รปภ.เข้มสถานที่ราชการหวั่นซ้ำราบ11

พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผย ภายหลังเกิดเหตุ คนร้ายยิงระเบิด M79 เข้าไปยัง ร.1 พัน.1 รอ. ถนนวิภาวดีรังสิต ส่งผลให้ทหารได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ว่า ภายหลังเกิดเหตุดังกล่าว พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีคำสั่งให้เพิ่มความเข้มงวด ในการตรวจรักษาความปลอดภัย บริเวณสถานที่สำคัญต่างๆ โดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งอาจจะตกเป็นเป้าหมายในการก่อเหตุความไม่สงบได้ โดยได้สั่งเพิ่มให้มีการตรวจความผิดปกติรถยนต์ที่วิ่งผ่าน ถนนพระราม 1 และบริเวณโดยรอบอย่างเข้มงวด ขณะเดียวกันได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความปลอดภัย ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวนกว่า 3 กองร้อย พร้อมเตรียมกำลังสำรองกว่าอีก 6 กองร้อย ขณะที่บริเวณโดยรอบ เจ้าหน้าที่นำรั้วลวดหนาม ตรึงกำลังไว้บริเวณประตูทางเข้า-ออก รอบบริเวณแล้ว


ขณะที่ การดูแลรักษาความปลอดภัย ทั้งภายในและรอบทำเนียบรัฐบาล ยังคงมีความเข้มงวด มีเจ้าหน้าที่ทหารตรึงกำลัง
ตามจุดต่างๆ เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งมีการเพิ่มจุดประจำการมากขึ้นและมีการสับเปลี่ยนกำลังเป็นระยะๆ ซึ่งน่าจะเป็น
ผลมาจาก การมีเหตุยิงปริศนาใส่ทหารที่กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ และเป็นช่วงใกล้ค่ำ ที่ต้องเฝ้า
ระวังเพิ่มมากเป็นพิเศษ

โดยเจ้าหน้าที่ทหารประจำทำเนียบรัฐบาล ทำการฝึกซ้อมรับมือการชุมนุมคนเสื้อแดง มาทำเนียบรัฐบาลในวันพรุ่งนี้ ที่ประกาศจะนำเลือด 1,000,000 CC มาเทที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ทำให้มีการฝึกซ้อมรับมือเต็มรูปแบบ จำนวน 300 นาย โดยมีอุปกรณ์ประจำตัวครบทั้งโล่ กระบอง ปืน กระสุนยาง เปลพยาบาล รวมทั้งรถดับเพลิง ใช้กรณีฉีดสกัดกลั้นผู้ชุมนุมโดยมีการตั้งแถวรับมือเป็นแนวหน้า 1 กอง และเสริมกำลังพลอีก 1 กองจากซ้ายและขวา และมีการกางเต็นท์เพิ่มเติม ซึ่งหลังจากใช้เวลา ประมาณ 1 ช.ม. ในการฝึกซ้อมเจ้าหน้าที่ได้ทำการพักผ่อนและประจำจุดประจำการตามเดิม

ทั้งนี้ตลอดทั้งวัน ไม่ได้มีบุคคลสำคัญเข้ามาในทำเนียบรัฐบาลแต่อย่างใด มีเพียงกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร และผู้สื่อข่าว
ติดตามสถานการณ์เท่านั้น คาดว่าในวันพรุ่งนี้ จะมีการเพิ่มกำลังดูแลรักษาความปลอดภัยทำเนียบรัฐบาล เพิ่มมากขึ้น
เนื่องจากกลุ่มเสื้อแดง ประกาศยกระดับต่อสู้กับรัฐบาล เจาะเลือด 1,000,000 CC เทรอบทำเนียบรัฐบาล


บรรยากาศ บริเวณที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ ขณะนี้ยังคงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และไม่มีเหตุรุนแรงใดๆ เกิดขึ้น รวมไปถึง ไม่มีคนกลุ่มเสื้อแดงมารวมตัวกัน ในบริเวณนี้แต่อย่างใด ด้านการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่นั้น เป็นไปด้วยความเข้มงวด โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ ประจำดูแลรักษาความปลอดภัย รวมไปถึงมีการตั้งจุดตรวจเพื่อป้องกันเหตุร้าย ที่อาจเกิดขึ้นได้ ส่วนการจราจรโดยรอบบริเวณนี้ ยังคงสามารถใช้การได้ตามปกติ