ผมคิดว่าต้องรีบถอดชนวน

ผมคิดว่าต้องรีบถอดชนวน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ดูท่าว่าการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงจะยืดเยื้อกว่าที่ทุกฝ่ายคาดหมาย แต่นั่นก็ไม่สำคัญเท่ากับการที่ทุกคนอยากรู้ว่า ท้ายที่สุดแล้ว การชุมนุมครั้งนี้จะมีทางออกอย่างไร ทีมการเมืองเดลินิวส์ ได้สัมภาษณ์ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ถึง ทางออก ที่น่าจะเป็นไปได้

**การชุมนุมจะยืดเยื้อหรือไม่และทางออกของทั้งฝ่ายรัฐบาลและกลุ่มเสื้อแดงจะเป็นอย่างไร

เดิมทีผมเข้าใจว่าไม่กี่วันก็จะยุติ ผู้ชุมนุมเองก็คาดหวังว่าไม่กี่วันก็จะประสบความสำเร็จ แต่รัฐบาลก็ไม่ได้ประกาศยุบสภา ความจริงก็ขึ้นอยู่ว่าตั้งเป้าความสำเร็จอย่างไร ถ้าในแง่ของจำนวนผู้มาชุมนุมคัดค้านรัฐบาลอย่างสันติผมก็ถือว่าสำเร็จแล้ว แต่ถ้าประกาศความสำเร็จอย่างนี้แล้วก็เลิกกันไป มันก็เลยจุดนั้นมาแล้ว เท่าที่ผมมองการชุมนุมน่าจะยืดเยื้อออกไป ซึ่งก็ยังไม่มีใครบอกได้ว่าจะยุติอย่างไร ถ้า ผู้ชุมนุมยืนยันใช้สันติ ไม่ผิดกฎหมายก็ไม่น่าเป็นห่วงอะไรมากและหลังจากแกนนำได้ประกาศแยกชัดเจนระหว่างฝ่ายสันติและแนวทางอื่น ความน่าเป็นห่วงที่ผู้ชุมนุมจะแตกแถวไปทำในสิ่งที่เกิดความรุนแรงก็ไม่น่าจะมี เหลือแต่การสร้างสถานการณ์จากมือที่ 3 หรือรัฐบาลอดทนไม่พอแล้วใช้ความรุนแรงสลายซึ่งก็ต้องติดตามและหาทางป้องกัน ที่สำคัญรัฐบาลต้องหยุดสร้างข่าว ตีความเมื่อมีเหตุการณ์โดยพยายามโยงให้เป็นของคนเสื้อแดง เพราะจะทำให้เกิดความหวาดระแวงโกรธแค้นได้ อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวการลงทุนโดยเฉพาะการออกมาบอกว่าจะเกิดวินาศกรรม ซึ่งสร้างความเสียหายต่อการลงทุนยิ่งกว่าการชุมนุมไม่รู้เท่าไหร่

ถามว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ ที่ผ่านมาผู้เกี่ยวข้องทั้งภาคเอกชน และสื่อมวลชนก็ดีต่างมองคล้าย ๆ ว่าคล้อยตามไปกับรัฐบาลว่าหากปล่อยไปอย่างนี้ก็เลิกกันไปเอง แล้วพยายามพูดไม่เอาด้วยกับผู้ชุมนุมรวมทั้งไม่สนใจ ไม่ให้ความสำคัญว่าเขาเรียกร้องอะไร ปัญหาอยู่ที่ว่าแล้วเขาจะเลิกจริงหรือไม่ ถ้ายืดเยื้อไปบนความเสี่ยง อย่างที่ผมว่า มันก็ไม่เป็นผลดี การชุมนุมวันนี้มันเลย พ.ต.ท.ทักษิณ ไปแล้ว มาดูดี ๆ จะพบว่าเขาไม่พอใจความไม่เป็นประชาธิปไตย ความไม่ยุติธรรม รัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตย รัฐบาลมีที่มา ไม่ชอบธรรม แต่ปรากฏว่าทางหนึ่งก็ปิดกันหมด เพราะพรรคประชา ธิปัตย์ไม่เห็นด้วยที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 แม้แต่มาตราเดียว เขาก็เหลือข้อเรียกร้องเดียวคือยุบสภา โดยหวังให้ประชาชนตัดสิน หากรัฐบาลยังยืนยันกระต่ายขาเดียวอยู่ เรื่องมันก็จะยืดเยื้อไปอย่างนี้ หากไม่ไปแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ความขัดแย้งก็จะอยู่ในสังคมไทยต่อไป เป็นความเข้าใจผิดมากที่คิดว่าปล่อยไป ผู้ชุมนุมก็จะเหนื่อยและเลิกไปเองมันไม่ใช่เลย

**นายกฯบอกว่าข้อเรียกร้องให้ยุบสภาไม่ใช่เป้าหมายที่แท้จริงและบรรยากาศความขัดแย้งไม่เอื้อต่อการเลือกตั้ง

เรื่องเป้าหมายที่แท้จริงเป็นอะไรก็เป็นเรื่องที่สามารถตรวจสอบ มีสิทธิที่จะถามได้ แต่ว่าการเรียกร้องให้ยุบสภา แน่นอนไม่ได้หมายถึงว่าเมื่อยุบสภาแล้วผู้ชุมนุมก็พอใจแยกยกันไปโดยไม่ได้สนใจการเมืองอีกต่อไป แต่การยุบสภาหมายถึงการคืนอำนาจให้ประชาชนตัดสินว่าใครจะเป็นรัฐบาล และในการเลือกตั้งนั้นก็ให้พรรคการเมืองเสนอนโยบายเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ดังนั้นคนที่เสนอให้ยุบสภาเขาก็คาดหวังว่าจะให้ประชาชนมาตัดสินเลือกรัฐบาลอย่างที่ต้องการ ส่วนเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญผมว่าก็ต้องมีต่อไป ถ้าพิจารณาแง่นี้ผมว่าเขาก็มีสิทธิที่จะมีเป้าหมายมากกว่านั้น ซึ่งสิ่งที่เขาต้องการก็ให้ประชาชนตัดสิน ผมว่ามันก็ยุติธรรมสำหรับการปกครองระบอบประชาธิปไตย แต่สิ่งที่รัฐบาลพูดอาจเป็นการพูดเพื่อให้คนเข้าใจว่าต้องการล้มสถาบัน เปลี่ยนระบบซึ่งผู้เกี่ยวข้องทั้งหลายเขาก็พูดกันชัดเจนแล้ว ว่าที่เขาสู้เพื่อให้มีระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพียงแต่เขาบอกว่าที่ปกครองอยู่มันไม่เป็นประชาธิปไตย

ส่วนเรื่องบรรยากาศไม่เอื้อ เป็นเหตุผล 1 ใน 3 ข้อของนายกรัฐมนตรีที่จะไม่ยุบสภา เหตุผลจริง ๆ คือจะไม่ยุบสภาจะอยู่ในอำนาจให้นานที่สุด บรรยากาศที่ว่าไปหาเสียงไม่ได้ ต้องให้ชัดเจนก่อนว่าหาเสียงได้จึงยุบสภา เป็นการพูดแบบไม่รู้จะพิสูจน์กันยังไง แต่ถ้าเอา จริง ๆ มันเป็นเรื่องที่พูดกันได้ เพราะว่าฝ่ายที่เขาชุมนุมเขาบอกแล้วว่า ถ้ามีการเลือกตั้ง เขาจะไม่คัดค้านล้มรัฐบาลอีก มันก็ต้องพูดกันได้ในระหว่างหาเสียงต่างคนต่างหา ไม่ระรานกัน ผมเชื่อว่าพูดไม่ยากเลยส่วนที่บอกว่าให้เศรษฐกิจดีก่อน ตอนนี้รัฐบาลก็พูดแล้วว่าเศรษฐกิจดีขึ้นแล้ว เหตุผลข้อนี้ก็หมดไปไม่มีน้ำหนัก มันก็เหลือข้อหนึ่งที่นายกรัฐมนตรีพูดเสมอคือต้องแก้กติกาให้เป็นที่ยอมรับเสียก่อน แต่พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองเดียวในสภาที่ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 แม้แต่มาตราเดียว แต่นายอภิสิทธิ์ในฐานะนายกรัฐมนตรีกลับบอกเงื่อนไขว่าจะยุบสภาต่อเมื่อมีการแก้รัฐธรรมนูญ การพูดอย่างนี้ก็คือไม่ยุบสภาตลอดไปนั่นเอง อันนี้มันต้มกันชัด ๆ

**ทางออกที่คิดว่าดีที่สุด สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นคือทางไหน

ผมมองว่าทางออกของวันนี้เราต้องก้าวเข้าไปหาที่ต้นเหตุให้ได้มากที่สุดและดำเนินการแก้ไขต้นเหตุของความแตกแยกในสังคม สังคมนี้มีความเห็นต่างกันมากที่สุดเรื่องระบบการปกครองคน กติกาเป็นประชาธิปไตยหรือไม่ซึ่งก็คือรัฐธรรมนูญ ในนั้นมีเรื่องระบบยุติธรรมอยู่ด้วย ประเด็นถัดมาคือคนเห็นต่างกันว่าใครควรเป็นรัฐบาล รัฐบาลปัจจุบันมีความชอบธรรมหรือไม่ เราต้องเดินเข้าไปสู่การแก้ปัญหาเหล่านี้โดยให้ประชาชนมาตัดสินจะให้ใครมาชี้ก็ไม่มีใครฟังแล้ว เพราะต่างคนต่างก็เห็นไม่ตรงกัน แต่การให้ประชาชนมาตัดสินโดยการเลือกตั้งคือวิธีให้ประชาชนส่วนใหญ่มามีส่วนร่วมในการตัดสิน แต่ถ้าปล่อยอย่างนี้จะส่งผลเสียหายต่อสังคมยาวนาน ดังนั้นทางออกต้อง ร่นระยะเวลาเข้ามา เวลานี้ผมสนใจข้อเสนอของนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ที่เสนอให้มีการยุบสภาโดยก่อนยุบสภาให้แก้ไขรัฐธรรมนูญบางประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งเสียซึ่งก็คล้ายกับผลการศึกษาของคณะกรรมการสมานฉันท์ ผมสนใจตรงนี้ว่า ถ้ามีการเจรจากันแล้วก็กำหนดเวลาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อาจ 2-3 เดือน ต้องตกลงกันว่าจะต้องแก้ไขให้เสร็จ จากนั้นยุบสภาโดยที่ให้นายกฯประกาศก่อนเลย โดยเชิญฝ่ายต่าง ๆ มาหารือจากนั้นก็ขอให้สภาผู้แทนเป็นผู้แก้ไข แก้เสร็จนายกฯก็ยุบสภา แต่จะทำอย่างนี้ได้ต้องให้หลายฝ่ายเห็นด้วย ที่สำคัญคือภาคต่าง ๆ ควรจะมีการพูดคุยข้อเสนอนี้จากนั้นก็เสนอต่อรัฐบาล แต่ข้อเสนอนี้จะมีปัญหาว่าจะมีคนออกมาคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ต้องชี้แจงทำความเข้าใจ หาก 3 เดือนแก้ไม่ได้ ก็ให้ยุบสภาให้ประชาชนตัดสินในระหว่างนั้นก็เปิดโอกาสเต็มที่ให้พรรคการเมืองไปชี้แจงว่าการแก้ไขหรือไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญดีอย่างไร หรือทางที่ดีพรรคการเมืองก็ร่วมกันให้ประชาชนลงประชามติเสียด้วยก็ได้ว่าจะแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ ก็เกิดขึ้นเป็นขั้นตอนไปได้ ผมว่าน่าจะเป็นทางออกที่พอจะยอมรับกันได้ ถ้าตกลงแบบนี้การชุมนุมยืดเยื้อก็ไม่ต้องมีต่อไป ผมคิดว่าทางแกนนำก็น่าจะคุยได้ เสื้อแดงจะไปทำโรงเรียนต่อก็ว่าไป แต่จะไม่มีกิจกรรมให้รัฐบาลยุบสภาไล่รัฐบาลภายใน 3 เดือนที่ประกาศว่าจะยุบสภา หลังจากนั้นก็ทำสัตยาบันด้วยว่าระหว่างหาเสียงเสื้อแดงจะไม่ไปชุมนุมต่อต้าน รัฐบาลก็เปิดโอกาสให้แต่ละฝ่ายหาเสียงตามที่กฎหมายกำหนด มันก็จะลดปัญหาว่าจากนี้ไป 3 เดือนจะไม่มีปัญหากระทบต่อเศรษฐกิจการลงทุน หลังเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์ชนะ นปช.เสื้อแดงจะไม่คัดค้านล้มรัฐบาลประชาธิปัตย์

**คิดอย่างไรที่นายกฯบอกว่ารัฐบาลมีสิทธิที่จะอยู่ครบวาระเพราะมาถูกต้องชอบธรรม

นายกฯมีสิทธิอยู่ครบวาระตามกฎหมายก็เหมือนกับการที่ประชาชนเขามีสิทธิชุมนุมแสดงความไม่เห็นด้วย ต่างฝ่ายต่างมีสิทธิ ปัญหาคือว่าคนมันเห็นต่างกัน ถ้าพูดเรื่องสิทธิต่างฝ่ายต่างมีสิทธิพูดเรื่องความชอบธรรม คนต่างเห็นกันไปคนละอย่าง คนที่สนับสนุนรัฐบาลก็บอกรัฐบาลชอบธรรม คนที่เห็นว่ารัฐบาลไม่ชอบธรรมก็มี ใครมากกว่าใครไม่มีใครรู้ นายกฯบอกว่าคนที่บอกว่าไม่ชอบธรรมเป็นเสียงส่วนน้อย แต่คนส่วนใหญ่เห็นด้วย อันนี้ก็พูดไปเอง ไม่สามารถพิสูจน์ได้เพราะว่าการเลือกตั้งครั้งหลังสุดประชาชนไม่ได้เลือกพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล มาวันนี้เขาเปลี่ยนความนิยมแล้วหรือไม่ผมก็บอกไม่ได้ เลยทำให้ข้อเสนอยุบสภาเป็นที่น่าสนใจขึ้นมาเพราะว่าจะได้ให้ประชาชนตัดสิน เอาเข้าจริงคนที่ไม่เห็นด้วยอาจจะมากกว่าก็ได้ ซึ่งหากปล่อยให้คนส่วนใหญ่ที่ไม่เห็นด้วยเป็นอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ บ้านเมืองก็มีความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดการเผชิญหน้า ตอนนี้ผมคิดว่าต้องรีบถอดชนวน ก่อนเดินไปสู่ความรุนแรงและจะแก้ยากขึ้น ผมว่าให้ประชาชนตัดสินดีกว่าเอาชนะกันทางการเมืองอย่างที่เป็นอยู่.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook