นายกฯ เผย เสธ.แดง-ทักษิณ ยังไม่อยากปรองดอง

นายกฯ เผย เสธ.แดง-ทักษิณ ยังไม่อยากปรองดอง

นายกฯ เผย เสธ.แดง-ทักษิณ ยังไม่อยากปรองดอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายกรัฐมนตรีเชิญชวนประชาชนทุกกลุ่ม เข้าร่วมกระบวนการปรองดอง เชื่อแก้ปัญหาชาติได้ ยืนยันไม่มีการซูเอี๋ย เผยมีเพียง เสธ.แดง-พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ยังไม่ยอมรับแผนฯ พร้อมวอนแกนนำ นปช. รีบยุติการชุมนุม เพื่อความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนทุกกลุ่ม ย้ำไม่มีการนิรโทษกรรมกลุ่มก่อการร้าย

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์" โดยได้อธิบายถึงแผนสร้างความปรองดองในชาติทั้ง 5 ข้อว่า จะดำเนินการเทิดทูนเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ และช่วยกันดูแลไม่ให้มีการจาบจ้วงหรือละเมิดสถาบันฯ ใครที่ทำผิดก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย นอกจากนี้ จะมีการยกร่างกฎหมายขึ้นมาดูแลสื่อไม่ให้ถูกนำไปใช้ในการสร้างความแตกแยกใน สังคม รวมทั้งมีองค์กรอิสระขึ้นมาตรวจสอบการทำงานของสื่อด้วย

ส่วนการปฏิรูปประเทศเพื่อสร้างความเป็นธรรมและความเท่าเทียมกันในสังคมนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะจัดประชุมคณะกรรมการสร้างเสริมชุมชนเข้มแข็งแห่งชาติ ในวันที่ 12-13 พฤษภาคม เพื่อวางเป้าหมายการจัดสมัชชาการปฏิรูปประเทศไทยไว้ในวันที่ 20 พฤษภาคม โดยจะมีการสร้างกลไกพิเศษหรือตั้งบุคคลที่เป็นที่ยอมรับของสังคมขึ้นมาทำ งานอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีการเปลี่ยนรัฐบาลก็ตาม

นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันว่า จะมีการตั้งคณะกรรมการอิสระในการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเหตุปะทะกันระหว่าง กลุ่มผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในกระบวนการยุติธรรมและสร้างความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย พร้อมยืนยันว่า จะไม่มีการนิรโทษกรรมให้กลุ่มผู้ก่อการร้าย สำหรับประเด็นการปฏิรูปการเมืองนั้น ต้องมีการหยิบยกข้อขัดแย้งหรือกติกาทางการเมืองขึ้นมาหารือเพื่อหาข้อยุติ แต่คงตอบไม่ได้ว่า จะต้องนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญหรือไม่ อย่างไรก็ตาม กระบวนการที่จะหาข้อยุติตรงนี้ ต้องไม่มีเรื่องที่นักการเมืองจะตกลงกันเอง แต่ต้องมีรูปแบบหรือวิธีการที่จะฟังความคิดเห็นจากคนที่ไม่ใช่นักการเมือง ด้วย และตนขอยืนยันว่า จะไม่มีการแก้กติกาใด ๆ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่พรรคประชาธิปัตย์ที่สังกัดอยู่

"ไม่ว่าเหตุการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน จะคลี่คลายไปในทางใด รัฐบาลจะเป็นผู้นำในการทำเรื่องนี้และได้เริ่มต้นแล้ว จึงขอเชิญชวนประชาชนทุกกลุ่มให้เข้ามาร่วมในกระบวนการปรองดองนี้ เพราะผมมั่นใจว่า คือคำตอบของประเทศไทยในปัจจุบัน" นายกรัฐมนตรี กล่าว

ส่วนเหตุการณ์ลอบยิงตำรวจ-ทหารที่บริเวณสีลมเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมานั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้มีคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่ยอมรับแผนปรองดองก็คือ กลุ่มก่อการร้าย เพราะเมื่อไหร่ การชุมนุมยุติลงและแผนปรองดองเดินหน้าได้อย่างเต็มที่ กลุ่มก่อการร้ายดังกล่าว จะเป็นกลุ่มที่แปลกแยกในสังคมและถูกจับดำเนินคดี ดังนั้น จึงพยายามสร้างความรุนแรงเพื่อล้มแผนปรองดอง

"มีคนที่แสดงตัวชัดเจนไม่ยอมรับแผนปรองดองก็คือ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง และมีความพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะไม่ให้การชุมนุมยุติลง นอกจากนี้ เสธ.แดง ยังพูดอย่างชัดเจนว่า จะประสานงานกับแกนนำคนเสื้อแดงในส่วนภูมิภาค เพื่อนำมาคัดค้านแกนนำในส่วนกลางที่ตอบรับกระบวนการปรองดอง และ เสธ.แดง ยังบอกด้วยว่า จะฟัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และผมก็กล้าพูดได้เช่นกันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่พอใจแผนปรองดองฯ เพราะไม่มีอะไรที่เป็นผลประโยชน์ส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ" นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การที่แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ตอบรับแผนปรองดอง แต่ยังไม่ยุติการชุมนุม ความเสี่ยงที่กลุ่มผู้ก่อการร้ายจะใช้ความรุนแรงอีกมีสูงมาก ดังนั้น ไม่อยากให้ลังเล หากแกนนำ นปช. ยืนยันว่า จะเข้าร่วมกระบวนการปรองดอง ควรรีบยุติการชุมนุมเพื่อความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนทุกกลุ่ม

"อย่าไปคิดว่า เป็นเรื่องที่จะต้องเอาชนะ อย่าไปคิดเป็นเรื่องว่าจะเสียหน้า อย่าไปคิดถึงประโยชน์ส่วนตัวเลยครับ บ้านเมืองเสียหายมามากแล้ว รัฐบาลเองเสนอแผนนี้ก็ถูกต่อว่าต่อขานจากผู้สนับสนุนเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้น ถ้ามีความจริงใจต้องสามารถที่จะประกาศยกเลิกการชุมนุมได้โดยเร็ว ที่แกนนำพูดว่า วันที่ 15 พฤษภาคม ช้าไปครับ เพราะนอกจากมีความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัย ยังมีความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ส่วนโรงเรียนก็กำลังจะเปิดเทอม" นายกรัฐมนตรี กล่าวและว่า วันนี้หรือพรุ่งนี้ควรจะมีคำตอบที่ชัดเจน เพื่อเราจะได้ทำงานร่วมกันต่อไป เดินหน้าบังคับใช้กฎหมายแยกผู้ก่อการร้ายดำเนินคดี และร่วมกันสร้าง หาคำตอบทางการเมือง ที่นำไปสู่ความปรองดองอย่างแท้จริง"

ส่วนการประกาศเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 14 พฤศจิกายนนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประกาศวันเลือกตั้งใหม่ ไม่ได้เป็นการทำตามคำขู่ แต่เป็นไปบนพื้นฐานหลักคิดเดิม คือ จะมีการเลือกตั้งเมื่อบ้านเมืองมีความสงบสุข ดังนั้น จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤศจิกายนได้ ก็ต่อเมื่อทุกฝ่ายได้แสดงออกเป็นรูปธรรม ในการเข้ามาร่วมในกระบวนการปรองดอง เช่น การชุมนุมต้องยุติลง และกลุ่มการเมืองต่าง ๆ สามารถทำหน้าที่ของตนเองได้ โดยไม่มีการขัดขวาง หากยังทำไม่ได้ การเลือกตั้งก็เกิดขึ้นไม่ได้

นายกรัฐมนตรี ยังได้ขอบคุณประชาชนที่โทรศัพท์หรือส่งเอสเอ็มเอสมาให้กำลังใจ ส่วนผู้ที่ต่อว่าต่อขานหรือยังเรียกร้องให้ลาออกเพราะขี้ขลาดหรือไม่กล้า จัดการปัญหา ตนขอชี้แจงว่า สิ่งที่คนไม่ปรารถนาดีต่อบ้านเมืองในขณะนี้ต้องการเห็นมากที่สุด คือ การเปลี่ยนแปลงรัฐบาลในทันทีหรือการให้ตนลาออก และขอยืนยันว่า ตนไม่เคยตกลงกับใครในเรื่องของผลประโยชน์ส่วนตัวแน่นอน และไม่มีประโยชน์ส่วนตัวอะไรที่ได้รับจากการปรองดองในครั้งนี้

"เมื่อผมอาสามาแล้ว ผมก็ต้องทำหน้าที่เต็มที่ ถ้าผมกลัว ผมลาออกไปแล้ว แต่เมื่อผมอยู่และต้องตัดสินใจ แม้จะขัดใจคนทุกกลุ่มในบางเรื่องแต่เพื่อประโยชน์ส่วนรวม ผมถือว่า นั่นไม่ใช่ความอ่อนแอ ไม่ใช่การขี้ขลาด หรือหนีปัญหา ผมจะทำหน้าที่ของตนเองอย่าเข้มแข็งต่อไป ผมตั้งใจจะฝ่าวงล้อมของวิกฤตตรงนี้ออกไปให้ได้ และพร้อมที่จะรับผิดชอบกับทุกการตัดสินใจที่เกิดขึ้น" นายกรัฐมนตรี กล่าว

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook