เกาะติด! ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล

เกาะติด! ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล

เกาะติด! ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันนี้และวันพรุ่งนี้ ( 31 พ.ค. - 1 มิ.ย. 53) พรรคเพื่อไทยยื่นญัตติอภิรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี 6 คน คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ทีมงาน S!News เกาะติดทุกความเคลื่อนไหวมานำเสนอ

 

"สุชาติ" จี้นายกฯ ขอโทษประชาชน 

นายสุชาติ ลายน้ำเงิน พรรคเพื่อไทย จ.ลพบุรี อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ว่าเหตุการณ์ความรุนแรง ที่รัฐบาลเอาทหารมาสลายการชุมนุม ทั้งๆ ที่เป็นคนที่มาชุมนุมตามสิทธิรัฐธรรมนูญ  ถึงวันนี้ ยังไม่ได้ยินนายกฯขอโทษ เมื่อรังแกกันได้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง ต่อไปทหารจะเดินถนน ไม่ได้ เหมือน 14 ตุลาคม 2516 ประชาชนเกลียดทหาร

พร้อมกันนี้นายสุชาติ แสดงภาพของพระที่มาร่วมชุมนุม โดยบอกว่า ให้ดูน้ำตาของพระ ภาพที่หลุดออกมา เอาเชือกมัดไพล่หลัง พระรูปนี้ ชื่อพระประเสริฐ สุรปัญโญ อายุ 48 ปี คนลพบุรี อีกรูปคือ พระสมบูรณ์ มุทุกัณฑ์ ถูกจำคุกแดน 9 เป็นพระจาก จ.อุบลราชธานี พระมาเพื่อจะมาบอกว่า อย่ายิงประชาชน 

อย่างไรก็ตาม นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ชี้แจงว่า เรื่องพระ พฤติกรรมในที่ชุมนุม แยกแยะได้ยากว่าเป็นพระหรือคนห่มผ้าเหลือง โดยกล่าวว่า 4 คนไม่ได้เป็นพระ วันนี้อยู่ในคุก เพราะเป็นผู้ต้องหา จับกุมได้ซึ่งหน้า เป็นความผิดซึ่งหน้า  มหาเถรสมาคม บอกว่า ความผิดซึ่งหน้า สามารถสึกได้ และขณะจับกุม ไม่มีผ้าเหลืองแล้ว ถ้าพระไม่ตีทหาร จะถูกจับหรือไม่ อยู่ในที่อโคจร เป็นแค่คนห่มผ้าเหลือง จะหาว่า ผมไม่ใช่คนพุทธ ผมบวชที่วัดสวนโมกข์ "นายสุเทพ กล่าว

 

โชว์ภาพ 'ไอ้โม่งบนบีทีเอส'ซุ่มยิงคนในวัดปทุม 

นอ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ได้นำภาพนิ่ง ไอ้โม่ง ที่ถ่ายไว้ในช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา โดยรูปดังกล่าวมีลักษณะแต่งชุดธรรมดาพร้อมอาวุธปืน อยู่อยู่ปะปนกับทหาร พร้อมนำรูปชายชุดดำถือปืน บนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส โดยยืนยันว่า เป็นเจ้าหน้าที่แฝงตัวเข้ามา พร้อมกับกล่าวว่า นายสุเทพ เคยชี้แจงเรื่องนี้ว่า ผู้ที่ยิงเป็นกลุ่มโจรผู้ร้าย แต่ความจริงเป็นทหารสวมหมวกเหล็กมีสัญญลักษณ์สีชมพูติดอยู่ และบนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส.หน้าวัดปทุมฯ วันที่ 19 พ.ค. ก่อนเกิดเหตุยิง 6 ศพ นี่คือโจรผู้ร้าย 

ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวว่า ภาพทหารอยู่บนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส โดยมีการอ้างว่าเป็นภาพทหารในเวลา 18.30 น.ของวันที่ 19 พ.ค. ขอเรียนว่าภาพนี้เป็นภาพที่เป็นปัญหาอยู่ตลอดในเวลานี้ และคงจะต้องมีการพิสูจน์กันว่าเป็นภาพที่ถ่ายในวันที่ 19 พ.ค. ในเวลา 18.30 น.จริงหรือไม่ ทั้งนี้จากการซักถามเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ปฏิบัติงานในวันที่ 19 พ.ค. ยืนยันว่า ณ จุดที่ปรากฎภาพนี้อยู่ในเวลา 18.30 น. ไม่มีเจ้าหน้าที่ทหารอยู่บนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส โดยเจ้าหน้าที่ชุดที่เคลื่อนที่มาจากสี่แยกปทุมวันมาได้แค่แยกเฉลิมเผ่า โดยไม่สามารถเข้ามาที่บริเวณดังกล่าวได้ ในขณะนั้น มีเพียงเจ้าหน้าที่ที่พยายามเข้าไปคุ้มครองเจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็ถูกฝ่ายผู้ก่อการร้ายยิงใส่จนต้องถอยไปยังสถานรถไฟฟ้าบีทีเอส

อนุดิษฐ์ ซัด ชุมชนพอเพียง สอบโกงไม่คืบ 

นาวาเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส. กรุงเทพ พรรคเพื่อไทย อภิปรายซักฟอก การทุจริต โครงการพระราชดำริ โครงการชุมชนพอเพียง มูลค่า 21,000 ล้านบาท ที่มีการเบิกไปแล้ว 6 ,000 ล้าน โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร เบิกไปแล้ว 200 ชุมนุม อุปกรณ์ตู้น้ำพลังแสนอาทิตย์ ตู้ละ 3 แสนบาท จากบริษัทเดียวกันไม่มีการตรวจสอบ เซ็นอนุมัติโครงการกันเอง ราคาแพงกว่าจริงหลายเท่า และมีการสอบสวนกันเอง จนถึงวันนี้ไม่มีใครต้องรับผิด 

ต่อมา นาวาเอก อนุดิษฐ์ ได้อภิปรายต่อมาในเรื่องการสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง อันเป็นการกระทำผิดละเมิดกฎหมาย เมื่อวันที่ 10 เมษายน เป็นการไม่ปฎิบัติตามหลักสากล มีการใช้อาวุธสงคราม เมื่อยิงกระสุนขึ้นไปเมื่อตกลงมาก็ทำให้บาดเจ็บ การใช้อากาศยานโดยไม่ชอบ มีการโยนแก๊สน้ำตา มีการสั่งให้ทหารสลายในเวลากลางคืน มีการสร้างตัวละครไอ้โม่ง หรือ กองกำลังไม่สังกัดฝ่าย ทั้งๆ ที่จับไม่ได้สักคน และได้แสดงรูปผู้เสียชีวิต โดยอ้างว่าเป็นการเสียชีวิตของนายเกรียงไกร คำน้อย คนขับรถสามล้อ จากจ.ร้อยเอ็ด 

น.อ. อนุดิษฐ์ อภิปรายต่อไปว่า อาวุธปืน เอ็ม 16 มีอานุภาพรุนแรง เพราะกระสุนยิงไปได้ไกล 4 กิโลเมตร และกระสุนมีความเร็วที่ตกลงพื้น 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีกระสุนที่ตกลงมาจากฟ้าทำให้คนเสียชีวิต ในหลายประเทศห้ามการยิงปืนขึ้นฟ้า มีคนเสียชีวิตเพราะกระสุนปืนตกจากฟ้าหลายราย ในวันที่ 10 เมษายน หลายคนอยู่นอกการชุมนุมก็ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปริศนา เชื่อว่า โดนกระสุนตกใส่ เป็นการฆาตกรรมที่รัฐปฎิเสธความรับผิดชอบไม่ได้

นอกจากนี้ ยังมี การละเมิดความปลอดภัยด้านการบิน โดยมีการบินใน เขตห้ามบิน เป็นการละเมิดหลักความปลอดภัย โดยเฉพาะ เขตห้ามบิน เขตพระราชทาน พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ในระยะ 1 ไมล์ทะเล และมีการบินในระดับต่ำ แต่การสลายการชุมนุม มีการสั่งการให้มีการบินในระยะต่ำ และบินในเขตห้ามบิน เป็นความผิดที่ยกเว้นไม่ได้

สภาวุ่น "เอ็นบีที" สัญญาณหาย

เมื่อเวลา 11.35 น. ขณะที่มีการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ นายสุนัย จุลพงศธร และนายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นประท้วง ว่าประชาชนในจังหวัดของตัวเองเกือบทั่วประเทศ โทรมาร้องเรียนว่าไม่สามารถชมการอภิปรายทางช่อง 11 ได้ โดยเฉพาะจังหวัดทางภาคอีสาน

ด้านนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยืนยันว่ามีการถ่ายทอดสดตามปกติ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะคนกลุ่มเสื้อแดงเผาสถานีขอนแก่น ทำให้เครื่องส่งและอุปกรณ์ถ่ายทอดเสียหายทั้งหมด จึงอาจส่งผลกับจังหวัดอื่นๆในพื้นที่ภาคอีสาน อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่มีการตัดสัญญาณจังหวัดไหน รัฐบาลไม่มีแนวทางสกัดกั้น ยืนยันช่อง11 ถ่ายทอดตลอดเวล ทั้งนี้ ช่อง11 ได้เปลี่ยนแปลงการส่งสัญญาณจากดาวเทียมไทยคม 2 ดาวเทียมไทยคม 5 เกือบ 1 เดือนแล้ว ซึ่งหน้าจอก็มีตัววิ่งแล้ว ระบุให้ปรับจานรับที่บ้านไปที่ตำแหน่งใด ทั้งนี้มีช่องไทยพีบีเอสก็ถ่ายทอดสดด้วย

ยื่น 12 เหตุผล ถอดถอนนายกรัฐมนตรี

นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน เป็นผู้กล่าวเสนอญัตติ การขอเปิดอภิปรายเป็นการทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล พร้อมแนบรายชื่อยื่นถอดถอน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยให้เหตุผล 12 ข้อ ที่นำมาซึ่งการไม่สามารถไว้วางใจให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ เนื่องจากไม่ปฏิบัติหน้าที่บริหารราชการ ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ขาดความรู้ความสามารถ จงใจไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย รวมถึงนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา การบริหารงานไร้ประสิทธิภาพ มีส่วนรู้เห็นละเลย ให้รัฐมนตรีร่วมรัฐบาลทุจริตคอร์รัปชั่น แสวงหาประโยชน์ ถือเป็นการละเว้นการปฏิติหน้าที่โดยมิชอบ ทุจริตเชิงนโยบาย เลือกปฏิบัติ ใช้อำนาจรัฐโดยไม่คำนึงถึงสิทธิความเป็นมนุษย์ จำกัดสิทธิเสรีภาพของบุคคล ในการชุมุนมโดยสงบตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง โดยการสั่งทหารใช้อาวุธสงครามปราบปรามประชาชน ตั้งแต่เดือนเมษายน-พฤษภาคม เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ จำนวนมาก ไม่คุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ ปล่อยให้ถูกละเมิด โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐและบุคคลอื่น กระทำการให้ขยายความแตกแยกในสังคม พฤติกรรมแทรกแซงสื่อ ปิดสื่อฝ่ายตรงข้าม และใช้สื่อของรัฐโจมตีฝ่ายตรงข้าม ไม่อำนวยการยุติธรรมแก่ประชาชน กลั่นแกล้งใส่ร้าย ป้ายสีผู้ชุมนุมโดยสงบ ว่าเป็นผู้ก่อการร้ายโดยไม่เป็นธรรม และสั่งห้ามบุคคลผู้สุจริตทำธุรกรรม กล่าวหาสนับสนุนผู้ก่อการร้าย แต่ขณะเดียวกัน กลับละเว้นดำเนินคดีอีกกลุ่ม ที่กระทำผิดด้วยการบุกยึดสนามบิน และทำเนียบรัฐบาล

นายวิทยา บุรณศิริ ระบุอีกว่า นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังลุแก่อำนาจ บังคับใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือแก่ตนเอง ด้วยการประกาศใช้ พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยไม่มีเหตุผลเงื่อนไขอันควร ปกปิดความผิดของตนเองและพวกพ้อง ด้วยการนำเหตุการณ์สลายการชขุมุนม มาเป็นคดีพิเศษ ไม่สามารถดูแลความปลอดภัย ในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้ ขาดหลักธรรมาภิบาล มีปัญหาทางจริยธรรม บกพร่องในการบริหารราชการแผ่นดิน ด้านการต่างประเทศ ตั้งคนที่กระทำผิดอาญาฐานก่อการร้ายมาเป็นรัฐมนตรี ทำให้ให้นโยบายการต่างประเทศ ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง และส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน ด้านเศรษฐกิจ ไร้วินัยการเงินการคลัง ก่อหนี้สาธารณะโดยมิชอบ รวมถึงการทุจริตโครงการต่าง ๆ 

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญเป็นพิเศษ ได้เริ่มประชุมแล้ว

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญเป็นพิเศษ ได้เริ่มประชุมแล้ว มีวาระสำคัญ คือ การพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล จำนวน 5 คน  สำหรับกรอบเวลาการอภิปรายกำหนดให้ใช้เวลา 2 วัน คือวันที่ 31 พฤษภาคม เริ่มเวลา 09.00-01.00 น. และวันที่ 1 มิถุนายน เริ่มเวลา 08.30-24.00 น. ทั้งนี้ กำหนดกรอบเวลาให้ฝ่ายค้านอภิปราย 18 ชั่วโมง รัฐบาล 13 ชั่วโมงครึ่ง

ล่าสุด นายวิทยา บูรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน เริ่มอ่านญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล จำนวน 5 คน ตามข้อกล่าวหา

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook