สำนักโรคติดต่อทั่วไป ระบุ การล้างทำความสะอาดเลือดที่กลุ่มผู้ชุมนุมนำมาเทที่ทำเนียบฯ ต้องทำตามหลักวิช

สำนักโรคติดต่อทั่วไป ระบุ การล้างทำความสะอาดเลือดที่กลุ่มผู้ชุมนุมนำมาเทที่ทำเนียบฯ ต้องทำตามหลักวิช

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไป ระบุ การล้างทำความสะอาดเลือดที่กลุ่มผู้ชุมนุมนำมาเทที่ทำเนียบรัฐบาล ต้องทำตามหลักวิชาการ ขณะที่ แพทยสภา จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมแพทยสภา เพื่อพิจารณาว่าแพทย์ที่ทำการเจาะเลือดผิดจริยธรรมหรือไม่ นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไป กล่าวถึงการล้างทำความสะอาดเลือดที่กลุ่มผู้ชุมนุมนำมาเทที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า ต้องระวังอย่าให้เลือดกระเด็นเข้าตา ที่สำคัญควรใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ และน้ำยาฟอกขาว เนื่องจากสามารถฆ่าเชื้อโรคได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนการกำจัดอุปกรณ์เจาะเลือด ต้องทำตามหลักวิชาการ หรือจ้างบริษัทรับกำจัดขยะ เข้ามากำจัด เพราะถือเป็นขยะติดเชื้อที่สามารถติดโรคได้หากสัมผัส ทั้งนี้ ผู้ชุมนุมควรใช้ความระมัดระวัง อย่าให้เลือดกระเด็นเข้าตา จมูก ปาก หรือบริเวณผิวหนังที่มีแผล เพราะเชื้อโรคอาจจะแพร่กระจายเข้าสู่ร่างกายได้ โดยเฉพาะโรคไวรัสตับอักเสบบี ซี และ โรคเอดส์ นอกจากนี้ การนำเลือดมารวมกัน อาจทำให้เป็นอีกแหล่งรวมโรคหลายชนิดได้ ซึ่งคนไทยมีพาหะของโรคไวรัสตับอักเสบ บี กว่า ร้อยละ 5-10 อยู่ในตัว ส่วนกรณีกลุ่ม ส.ส. ที่เจาะเลือดที่รัฐสภา ถือเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ด้าน นายแพทย์สัมพันธ์ คมฤทธิ์ เลขาธิการแพทยสภา กล่าวถึงกรณีแพทย์และพยาบาล ทำการเจาะเลือดให้กลุ่มผู้ชุมนุม ว่า ความผิดตามกฎหมายไม่มีระบุไว้ แต่ด้านจริยธรรมแพทย์นั้น เรื่องจะถูกนำเข้าสู่คณะอนุกรรมการจริยธรรมแพทยสภา พิจารณา ซึ่งคาดว่าจะเข้าสู่ที่ประชุมได้ในวันพฤหัสบดีที่ 8 เมษายนนี้ อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวแล้วเชื่อว่าไม่เหมาะสม เนื่องจากการเจาะเลือดทางการแพทย์ จะเป็นการนำไปตรวจหาโรคต่างๆ และเพื่อบริจาคเท่านั้น แต่วัตถุประสงค์ของกลุ่มผู้ชุมนุม เป็นประเด็นทางการเมือง ส่วนแพทย์ที่ร่วมเจาะเลือดนั้น เชื่อว่าแต่ละคนมีวิจารณญาณเพียงพอว่าสมควรหรือไม่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook