พท.โวยกกต.เตรียมยกคำร้องคดี 258 ล้าน

พท.โวยกกต.เตรียมยกคำร้องคดี 258 ล้าน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวอ้างว่าตามที่คณะทำงานของ นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ได้ออกมาให้ข่าวทำนองว่า จะเสนอให้ยกคำร้องในคดีเงินบริจาค 258 ล้านบาทของพรรคประชาธิปัตย์ โดยอ้างว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ไม่ได้สรุปความผิดว่าเป็นการบริจาคเงินโดยผิดกฎหมาย หรือเป็นเงินที่ได้มาโดยผิดกฎหมายนั้น เห็นว่าข้ออ้างของ กกต.ฟังไม่ขึ้น และส่อว่าจะเป็นการช่วยเหลือพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ต้องถูกยุบพรรค ซึ่งเชื่อว่าเป็นเกมการยื้อเวลาเพียงเท่านั้น เนื่องจากคดีนี้มีหลักฐานการจ่ายเงินรวมถึงพยานบุคคลยืนยันที่ชัดเจนดังนั้น กกต.ควรจะสรุปความเห็นและมีมติวินิจฉัยส่งอัยการฟ้องศาลรัฐธรรมนูญได้แล้ว

นอกจากนี้ นายพร้อมพงศ์ ยังอ้างอีกด้วยว่า มีแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้แจ้งมายังตนเอง ว่าเอกสารส่วนหนึ่งในคดีดังกล่าวได้หายไป ทั้งนี้จึงฝากถามไปยังประธาน กกต.ให้ออกมาชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่าเป็นจริงหรือไม่ หรือเป็นการกุข่าวเนื่องจากคดีนี้อยู่ในความสนใจของประชาชนทั่วประเทศ

นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวถึงเหตุระเบิด ป่วนเมือง 5 จุดเมื่อคืนนี้ว่าเป้นความล้มเหลวไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาล และหน่วยความมั่นคงที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง เป็นผู้ดูแลสถานการณ์แต่กลับปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ จึงเรียกร้องให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและต้องทบทวนนโยบายด้านความมั่นคงใหม่ โดยเรียกร้องให้ปลดนายสุเทพออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อการทำงานที่ล้มเหลว ซ้ำซากหลายคดี และยังหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษไม่ได้ อย่างไรก็ตามเชื่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของกลุ่มคนมีสี ที่ต้องการสร้างสถานการณ์แล้วโยนความผิดให้กับกลุ่ม นปช. หลังศาลฎีกาตัดสินคดียึดทรัพย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เนื่องจากที่ผ่านมากลุ่ม นปช.ไม่มีการเคลื่อนไหวแต่อย่างใด นอกจากนี้โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยด้วยว่าขณะนี้ปรากฏรายชื่อบุคคลจำนวน 212 คน ที่ถูกรัฐบาลขึ้นบัญชีดำออกเผยแพร่ตามสื่อต่างๆ โดยรายชื่อที่ปรากฏ 100 รายชื่อแรก เป็นคนในตระกูล ชินวัตร ตระกูล ดามาพงศ์ และคนใกล้ชิด ส่วนอีก 101 รายชื่อ เป็นกลุ่มนปช.ได้เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลอยู่ในขณะนี้

นอกจากนี้ยังมีพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ที่ถูกขึ้นบัญชีดำด้วย 11 รูป และกลุ่มพระสงฆ์อีก 6 รูป ที่ยังไม่ระบุชื่อซึ่งเรื่องนี้ตนจะยื่นหนังสือถึงนายกรับมนตรีให้ตรวจสอบและจะสอบถามถึงเหตุผลในการขึ้นบัญชีดำดังกล่าวในวันอังคารที่ 2 มี.ค. ทั้งนี้หากรายชื่อตามบัญชีดำดังกล่าวเป็นเรื่องจริงหรือเป็นการกระทำละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้อยแรง และเป็นการกระทำที่สมควรประณามอย่างยิ่ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook