สภาเดือด พท.-ปชป.หวิดวางมวย

สภาเดือด พท.-ปชป.หวิดวางมวย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ทักษิณลงทุนที่ยุโรป

สภาเปิดแล้วผู้ทรงเกียรติย่องฝ่าม็อบแดงเข้าประชุมหนาตา ส.ส. 2 ฝ่ายปะทะฝีปากกันจนเกือบวางมวย เพื่อไทยด่า เทพเทือก ขี้ขลาดหนีกระทู้ เชน เดือดแทนพี่ชายปรี่เข้าใส่ สากกะเบือ ส.ส.ประชาธิปัตย์ต้องล็อกคอลากกลับไป พท. จวกยับพฤติกรรมสุดถ่อย ยื่นสภาจัดการเรื่องจริยธรรม ด้าน ป๋าเหนาะ ห่วงคนไทยฆ่ากันเอง ยกบทเรียนเขมร 3 ฝ่ายเป็นบนเรียน พร้อมค้านยุบสภาเพราะจะเร่งให้ฆ่ากันเร็วขึ้น แนะนายกฯต้องลาออก ฝ่าย ชวน หนุน มาร์ค ไม่ให้ยุบสภา ยันต้องรักษาหลักบ้านเมือง ขณะที่ บัวแก้ว ยอมรับหมดปัญญาตาม แม้ว หลังได้ วีซ่าเชงเกน ด้าน ทักษิณ โชว์รูปพาครอบครัวดูกิจการโรงแรมที่มอนเนโกร

* ชัยลั่นใช้สภาไม่หนีไปไหน

เมื่อวันที่ 18 มี.ค.ที่รัฐสภา นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมสภาว่า หากรัฐมนตรีไม่มาก็ไม่เป็นไร ถามกันเองประธานตอบก็ได้ ส่วนการเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 179 นั้น คงต้องดูเหตุการณ์ก่อน จากการหารือกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯก็บอกว่ารัฐบาลขอแก้ไขปัญหาข้างนอกก่อน อย่างไรก็ตามแม้พรรคร่วมรัฐบาลไม่มาประชุม สภาก็จะมีการประชุมไปเรื่อย ๆ

เมื่อถามว่า หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตการเปิดประชุมของประธานเป็นการล่อให้กลุ่มคนเสื้อแดงมาล้อมสภา ประธานรัฐสภากล่าวว่า ไม่ได้ล่อเราทำตามระเบียบของสภา แต่เป็นธรรมดาที่คนซีกรัฐบาลต้องกลัวบ้าง เหมือนเวลาเดินถนนเห็นหมาเรายังหลบกลัวจะมากัด ตนยืนยันว่าจะใช้สถานที่รัฐสภาเป็นที่ประชุมจนกว่าจะสร้างรัฐสภาใหม่เสร็จ

* ชี้สภาคือเวทีแก้ปัญหา

พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานรัฐสภา กล่าวถึง ส.ส.เพื่อไทยเรียกร้อง ให้ใช้เวทีสภาเพื่อหารือในการแก้ปัญหาว่า เป็นทางหนึ่งในการแก้ปัญหา ขึ้นอยู่กับนายกฯว่าจะรับฟังหรือไม่ ตนเห็นว่าในช่วง เวลานี้ควรเข้ามาหารือในสภา เพราะสภาเป็น 1 ใน 3 อำนาจในการบริหารประเทศ ถ้าสภา ไม่ทำหน้าที่ก็แสดงว่าอำนาจนิติบัญญัติถูกแทรกแซง และบ้านเมืองคงเดินต่อไม่ได้

เมื่อถามว่า หาก ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล มาร่วมประชุมแล้วเกิดเหตุซ้ำรอย 7 ต.ค. รองประธานสภากล่าวว่า เมื่อครั้ง 7 ต.ค. รัฐบาลใช้วิธีละมุนละม่อมในการสลายการชุมนุม และถ้ามีเหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้น อีกก็คงต้องใช้วิธีเดียวกัน แต่ตนเชื่อว่าจะ ไม่รุนแรง เมื่อถามว่า จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องมีการเปลี่ยนสถานที่การประชุมไปใช้กรมทหารราบที่ 11 พ.อ.อภิวันท์กล่าวว่า คงไม่ไปที่นั่น เพราะไม่ใช่สถานที่ประชุมสภา ภาพลักษณ์ที่ออกมาคงดูไม่สวยงาม อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา จะเป็นผู้พิจารณา

* อำมาตย์ต้องลงจากอำนาจ

พ.อ.อภิวันท์ยังกล่าวถึงสถานการณ์การเมืองว่า ตนเป็นห่วงเพราะขณะนี้ความแตกแยกของประเทศไทยเหมือนกับรัสเซีย ฝรั่งเศส จีน ซึ่งคนรากหญ้าออกมาต่อสู้กับอำมาตย์ เป็นการต่อสู้ทางชนชั้นซึ่งเป็นเรื่องที่ยากจะแก้ไข แต่ในเมืองไทยยังสามารถแก้ไขได้ ถ้าผู้มีอำนาจเข้าใจปัญหาและมีจิตสำนึก ขณะนี้ประชาชนใน กรุงเทพฯให้การตอบรับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ดังนั้นนายกรัฐมนตรีและคนที่เหนือกว่านายกรัฐมนตรีควรจะพิจารณาข้อเรียกร้องให้ยุบสภาเป็นทางหนึ่งที่ให้อำมาตย์ลงจากอำนาจ

เมื่อถามว่า จะมีทางออกอย่างไร เพื่อให้สถานการณ์ของประเทศคลี่คลายลง พ.อ.อภิวันท์กล่าวว่า ง่ายนิดเดียวคือต้อง นำประเทศให้กลับคืนสู่ความเป็นธรรม กฎหมายต้องเป็นมาตรฐานเดียว เมื่อถามว่า แสดงว่าถ้าการตัดสินคดีเงินบริจาคพรรค ประชาธิปัตย์ 258 ล้านบาท เหมือนกับกรณีของพรรคพลังประชาชน จะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ได้ใช่หรือไม่ พ.อ.อภิวันท์กล่าวว่า ตนพูดถึงเรื่องทั่วไป ไม่ได้เจาะจงเฉพาะกรณีของพรรคประชาธิปัตย์ แต่ต้องการบอกว่าหากบ้านเมืองเกิดความเป็นธรรมก็จะดีขึ้น

* ยุคตกต่ำซุกปีกทหาร

นายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเตรียมกระทู้มาสอบถามรัฐมนตรีถึงแนวทางแก้ไขปัญหาต่อสถานการณ์ขณะนี้ ที่ผ่านมาใช้สภาแก้ไขปัญหาในหลายกรณี แต่เห็นชัดว่าฝ่ายรัฐบาล ไม่ได้ปฏิบัติตามความเห็นของรัฐสภา ขาดความจริงใจในการเข้ามาใช้สภาแก้ปัญหาถือว่าไม่สง่างาม

เมื่อถามว่า เห็นด้วยหรือไม่หากจะมีการนำปัญหาความขัดแย้งเข้ามาในสภาโดยตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญร่วมกันอีกหนึ่งชุด นายวิทยากล่าวว่า เป็นการซื้อเวลามากกว่า หลายครั้งที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไม่จริงใจ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาเรื่องกลุ่มคนเสื้อแดง นายกฯขาดความสง่างามอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าพรรคประชาธิปัตย์ต้องไปซุกทหาร เป็นยุคที่ตกต่ำที่สุด

* ส.ว.ซัด ปชป.หนีเวทีสภา

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา กล่าวถึงกรณีที่นายกฯระบุการเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติจะต้องรอดูสถานการณ์ก่อนว่า ปัญหามีไว้ให้แก้ไขไม่ใช่ปล่อยไปตามกาลเวลา ในเมื่อนายอภิสิทธิ์ขันอาสามาทำงานรับใช้ชาติก็ต้องแก้ไขปัญหาโดยใช้เวทีรัฐสภา แต่ก็ไม่ทำทั้ง ๆ ที่พรรคประชาธิปัตย์พูดเสมอว่าต้องใช้เวทีสภาในการแก้ปัญหา แต่ทำไมครั้งนี้ถึงไม่ทำกลัวอะไร จำได้หรือไม่ในสมัยกลุ่มพันธมิตรฯปิดล้อมรัฐสภา พรรคประชาธิปัตย์ยังเข้าร่วมประชุมสภา มาในครั้งนี้ก็ไม่แตกต่างกัน

นายเรืองไกรกล่าวอีกว่า การที่ ส.ส. ไม่มาร่วมประชุมทำให้องค์ประชุมล่ม ประเทศเสียหายแบบนี้จะมีการตัดเงินเดือน ส.ส.หรือไม่ เพราะไม่ได้ทำหน้าที่ ตัวเอง เหตุการณ์ความรุนแรงยังไม่เกิดทำไมไม่ยอมมาประชุม แต่ถ้าหากมาประชุมแล้วมีการปิดล้อมรัฐสภา เกิดความรุนแรงขึ้น กับ ส.ส. ส.ว.และเจ้าหน้าที่ก็ต้องดำเนินไปตามกฎหมาย อย่าตีตนไปก่อนไข้ ถ้านายกฯกลัวมากก็เอาทหารตำรวจมารักษาความปลอดภัยให้มากที่สุด รัฐธรรมนูญกำหนดให้รัฐสภาเป็นสถานที่แก้ไขปัญหาให้กับบ้านเมือง แต่รัฐบาลกลับไปซุกกับกองทัพ

* ส.ส.ฝ่าด่านเข้าประชุมสภา

ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่าบรรยากาศ ในช่วงเช้าก่อนเริ่มประชุมสภา ที่มีระเบียบวาระพิจารณากระทู้ถามทั่วไปและกระทู้ถามสด ปรากฏว่าบริเวณภายนอกรัฐสภาเป็นไปอย่างเรียบร้อย มีกลุ่มคนเสื้อแดงตั้งเวทีปราศรัยบนรถกระบะข้างประตูทางเข้าโดยไม่ได้มีการปิดถนน เพื่อเปิดให้บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการประชุมรัฐสภาเดินทางเข้ามา แต่ ส.ส.หลายคนรวมตัวกันเดินทางมายังรัฐสภาด้วยรถตู้เข้าทางประตูเทวฤทธิ์ฝั่งถนนราชวิถี และมีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอารักขาการประชุมสภาอย่างเข้มงวด

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า จากนั้นในช่วงสาย ส.ส.ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลได้ทยอยเดินทางมาร่วมประชุมจำนวนมาก อาทิ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษา พรรคประชาธิปัตย์ นายวิทยา แก้วภราดัย ประธานวิปรัฐบาล นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ส่วนคณะรัฐมนตรีที่เข้าร่วมประชุมได้แก่ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน

* ปู่ชัยเปิดประชุมจนได้

จนกระทั่งเวลา 09.15 น. มี ส.ส. มาลงชื่อ 123 คน เกินจำนวน 95 คนที่จะสามารถเปิดประชุมสภาเพื่อพิจารณากระทู้ถามสดและกระทู้ถามทั่วไปได้ จากนั้นนายชัยได้ขึ้นทำหน้าที่ประธานการประชุม พร้อมให้โอกาส ส.ส.พรรคเพื่อไทยได้แสดงความคิดเห็นทันที โดยนายวิทยา บุรณศิริ ประธาน วิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองดูเหมือนรัฐบาลไม่ยินดียินร้ายกับการเรียกร้องประชาธิปไตย จึงอยากถามว่าต่อไปจะใช้สภาแห่งนี้อย่างไร จะแค่สีซอให้ควายฟังอย่างนั้นหรือไม่

การจะใช้รัฐธรรมนูญมาตรา 179 เพื่อเปิดประชุมร่วมรัฐสภาขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมตินั้น ถือว่าหมดเวลาแล้วจึงขอเรียกร้องว่าประมุขของฝ่ายนิติ บัญญัติต้องพูดให้ชัด จะแก้ไขปัญหาของชาติอย่างไรผมเห็นด้วยกับคนเสื้อแดงที่ เรียกร้องให้มีการคืนอำนาจประชาชน ซึ่งพรรคฝ่ายค้านพร้อมให้มีการยุบสภาแม้จะเสียเปรียบ ประธานวิปฝ่ายค้านกล่าว

* 2 ฝ่ายปะทะคารมยกแรก

ขณะที่นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช. พาณิชย์ ชี้แจงว่า นายกรัฐมนตรียังปฏิบัติหน้าที่ตามปกติไม่ได้หนีไปไหน รัฐบาลยินดีรับฟังประชาชนทุกกลุ่ม แต่ที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุมสภาเพราะนายกฯพิจารณาแล้วคิดว่าควรจะรอเวลาที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้เกิดการเผชิญหน้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเปิดโอกาสให้ ส.ส.เพื่อไทยได้หารือกว่า 1 ชม.นายชัยตัดบทนำเข้าสู่วาระพิจารณากระทู้ แต่ ส.ส. พรรคเพื่อไทยขอให้เลื่อนกระทู้ทั่วไปออกไปก่อน เพื่อให้สภาได้พูดปัญหาการชุมนุมที่เกิดขึ้น ขณะที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่าจะไม่เลื่อนกระทู้ นายชัยจึงแจ้งว่าเมื่อพิจารณาเสร็จแล้ว เวลาที่เหลือจะให้พูดปัญหาทางการเมือง แต่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยไม่ยอมและเริ่มส่งเสียงประท้วง ทำให้นายชัยต้องสั่งพักประชุมให้วิปทั้ง 2 ฝ่ายมาหารือกับประธานเพื่อไม่ให้บรรยากาศบานปลาย

* ยกบทเรียนฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

ภายหลังเปิดประชุมอีกครั้ง ฝ่ายค้านขอให้มีการเลื่อนกระทู้ทั่วไปออกไป และจะได้ร่วมกันพิจารณากระทู้ถามสด 3 เรื่อง เกี่ยวกับปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ โดยจะให้นายเสนาะ เทียนทอง ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาราช ที่ถือเป็นผู้อาวุโส อภิปรายนำเข้าสู่กระทู้สด จากนั้นนายเสนาะกล่าวว่า เหตุการณ์ เม.ย. 52 ทำให้รัฐสภาตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ แต่เมื่อมีผลออกมาก็ไม่มีการปฏิบัติ

วันนี้บ้านเมืองกำลังวิกฤติแตกแยก ผมอยากให้ดูบทเรียนเรื่องเขมร 3 ฝ่ายที่ฆ่ากันเป็นล้านคน ที่เป็นการแย่งอำนาจกันระหว่างทหารอำมาตย์ จนมีการไปดึงประเทศ เพื่อนบ้านมาช่วยไล่ฆ่าเขมรแดง สุดท้ายทั้ง 2 ฝ่ายก็จับมือกันสมานฉันท์ ดังนั้นผู้หลักผู้ใหญ่ต้องจับมือกันทำความเข้าใจปัญหาและร่วมแก้ที่ต้นตอ ประธานต้องเปิดประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อระดมความคิดช่วยกันหาทางออกที่ดีที่สุด นายเสนาะกล่าว

* ยุบสภาชนวนฆ่ากันเอง

นายเสนาะกล่าวต่อว่า วันนี้ความแตกแยกไม่ใช่แค่การแย่งอำนาจกัน มีที่ไหนที่ผู้นำประเทศออกไปพบประชาชนไม่ได้ ตั้งแต่สมัยเสื้อเหลืองมาจนถึงเสื้อแดง วันนี้ความแตกแยกไม่จบและยังแตกแยกกันเป็นภาค ๆ กำลังจะฆ่ากันทุกคน อยากเห็นบ้านเมืองฆ่ากันเหมือนเขมรหรือ ที่ฆ่ากันเองยังไม่พอยังไปดึงชาติอื่นมาฆ่าด้วย

วันนี้ผมคิดว่าหากยุบสภาจะเป็นจุดนองเลือดมากกว่า ผมขอถามว่ายุบแล้วจะหาเสียงกันอย่างไร ประชาธิปัตย์ไปอีสานหรือเหนือได้หรือไม่ ไปแค่ปริมณฑลก็แย่แล้ว ส่วนเพื่อไทยไปใต้ได้ไหม ยุบไปแล้วฆ่ากันแน่นอน คนอายุปูนผมหรือประธานสภามองไม่ออกหรือนายเสนาะกล่าวและว่า อยากจะกราบขอร้องนายกฯ เพื่ออนาคตของประเทศไทยและศักดิ์ศรีของตนเอง ลาออกแล้วหันหน้ามาปรึกษาหารือกัน ขอให้ลองเชื่อผู้เฒ่าคนนี้ ผิดถูกต้องให้อภัยกันไม่ใช่คัดง้างกันตลอด

* หนั่นแจงแทนมาร์ค

จากนั้นนายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส. นครพนม พรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้ถามสดนายกรัฐมนตรี เรื่องปัญหาการเรียกร้องของประชาชนต่อการปฏิบัติหน้าที่ของนายกฯว่าจะบริหารประเทศในลักษณะหลบไปหลบมาแบบนี้นานแค่ไหน คนที่ออกมาเรียกร้องเกือบหนึ่งล้านเสียง นายกฯจะรับฟังหรือไม่และมีข่าวว่าประธานสภาดูถูกผู้ชุมนุม เปรียบเทียบว่าผู้ที่มาชุมนุมเหมือนหมา จึงอยากถามว่าพูดอย่างนี้ได้อย่างไร เมื่อถึงช่วงนี้นายชัยชี้แจงทันทีว่า ตนอายุขนาดนี้จะไปเปรียบเทียบคนเป็นหมาได้อย่างไร ไม่เป็นความจริง ทำให้นายไพจิตกล่าวว่าหากไม่ได้พูดตนก็ขอถอน

ด้านพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับมอบหมายจากนายกฯชี้แจงแทนว่า นายกฯมีนัดหมายกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเกี่ยวกับการชุมนุมของประชาชน ยืนยันว่านายกฯปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย พยายามรักษาประชาธิปไตยให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเสียงเดียวหรือล้านเสียงเชื่อว่านายกฯต้องรับฟัง ส่วนมาตรา 179 เพื่อขอให้มีการเปิดประชุมร่วมรัฐสภานั้น เชื่อว่านายกฯพร้อมเดินทางมารับฟังความเห็นจากสมาชิก เพียงแต่ขอเวลาให้เหตุการณ์สงบก่อน

* พท.ด่าขี้ขลาดหนีกระทู้

จากนั้นนายสุนัย จุลพงศธร ส.ส. สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ได้ถามเรื่องการดำเนินการกับกลุ่มผู้ชุมนุมโดยทหาร แต่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ขอเลื่อนการชี้แจงกระทู้นี้ออกไปก่อน นาย สุนัย ก็พยายามจะขอให้พล.ต.สนั่นตอบแทน แต่ประธานสภาแจ้งว่าอาจผิดข้อบังคับ เนื่องจากเจ้าของกระทู้ทำหนังสือ ขอเลื่อนการชี้แจงไปสัปดาห์หน้าแล้ว เช่นเดียวกับกระทู้สดของ ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธ ศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ที่ถามนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายสุเทพได้ทำหนังสือแจ้งขอเลื่อนการตอบกระทู้ออกไปเช่นกันโดยไม่ระบุวันเวลาที่จะมาตอบกระทู้ ถึงช่วงนี้ทำให้ ส.ส.เพื่อไทยหลายคนได้ตะโกนสวนว่าขี้ขลาด

นายสุนัยจึงได้ถามกระทู้ว่า วันนี้ทหารแตกออกเป็น 2 ฟาก เพราะมีหวยล็อกผบ.ทบ. คนต่อไปต้องชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รอง ผบ.ทบ. เพราะจะอยู่ในตำแหน่งนานถึง 4 ปี และมีอำนาจนอกระบบเข้ามาเกี่ยวข้อง นายอภิสิทธิ์จึงไม่ใช่นายกฯตัวจริงเพราะนายกฯตัวจริงผมหงอกเหมือนกับตน ถามว่าจะขอให้ทหารถอนตัวจากท้องถนนได้หรือไม่ และเหตุใดทหารที่มาดูแลความเรียบร้อยจึงไม่ยอมติดยศและบอกสังกัด ถ้าถอนกำลังไม่ได้อย่าถืออาวุธปืนเอ็ม 16 ได้หรือไม่ เพราะทราบว่ามีการออก พ.ร.ก.ฉุกเฉินปราบปรามผู้ชุมนุม แต่ผู้ที่คัดค้านคือพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.

* สภาเดือดเกือบเป็นเวทีมวย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่พล.ต. สนั่นปฏิเสธที่จะตอบกระทู้สดของร.ต.ท. เชาวรินที่ถามเรื่องการชุมนุมทางการเมืองต่อนายสุเทพ ปรากฏว่า ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยหลายคนพยายามจะตั้งกระทู้ถามสดต่อไป ทำให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์หลายคนแสดงความไม่พอใจและลุกขึ้นประท้วงอย่างวุ่นวาย ร.ต.ท.เชาวรินจึงกล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า ตนจะไม่ถามกระทู้สดแล้ว แต่จะขอแปลงร่างเสนอเป็นญัตติด่วนเพื่อให้สภา ได้พิจารณา ทำให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ลุกขึ้นโวยวายลั่นห้องประชุมว่าประธานฯ ไม่ยึดข้อบังคับ อย่างนี้ก็อยู่ด้วยกันไม่ได้แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า จากนั้นนายเชน เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ เดินปรี่เข้าไปหา ร.ต.ท.เชาวริน พร้อมตะโกนลั่นห้องประชุมว่า ตอนนี้ ไม่มีข้อบังคับจะเอาอย่างไรก็ว่ามา ทำให้นายจุติ ไกรฤกษ์ ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ต้องรีบล็อกตัวนายเชนแยกออกมา ทำให้บรรยากาศในห้องประชุมเต็มไปด้วยความตึงเครียด มีการตะโกนต่อว่ากันไปมา ในที่สุดนายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภาซึ่งทำหน้าที่ประธานที่ประชุมต้องรีบสั่งปิดการประชุมทันทีในเวลา 14.00 น.

* ตามเช็กบิลเชน เทือกสุบรรณ

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า หลังประธานสั่งปิดการประชุมสภา ส.ส.เพื่อไทยกว่า 10 คนนำโดย ร.ต.ท.เชาวรินแถลงข่าวตำหนิ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่แสดงกิริยาไม่สมควรต่อประธานในที่ประชุม โดย ร.ต.ท. เชาวริน กล่าวว่า ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลเดินไปชี้หน้าว่านายสามารถทั้งที่ได้วินิจฉัยไปแล้ว บรรยากาศอย่างนี้ไม่เคยปรากฏในสภาในรอบ 30 ปี ที่ ส.ส.แสดงพฤติกรรมอย่างนี้กับประธาน ถือว่าเป็นกิริยาที่ไม่สมควรอย่างยิ่งต่อสภาไทย

ด้านนายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นคร พนม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พฤติกรรม นายสุเทพเป็นการลุแก่อำนาจ ไม่เคยมีรัฐมนตรีคนไหนที่บอกว่าไม่มาตอบกระทู้สด นายสุเทพเป็นแม่งานใหญ่ในการจัดทัพ หรือทำลายประชาธิปไตย พฤติกรรมอำนาจบาตรใหญ่สอดคล้องมาถึงนายเชนที่ลุแก่อำนาจเดินไปชี้หน้าประธานส พฤติกรรม อย่างนี้ถือว่ารัฐบาลเข้ามาแทรกแซงฝ่าย นิติบัญญัติ ถ้ารัฐบาลใช้อำนาจเกินกว่าระบอบประชาธิปไตย ยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนดีกว่า ดังนั้นต้องดำเนินการกับนายเชนให้ถึงที่สุดในทางจริยธรรมทางการเมือง โดยจะยื่นให้กับนายชัยตรวจสอบพฤติการณ์ดังกล่าวให้มีการลงโทษตามจริยธรรมทางการเมือง

* ปชป.เรียงหน้าแก้ตัวพัลวัน

ด้านนายวิทยา แก้วภราดัย ประธานวิปรัฐบาล กล่าวโต้เรื่องดังกล่าวว่า ความวุ่นวายครั้งนี้เกิดจากประธานโอนอ่อนผ่อนตามฝ่ายค้านมากเกินไป ไม่เคารพข้อบังคับการประชุมสภาทั้งที่พรรคร่วมรัฐบาลไม่มีปัญหา คิดว่าบรรยากาศในการประชุมครั้งหน้าน่าจะดีขึ้นกว่านี้

ขณะที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ชี้แจงว่า นายเชนไม่ได้ตรงเข้าไปต่อย ร.ต.ท.เชาวริน แต่พรรคเพื่อไทยเล่นเกมการเมืองและไม่ได้ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 162 แต่นายสามารถกลับเอาบรรทัดฐานของนายชัยมาใช้ นายสุเทพมีหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างชัดเจนมาแล้ว ดังนั้นประธานในที่ประชุมต้องมีหน้าที่ในการสั่งเลื่อนกระทู้สดดังกล่าวออกไป แต่ประธานได้ปิดไมค์หมดทำให้นายเชนจะเดินเข้าไปสอบถาม

* ชวนหนุนไม่ยุบสภา

วันเดียวกันนายชวน หลีกภัย ประธาน สภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้นำจตุคามรามเทพ รุ่นสอง ของวัดพระธาตุ สวี อ.สวี จ.ชุมพร มาแจกให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาดูแลรักษาความปลอดภัยที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ จากนั้นนายชวนให้สัมภาษณ์ถึงการเข้าประชุมสภาว่า ในฐานะ ส.ส.ต้องเข้าประชุมสภา องค์ประชุมไม่ครบจะทำให้ภาพสภาไม่ดี แต่เมื่อวันที่ 16 มี.ค. รัฐบาลเป็นห่วงความปลอดภัยของสมาชิก วิปรัฐบาลจึงอยากให้เลื่อนการประชุมร่วมรัฐสภาออกไป ไม่ใช่ว่ารัฐบาลหนีปัญหา

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางพรรคเพื่อไทยระบุว่านายชวนและนายกฯมีความเห็นแตกแยกในเรื่องการยุบสภา นายชวนกล่าวปฏิเสธว่า ไม่มี ตนสนับสนุนการทำงานและแนวคิดของนายกฯที่จะไม่ยุบสภา เพราะยังไม่มีเหตุผล และต้องรักษาหลักของบ้านเมืองไว้ ส.ส.ของพรรคทุกคนมีแนวคิดเดียวกับนายกฯ ไม่มีข้อขัดแย้งในพรรค

* แผนสองต้อนนักท่องเที่ยว

ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ททท.มีแผนสำรองไว้ 2-3 แนวทางรับมือหากการชุมนุมยืดเยื้อ ล่าสุดเตรียมเดินทางไปโรดโชว์ที่โปแลนด์ คุนหมิง ตะวันออกกลาง และอาเซียน

รายงานข่าวจากศูนย์อำนวยการช่วยเหลือนักท่องเที่ยว (ศอช.) เปิดเผยว่า รัฐบาลฮ่องกงได้ออกประกาศห้ามนักท่องเที่ ยวฮ่องกงเดินทางมาไทยแล้วจนถึงวันที่ 23 มี.ค.นี้

* ยอดจองโรงแรมหด

นายประกิจ ชินอมรพงษ์ นายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า สถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองทำให้อัตราเข้าพักโรงแรมในเขตกรุงเทพฯ เหลือ 30% นักท่องเที่ยวบางรายก็เช็กเอาต์ก่อนกำหนด หากสถาน การณ์ยืดเยื้อเกินวันที่ 23 มี.ค. อาจกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเข้ามาช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้แน่นอน โดยโรงแรมใน จ.เชียงใหม่เริ่มน่าเป็นห่วงแล้ว มียอดจองห้องพักช่วงสงกรานต์เข้ามาเพียง 20%

นายเอนก ศรีชีวะชาติ ประธานสมาคมส่งเสริมท่องเที่ยวไทย-ญี่ปุ่น กล่าวว่า ตลาดนักท่องเที่ยวจากตลาดญี่ปุ่นลดลงเพียง 10% เท่านั้น ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่เดินทางมาเอง และกลุ่มท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล การลดลงครั้งนี้น้อยมากเมื่อเทียบกับช่วงที่เกิดเหตุการณ์ชุมนุมมีความรุนแรงเมื่อปีก่อน สะท้อนให้เห็นว่าญี่ปุ่นเริ่มเข้าใจสถานการณ์ในไทยแล้ว จึงไม่ใส่ใจกับการชุมนุมมากนัก

* บัวแก้วจนปัญญาตามแม้ว

ส่วนการเมืองอื่น นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้ช่วย รมว.การต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าในการติดตามตัว พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า การที่รัฐบาลมอนเตเนโกรให้สัญชาติกับ พ.ต.ท. ทักษิณ จะทำให้การติดตามตัวพ.ต.ท.ทักษิณให้กลับมารับโทษในคดีทุจริตในการซื้อที่ดินย่านรัชดาฯยากขึ้น เพราะการที่ พ.ต.ท. ทักษิณได้สัญชาติมอนเตเนโกร จะทำให้ได้สิทธิรับเชงเกน วีซ่า ซึ่งเป็นวีซ่า ที่ทำให้สามารถเดินทางเข้า-ออกประเทศในสหภาพยุโรป (อียู) ได้

ผู้สื่อข่าวถามถึงการได้สัญชาติมอนเตเนโกร จะทำให้มีผลในทางคดีทุจริตที่ดิน รัชดาฯ หรือไม่ นายพนิช กล่าวว่า ไม่มีผลเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณยังคงถือสัญชาติไทย และการดำเนินการตามกฎหมายต่าง ๆ มีผลอยู่ เว้นเสียแต่จะถูกถอนสัญชาติไทยเท่านั้น เมื่อถามอีกว่า จะมีการสอบถามรัฐบาลมอนเตเนโกรถึงเหตุผลการให้สัญชาติกับ พ.ต.ท. ทักษิณหรือไม่ นายพนิชกล่าวว่า คงไม่สอบถาม เพราะเป็นสิทธิของรัฐบาลมอนเตเนโกรที่จะให้สัญชาติกับบุคคลใดก็ได้

* อุทธรณ์ยึดทรัพย์อาทิตย์หน้า

อีกด้านหนึ่งนายฉัตรทิตย์ ตัณฑ ประศาสน์ ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวถึงการยื่นอุทธรณ์คดียึดทรัพย์ว่า ทีมทนายได้ร่างคำอุทธรณ์ไว้แล้วความยาวกว่า 100 หน้า คาดว่าจะยื่นได้ภายในสัปดาห์หน้าและได้แจ้งให้ พ.ต.ท.ทักษิณทราบแล้ว สำหรับประเด็นที่จะอุทธรณ์นั้น ทีมทนายจะชี้ให้เห็นในหลายประเด็นที่ไม่ได้นำมาวินิจฉัย เหมือนมีพยานหลักฐาน 10 ลังแต่วินิจฉัยแค่ 3 ลัง แล้วอีก 7 ลังหายไปไหน เพราะถ้ายังไม่ผ่านการวินิจฉัยก็ถือว่าเป็นหลักฐานใหม่

ทนาย พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวต่อว่า การยื่นอุทธรณ์ครั้งนี้จะขอให้ยกคำร้องทั้งหมด ไม่ใช่การขอให้พิจารณาลดจำนวนทรัพย์ที่ตกเป็นของแผ่นดิน อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าผลการอุทธรณ์จะออกมาอย่างไร เราจะไม่ก้าวก่ายดุลพินิจของศาล หากศาลจะไม่รับอุทธรณ์ การต่อสู้ทางคดีตามกฎหมายก็ยุติ

* แม้วยิ้มแฉ่งโชว์ภาพถ่าย

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณว่า ล่าสุด พ.ต.ท.ทักษิณได้เผยแพร่ภาพถ่ายจำนวน 6 ใบที่ถ่ายกับบุตรชายและบุตรสาวทั้ง 3 คนระหว่างการตรวจความคืบหน้าการปรับปรุงโรงแรมในมอนเตเนโกรที่ พ.ต.ท.ทักษิณเข้าไปร่วมทุนด้วย ผ่านทางเว็บไซต์ www.Thaksi* live.com โดยทั้ง 4 คนมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook