"บิ๊กต่อ" สรุปผลงานรอบ 1 เดือน "รุก เร่งเครื่อง เดินหน้า" จับคดีอาญากว่า 4 หมื่นคดี

"บิ๊กต่อ" สรุปผลงานรอบ 1 เดือน "รุก เร่งเครื่อง เดินหน้า" จับคดีอาญากว่า 4 หมื่นคดี

"บิ๊กต่อ" สรุปผลงานรอบ 1 เดือน "รุก เร่งเครื่อง เดินหน้า" จับคดีอาญากว่า 4 หมื่นคดี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันนี้ (9 พ.ย. 66) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล หรือ “บิ๊กต่อ” ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แถลงสรุปผลการขับเคลื่อนนโยบายการบริหารราชการ 10 ข้อ 4 นโยบายเน้นหนัก และนโยบาย Quick Win (Police’s Home) ในระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา (1 - 31 ต.ค. 66) ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ดังต่อไปนี้

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

“รุก” การบังคับใช้กฎหมายปราบปรามอาชญากรรมทุกรูปแบบ

การบังคับใช้กฎหมายและอาชญากรรม สามารถแยกย่อยออกได้เป็น 2 กลุ่ม ได้แก่

  • สถิติคดีอาญา 4 กลุ่ม (เฉพาะเดือน ต.ค.66) ได้แก่ คดีเกี่ยวกับชีวิตร่างกาย, คดีเกี่ยวกับทรัพย์, คดีฐานความผิดพิเศษ (ค้ามนุษย์, ลิขสิทธิ์ฯ), และคดีที่รัฐเป็นผู้เสียหาย ซึ่งมีทั้งหมด 43,512 คดี จับกุมได้ 39,273 คดี คิดเป็น 90.25%
  • การกวาดล้างอาวุธปืนทั่วประเทศ สามารถยึดอาวุธปืนได้จำนวน 2,008 กระบอก แบ่งเป็น
    • อาวุธปืนมีทะเบียน จำนวน 219 กระบอก
    • อาวุธปืนไม่มีทะเบียน จำนวน 1,789 กระบอก (แบลงค์กัน 528 กระบอก/ บีบีกัน 202 กระบอก)
    • กระสุนปืน จำนวน 75,973 นัด

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

“เร่งเครื่อง” 4 นโยบายเน้นหนัก

4 นโยบายเน้นหนักของ ผบ.ตร คือการดูแลนักท่องเที่ยว, ยาเสพติด, อาชญากรรมออนไลน์, และการสร้างขวัญกำลังใจผู้ใต้บังคับบัญชา โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

  • มาตรการดูแลนักท่องเที่ยว ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลโดยการมอบฟรีวีซ่าให้ประเทศจีน คาซัคสถาน อินเดีย ไต้หวัน เพิ่มการขยายระยะเวลาอยู่ในไทยให้รัสเซีย ระงับการแจ้งใช้บัตร ตม.6 ด่าน ตม. สะเดา  โดยสถิติคนต่างด้าวเดินทางเข้าประเทศไทย ภาพรวม 2566 (1 ม.ค.-1 พ.ย.66)  26,257,809 ราย โดยมีคนมาเลเซีย จีน ลาว อินเดีย เกาหลีใต้ เข้าประเทศสูงสุด 5 อันดับแรก
  • ยาเสพติด เน้นหนักมาตรการป้องกันปราบปรามยาเสพติด เฉพาะเดือน ต.ค.66 จับกุมคดียาเสพติดได้ถึง 16,418 คดี ผู้ต้องหา 16,102 ราย พร้อมสั่งการให้ขยายผลสืบสวนถึงเครือข่าย และใช้มาตรการริบทรัพย์ตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
  • อาชญากรรมออนไลน์ ยังคับเคลื่อนมาตรการป้องกันและปราบปราม ควบคู่กับการให้ความรู้แก่พี่น้องประชาชนในการป้องกันภัยอาชญากรรมออนไลน์  โดยมีสถิติรับแจ้งความออนไลน์ (ตั้งแต่ 1 มี.ค.65-31 ต.ค.66) เป็นคดีออนไลน์ 354,635 คดี อายัดได้ทัน 1,316 ล้านบาท  ความเสียหายรวม 48,137 ล้านบาท  โดยมี 3 ประเภทคดีสูงสุดได้แก่ คดีหลอกซื้อขายสินค้าและบริการฯ(ไม่เป็นขบวนการ), หลอกให้โอนเงินเพื่อทำงาน, หลอกให้กู้เงิน
  • การสร้างขวัญกำลังใจผู้ใต้บังคับบัญชา การมอบรางวัลอัศวินแหวนเพชร, การมอบรางวัลสืบ ภ.2, มอบเงินวิจัย รร.นรต., การมอบพระประจำหน่วยคอมมานโด, การตรวจสถานีตำรวจ สภ.หนองปลิง จว.นครสวรรค์, สภ.แม่ยาว จว.เชียงราย, ด่าน ตม.เชียงแสน  และลงพื้นที่ความมั่นคง จว.ปัตตานี, จว.ยะลา

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

“เดินหน้า” นโยบาย Quick Win (Police’s Home) 

นโยบาย Quick Win “Police’s Home: เราดูแลคุณ เพื่อให้คุณดูแลประชาชน” โดยเป็นนโยบายที่จัดสวสัดิการ สร้างขวัญกำลังใจ และดูแลตำรวจในทุกมิติ ทั้งการปรับทรงผมและมอบเสื้อกั๊ก การลดขั้นตอนการรายงาน การจัดหาบ้านพัก การแต่งตั้งที่ให้ความสำคัญเรื่องความเป็นธรรมในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ รวมถึงการจัดตั้งศูนย์อาชญากรรมพิเศษ 11 ศูนย์ ที่จะเน้นให้กำลังพลได้ทำหน้าที่ต้นสังกัดให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

เว็บไซต์ “ฉลาดโอน”

ผบ.ตร. ยังได้ประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ “ฉลาดโอน” (https://chaladohn.com/) ที่ช่วยเหลือประชาชน เพื่อป้องกันภัยการฉ้อโกงออนไลน์ โดยประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลมิจฉาชีพได้ ทั้งเลขบัญชีธนาคาร เบอร์โทร SMS หลอกลวง ซึ่งเว็บไซต์ฉลาดโอนจะช่วยให้ประชาชนมีเครื่องมือสำหรับใช้ในการตรวจสอบข้อมูลมิจฉาชีพ เป็นเสมือนศูนย์กลาง ในการตรวจสอบข้อมูลของมิจฉาชีพที่อยู่ทั้งในและนอกประเทศ โดยมี 4 ฟังก์ชั่นการทำงาน

  • ระบบเช็คก่อนโอนตรวจสอบข้อมูล
  • ระบบแจ้งคนโกง
  • ระบบช่วยรวมหลักฐาน รับฟัง จัดลำดับเหตุการณ์
  • ระบบยืนยันตัวตนผู้ขาย

ระบบจะเริ่มใช้งานได้ในวันที่ 8 พ.ย.66 เป็นต้นไป ซึ่งพบว่ามีประชาชนเข้าไปเช็คคนโกงกว่า 3,389,840 ครั้ง เช็กตัวตนของผู้ขายกว่า 24,629 ครั้ง แจ้งคนโกงกว่า 410,900 ราย และมีสมาชิกจำนวนแล้วกว่า 32,412 ราย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook