เกิดอะไรขึ้น? สาวใหญ่ถูกลอตเตอรี่ 36 ล้าน แต่ชีวิตพังใน 4 ปี เสียธุรกิจ แถมมีหนี้ก้อนโต!!!
Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
//s.isanook.com/ns/0/ud/1837/9189558/newnewnewnewnewnewnew-thumbna.jpgเกิดอะไรขึ้น? สาวใหญ่ถูกลอตเตอรี่ 36 ล้าน แต่ชีวิตพังใน 4 ปี เสียธุรกิจ แถมมีหนี้ก้อนโต!!!

เกิดอะไรขึ้น? สาวใหญ่ถูกลอตเตอรี่ 36 ล้าน แต่ชีวิตพังใน 4 ปี เสียธุรกิจ แถมมีหนี้ก้อนโต!!!

แชร์เรื่องนี้

 สาวใหญ่ถูกลอตเตอรี 36 ล้าน แต่จบลงด้วยการสูญเสียธุรกิจ ชีวิตพังใน 4 ปี แถมมีหนี้ก้อนโต หลังจากความผิดพลาดครั้งสำคัญ

ทุกคนล้วนฝันอยากถูกลอตเตอรี่แล้วรวยในข้ามคืน แต่ในความเป็นจริง หลายคนที่ถูกรางวัลใหญ่กลับไม่ได้มีตอนจบที่ดีนัก Lisa Arcand คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวจากสหรัฐฯ คือหนึ่งในนั้น เธอเคยถูกรางวัลแจ็กพอตเกือบ 800,000 ปอนด์ (มากกว่า 36 ล้านบาท) แต่เงินก้อนโตนั้นกลับทำลายชีวิตเธอภายในเวลาเพียง 4 ปี ปัจจุบันต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากและเผชิญกับหนี้ก้อนใหญ่

ใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือยหลังถูกลอตเตอรี่

หลังถูกรางวัล ลิซ่าเริ่มใช้ชีวิตอย่างสุขสบายตามความฝัน เธอจัดงานปาร์ตี้ให้ครอบครัวและเพื่อน ย้ายลูกชายไปเรียนในโรงเรียนเอกชนราคาแพง และใช้จ่ายโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง เพราะเชื่อว่าเงินในมือจะทำให้ทุกอย่างกลายเป็นเรื่องเล็กน้อย

ละเลยคำแนะนำที่อุตสาหกรรมลอตเตอรีให้ไว้

ตอนที่ได้รับรางวัล อุตสาหกรรมลอตเตอรีแนะนำให้ลิซ่ารับเงินปีละ 25,000 ปอนด์ (ประมาณ 1 ล้านบาท) เพื่อควบคุมการใช้จ่าย แต่เธอกลับเลือกเชื่อคำยุยงจากบริษัทการเงินที่ชักจูงให้รับเงินทั้งหมดในคราวเดียวเพื่อนำไปลงทุน

ลงทุนล้มเหลว ใช้เงินเกินตัว

แม้จะบอกว่าจะนำเงินไปลงทุน แต่ลิซ่ากลับใช้เพียงส่วนน้อยเพื่อเปิดร้านอาหารทะเล ส่วนใหญ่หมดไปกับการท่องเที่ยวหรูหรา ซื้อบ้านใหม่ และสินค้าแบรนด์เนม จนในที่สุดธุรกิจร้านอาหารของเธอก็ล้มเหลวภายในเวลาเพียง 6 เดือน เนื่องจากขาดประสบการณ์ด้านการบริหาร

ชีวิตพังและกลายเป็นหนี้

หลังจากธุรกิจล้มเหลว ลิซ่าต้องเริ่มควบคุมการใช้จ่ายอย่างเข้มงวด และต้องเผชิญกับหนี้สินจำนวนมาก เธอยอมรับว่าความฝันที่เคยดูสวยงามกลับกลายเป็นฝันร้ายในชีวิตจริง

บทเรียนจากลอตเตอรี่

เมื่อให้สัมภาษณ์ ลิซ่ากล่าวว่า “ถูกลอตเตอรี่ไม่ใช่ชีวิตแบบที่ผู้คนคิด มันเหนื่อยจริงๆ” ประสบการณ์ของเธอกลายเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของผู้ถูกรางวัลใหญ่ที่ไม่สามารถจัดการชีวิตใหม่ได้อย่างเหมาะสม

 

 

ขอขอบคุณ

ข้อมูล :the mirror