยมีอะไรกับผู้ชาย ไม่ได้เป็นเกย์ ผมมีความรักให้ผู้ชายมั้ย แน่นอนผมมีความรักให้พ่อผม ฉะนั้นน่าจะชัดเจนนะว่า ผมไม่ใช่เกย์'' แต่งแล้วมีลูกเลยมั้ย หมออ้อย : ''ปล่อยเป็นธรรมชาติ ไม่ได้ไปขออะไรเยอะแยะมากมาย บอกเขาแล้วว่า ถ้ามีได้ก็มี ถ้ามีไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เขาก็ยอมรับได้ (แต่งแล้วจะไปฮันนีมูนที่ไหน?) คงเป็นในประเทศไทย เขาชอบเมืองไทย เกาะหลีเป๊ะ หรือ อาจจะเป็นเขาใหญ่ที่เราเจอกันครั้งแรก'' ได้ฤกษ์แต่งหรือยัง มิกกี้ : ''มีอยู่สองฤกษ์ประมาณเดือนสิงหาคม" หมออ้อย : ''แต่ไม่รู้จะทันหรือเปล่า มันฉุกเฉินมาก ทางครอบครัวคุณมิกกี้ใจร้อน จดทะเบียนสมรสเลยมั้ย "ยังไม่จด เพราะว่าเราจะอยู่กันสักพักนึงก่อน คุณมิกกี้เขาเกรงว่า จะมาทำให้หลายๆ คน มองเขาจะมาแบ่งสมบัติกับเรา จดไม่จดมันไม่ใช่ปัญหา นามสกุลเขาก็น่ารักดี เขาก็โชว์ศักดิ์ศรีออกมายังไม่จด จนกว่าจะมีลูก ส่วนเรือนหอคุณมิกกี้ ไปซื้อคอนโดไว้แล้ว ย่านรามอินทรา เพราะว่าใกล้ครอบครัวเขาด้วย เขาไม่อยากจะไปไกลจากครอบครัว เรารักครอบครัวมาก ไม่อยากจะไปไกลจากครอบครัว (สินสอดล่ะ?) คุณแม่พูดเล่นๆ ว่า 5 ล้าน แหวน 3 กะรัต ทองอีกประมาณ 20 กว่าบาท ไม่มีปัญหาใช่มั้ย" มิกกี้ : ''ไม่มีปัญหาอะไรครับ"
สนับสนุนเนื้อหา
