โคลนซัดถล่มเกาะมาไดร่าสังเวย38ศพ
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองฟันชาล บนเกาะมาไดร่า ประเทศโปรตุเกส เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ว่า นายโจอัว คุนยา เอ ซิลวา รองประธานรัฐบาลท้องถิ่นแห่งเกาะมาไดร่า เปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์ซิค โนติเซียสว่า ภัยธรรมชาติที่เกิดจากน้ำท่วมฉับพลัน และดินถล่มลงมาทับถมบ้านเรือน ราษฎร เส้นทางสัญจรเช่นสะพานถูกตัดขาด ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก โดยนายฟรานซิสโก รามอส เลขานุการฝ่ายกิจการสังคมของรัฐบาลท้องถิ่นเกาะมาไดร่า เปิดเผยว่า พบผู้เสียชีวิตแล้ว 38 ศพ และบาดเจ็บอีกกว่า 100 คน ตัวเลขผู้เคราะห์ร้ายอาจสูงกว่านี้ก็ได้ เพราะเจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติการค้นหาศพผู้เสียชีวิต นอกจากนั้น ยังมีประชาชนไร้ที่อยู่อาศัย 250 คน
บนเกาะมาไดร่า ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งของโปรตุเกส ตั้งอยู่ในเขตมหาสมุทรแอตแลนติก ห่างจากชายฝั่งของโปรตุเกสประมาณ 900 กม. และห่าง 500 กม. จากชายฝั่งด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกา แม้สนามบินยังต้องปิดทำการ รวมถึงระบบสาธารณูปโภคอย่างไฟฟ้าและโทรศัพท์ก็ยังถูกตัดขาด ดังนั้นทางรัฐบาลท้องประกาศเตือนประชาชนว่า หากไม่มีความจำเป็นใด ๆ อย่าเสี่ยงออกนอกบ้าน เพื่อความปลอดภัยเป็นสำคัญ แต่ภาพข่าวทางโทรทัศน์แสดงให้เห็นว่ายังมีประชาชนออกจากบ้านในเมืองฟันชาล เมืองใหญ่ของเกาะนี้ แม้ต้องเผชิญกับกระแสน้ำไหลหลากซึ่งเป็นน้ำป่าที่ไหลบ่าลงมาจากเขาถาโถมลงมาตามตรอกซอกซอยบนพื้นราบ
แถลงการณ์ของกองทัพโปรตุเกสระบุ ว่า เรือฟรีเกตชื่อ คอร์เต้-เรอัล ได้แล่น ออกจากกรุงลิสบอนเมืองหลวงของโปรตุเกส มุ่งหน้ามายังเกาะมาไดร่าแล้ว เมื่อวันอาทิตย์ ที่ผ่านมา พร้อมกับเฮลิคอปเตอร์ ทีมแพทย์และสิ่งของบรรเทาทุกข์ นอกจากนั้นก็ยังมีเฮลิคอปเตอร์อีก 2 ลำ พร้อมเครื่องบินขนส่งซี-130 อีก 2 ลำของกองทัพอากาศ ก็อยู่ระหว่างการเดินทางมาช่วยเหลือเกาะมาไดร่า รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจกับนักผจญเพลิงอีก 89 คน
ส่วนประธานรัฐบาลท้องถิ่นของเกาะมาไดร่าได้หารือกับนายโฮเซ่ มานูเอล บาร์โรโซ ประธานกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) เพื่อขอความช่วยเหลือจากอียู ขณะที่ประธานา ธิบดีอานิบัล คาวาโก ซิลวา แห่งโปรตุเกส กล่าวว่า กษัตริย์ฮวน คาร์ลอส แห่งสเปน ได้ให้สัญญาแล้วว่าจะให้ความช่วยเหลือกับเกาะมาไดร่า และนายกรัฐมนตรีโฮเซ่ โซคราเตส แห่งโปรตุเกส กล่าวว่า รู้สึกตกใจที่มีผู้เสียชีวิตจากภัยธรรมชาติครั้งนี้และรัจะให้ความช่วยเหลือกับชาวเกาะมาไดร่า
รายงานข่าวระบุว่า กระแสลมแรงและ ฝนฟ้าคะนองทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ตอนใต้ของเกาะมาไดร่า ความเร็วลมสูงถึง 100 กม. ต่อชั่วโมง ทำให้เกิดคลื่นลมแรงในทะเล รวมถึงเส้นทางสัญจรทางบกถูกตัดขาด ไม่สามารถส่งทีมกู้ ภัยเข้าไปในพื้นที่ประสบอุทกภัยได้ แม้ผู้เชี่ยว ชาญด้านอากาศได้ออกมาระบุว่า พายุฝนได้หยุดแล้วก็ตาม
ในเมืองฟันชาลซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่ 100,000 คน มีรายงานว่ามีหญิงชราผู้หนึ่งเสียชีวิตเพราะหลังคาบ้านตัวเองพังถล่มลงมาทับ ขณะที่อีก 2 ศพ เสียชีวิตเพราะปั้นจั่นล้ม ทับ ชาวบ้านหลายคนตัดสินใจอพยพออกจาก บ้านเรือนที่อยู่อาศัย เพราะยังหวาดวิตกเกี่ยวกับสภาพอากาศ เช่นน้ำในทะเล กลายเป็นสีน้ำตาลและคลื่นยังแรง ซึ่งสื่อมวลชนของโปรตุเกสรายงานด้วยว่า พายุฝนถล่มเกาะมาไดร่าถือว่ารุนแรงที่สุด นับตั้งแต่เดือน ต.ค. 2536 ซึ่งเคยมีผู้เสียชีวิต 8 ศพจากภัยธรรมชาติ.